โตโน่ เปิดใจประเด็นร้อน สถานะปัจจุบันกับ แตงโม

กลายเป็นเรื่องฮือฮาขึ้นมาเมื่อมีข่าวลือว่าคู่รัก "แตงโม - ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์" กับ "โตโน่ - ภาคิน คำวิลัยศักดิ์" มีเหตุให้ความสัมพันธ์ต้องสะดุดลงเสียแล้ว โดย โตโน่ เป็นฝ่ายเปิดใจถึงเรื่องนี้ว่า "ก็ต่างฝ่ายต่างทำงานครับ คือว่าตอนนี้ได้เจอกันน้อยลงนะครับ คือทั้งโม ทั้งผม งานค่อนข้างจะหนัก แล้วเวลามันไม่ตรงกันเลย ก็มีบ้างที่น้อยใจ ที่ไม่เข้าใจกันนะครับ ซึ่งผมคิดว่าเป็นเรื่องธรรมดาแหละ แต่จะบอกว่าไงดี ไม่ว่าจะเกิดปัญหาอะไรกันก็ตามแต่ แต่ว่าหน้าที่ ความรับผิดชอบ ความฝันหรืออะไรก็ตาม เราก็ยังต้องเดินต่อ เรายังต้องทำต่อ" โตโน่ ยังกล่าวอีกว่าปัญหาที่เกิดขึ้นไม่เกี่ยวกับกระแสข่าวที่ผ่านมา "ไม่ๆ ไม่มีความสำคัญเลยข่าวก่อนหน้านี้ หรือไม่ว่าจะเป็นข่าวไหนนะครับ 2 ปีที่ผ่านมา ผมว่าชัดเจนนะ ไม่ว่าจะเป็นข่าวในเรื่องของอะไรก็ตาม มันไม่ได้มีผลอะไรกับความรู้สึกของตัวผมเองนะครับ ถ้ามันจะเกิดปัญหาจริงๆ คงไม่ได้เกิดจากคนอื่นนะครับ แต่อาจจะเป็นในเรื่องของเวลา เป็นเรื่องของหน้าที่ความรับผิดชอบที่ต่างคนต่างต้องลุย ต่างต้องทำให้มันเต็มที่นะครับ เพราะว่าเรามีทุกวันนี้หรือว่าเราอยู่บนโลกใบนี้ เราไม่ได้อยู่คนเดียวนะครับ มันมีอีกหลายอย่างที่เราต้องทำเพื่อพวกเขา มีอีกหลายคนที่รอดูผลงาน ที่รอติดตามอะไรอยู่ เราก็ต้องทำให้มันเต็มที่ ไม่ว่าจะเกิดปัญหาอะไรก็ตามแต่ครับ"

เป็นไปได้ไหมที่ แตงโม ไม่เข้าใจเรื่องการทำงาน ด้าน โตโน่ ตอบว่า "ไม่ครับ เรื่องนี้จริงๆ ผมว่ามันไม่ได้เป็นเรื่องของใครถูกใครผิดนะครับ มันมีหลายอย่างเป็นองค์ประกอบนะ คือมันก็ทำงานหนักกันจริงๆ ทั้งตัวผม ทั้งโม แล้วก็คิวละคร โมก็ไม่ได้ถ่ายเรื่องเดียว ตัวผมเองทั้งเพลง ทั้งคอนเสิร์ต ทั้งละคร เพชฌฆาตดาวโจร ก็หนักมาก คือต้องอดทนนะครับ ต้องอดทนสูงมากกับภาวะต่างๆ ที่เกิดขึ้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเราก็ต้องทำหน้าที่ ทำความรับผิดชอบของตัวเองให้มันดีที่สุด เรามาทุกวันนี้ได้ เราไม่ได้มาเพราะแมวมอง เราไม่ได้มาเพราะใคร แต่เรามาเพราะคะแนนโหวต เรามาเพราะคนทั้งประเทศที่เขาเลือก ที่เขารักเรา ดังนั้นผมอยากจะรับผิดชอบความรู้สึกของพวกเขาในเรื่องของการทำงานของผมให้มันเต็มที่มากที่สุด ส่วนในเรื่องส่วนตัวของผมหรือว่าอะไรก็ตามแต่ ผมคิดว่าเป็นธรรมดานะครับ ที่จะมีทั้งตอนที่เข้าใจและไม่เข้าใจ"

เมื่อถูกถามว่าใช้คำว่าเลิกได้หรือเปล่า โตโน่ บอกว่ายังไม่ใช้คำนี้ "ไม่ครับ ไม่ๆ" ส่วนจะใช้คำว่า คู่รัก หรือ คู่ชีวิต ได้หรือไม่ เจ้าตัวเอ่ยว่า "ผมว่าก็ยังได้นะ ผมว่าได้นะ เพราะว่าตัวเราเอง จะบอกว่าไงดี มันไม่ใช่เป็นเรื่องของการหมดรัก มันไม่ใช่เป็นเรื่องในตรงนั้น มันเป็นเรื่องของความเข้าใจ เป็นเรื่องของทัศนคติ เป็นเรื่องของการใช้ชีวิตนะครับ ที่ผมคิดว่าทุกคู่คงต้องเจอ แต่ว่าเราจะผ่านไปในแบบไหน ในรูปแบบไหน อันนี้ผมยังไม่ทราบครับ จะบอกว่าไงดี ถ้ากลับไปเหมือนเดิม แล้วโมมีความสุข ผมมีความสุข หรือว่าเข้าใจในสิ่งที่เราเป็นในแต่ละคน ผมคิดว่ามันก็ไม่ใช่ปัญหาอะไรนะครับที่จะกลับไปคบกัน แต่ถ้าเกิดว่าทั้งสองฝ่ายต่างก็ทำเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการงานหรือว่ารับผิดชอบในเรื่องของความรักแล้ว แต่ยังปรับกันไม่ได้หรืออะไรไม่ได้ ผมคิดว่ามันก็คงต้องปล่อยให้เป็นเรื่องของอนาคต เป็นเรื่องของความรู้สึก"

หนุ่มคนนี้เสริมต่ออีกว่า "ผมคิดว่าเรื่องพวกนี้มันไม่ใช่จะวันสองวันแล้วมาพูดได้ แล้วผมก็ไม่อยากให้มีใครมาเกี่ยวข้องนะครับ ใครที่ไม่รู้จริงหรือข่าวลือต่างๆ ผมว่ามันไม่แฟร์กับความรู้สึก อย่างความรู้สึกของโมเราก็เป็นห่วงมาก เวลามีข่าวพวกมือที่สาม ผมว่ามันแย่นะ เพราะว่าจริงๆ แล้ว ไม่ได้เกี่ยวอะไรเลย ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรเลย แต่ว่ามันก็เกิดขึ้น แต่ก็ช่างมันนะครับ คือว่าตัวเราเองเรารู้อยู่ว่าเกิดอะไรขึ้นนะครับ" โตโน่ ยังเผยให้ได้รู้ถึงระยะเวลาที่ห่างกันว่า "เรื่องที่มันเริ่มมีปัญหา น่าจะประมาณ 3 เดือนนะครับ แต่ที่ห่างยังไม่ถึงเดือนครับ จริงๆ มีการคุยกันเรื่อยๆ นะครับเพื่อปรับความเข้าใจ กว่าจะรักกันได้ กว่าจะฝ่าฟันอะไรหลายๆ อย่างมาด้วยกัน ผมว่าก็มีค่านะครับ ดังนั้นถ้าเกิดว่ามันเกิดปัญหาหรืออะไรก็ตามแต่ ทั้งผม ทั้งโม ผมคิดว่าเรื่องพวกนี้ไม่ควรใช้อารมณ์ตัดสินเพียงอย่างเดียว บางทีต้องใช้เวลาในการใคร่ครวญ ในการคิดดูดีๆ ทั้งสองฝ่ายครับ"