-Spectre- (2015) A- อาหารจานหรูที่ขาดความกลมกล่อม

8 พ.ย. 58 22:07 น. / ดู 940 ครั้ง / 2 ความเห็น / 2 ชอบจัง / แชร์
hashtag: #isaracinema
"If you go there, you will cross over into a place where there is no mercy."

-Spectre- (2015) A-

หนังสายลับสุดอมตะเดินทางมาถึงตอนที่ 24 แล้ว ในภาคนี้เจมส์ บอนด์และ MI6 ต้องเผชิญกับสถานการณ์ตกที่นั่งลำบาก เมื่อหน่วยงานความมั่นคงได้พยายามสั่งปิดโครงการสายลับเนื่องจากเห็นว่าล้าสมัย ในขณะเดียวกัน เจมส์ บอนด์ ก็ได้ค้นพบความลับขององค์กร Spectre องค์กรที่ว่ากันว่าอันตรายที่สุดในโลก

เจมส์ บอนด์ เป็นภาพยนตร์ที่คงมาตรฐานเดิมเอาไว้ได้อย่างอยู่หมัด ไม่ว่าจะเป็นการหาโลเกชั่นน่าดึงดูด ฉากแอคชั่นที่สมจริงอย่างไม่ต้องพึ่งพา CGI (ถึงแม้จะดูเกินจริง) รวมถึงคาแรคเตอร์ของตัวละครที่ยังคงเสน่ห์เดิมของสายลับอัจฉริยะจอมเจ้าชู้ วายร้ายที่คิดแผนครอบครองโลก แม้จะเปลี่ยนรูปแบบและเทคโนโลยีไปตามยุคสมัยก็ตาม เป็นเหตุผลว่าเพราะอะไรภาพยนตร์ชุดเจมส์ บอนด์ ถึงได้ครองใจผู้ชมมากว่า 5 ทศวรรษ และมีการเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ทุกครั้งที่ออกฉาย โดยเฉพาะในภาค Skyfall (2012) ที่ได้รับเสียงวิจารณ์ว่าเป็นการพาผู้ชมเข้าสู่เบื้องลึกของชีวิตของพยัคฆ์ร้ายอมตะคนนี้



Spectre (2015) ถือเป็นเจมส์ บอนด์ ที่สอบผ่านในแง่ของคุณภาพและมาตรฐาน การเปิดมิติของตัวละครเจมส์ บอนด์ และสร้างความสนุกตื่นเต้นไปกับการจารกรรมได้อย่างไม่น่าผิดหวัง โดยเฉพาะ "ฉากเปิดเรื่อง" ที่เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในฉากเปิดที่ประณีตที่สุดในประวัติศาสตร์ของภาพยนตร์เจมส์ บอนด์ และในภาคนี้ ด้านอารมณ์ของตัวหนังแบ่งความเครียดและอารมณ์ขันได้อย่างดี ทำให้ผู้ชมรู้สึกว่า Daniel Craig เริ่มจะเป็น "เจมส์ บอนด์" เทียบเท่ากับนักแสดงในรุ่นก่อนมากขึ้น

แต่ในฐานะที่ได้ Sam Mendes ผู้กำกับคนเดิมจาก Skyfall (2012) จึงอดไม่ได้ที่จะนำมาเปรียบเทียบกัน และเป็นเรื่องน่าเสียดายที่ในภาพรวมแล้ว Spectre (2015) ยังขาดความกลมกล่อมและจุดมุ่งหมายที่แท้จริง โดยตัวหนังไม่สามารถเลือกทิศทางที่จะไปได้ และสับสนอลหม่านในความยิ่งใหญ่ของตัวมันเองจนหา "จุดพีค" ไม่เจอ ซึ่งต่างจาก Skyfall (2012) ที่ไล่ระดับอารมณ์จากเล็กไปถึงใหญ่เหมือนการปีนเขา ในขณะที่ Spectre (2015) นั้นยิ่งใหญ่มโหฬารแต่กลับ "ราบเรียบ" ไม่ว่าจะเป็นแง่ของแอคชั่นหรือดราม่า

บทสรุปของ Spectre (2015) นั้นคล้ายกับ "อาหารจานหรูหรา" ที่ยังขาดความกลมกล่อมของรสชาติไปในระดับหนึ่ง และไม่ใช่ภาพยนตร์เจมส์ บอนด์ที่ดีที่สุด แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ภาพยนตร์ชุดนี้ก็ยังสร้างความสนุกและเต็มไปด้วยอรรถรสของหนังสายลับเสมออย่างไม่เคยผิดหวัง และอาจเป็นอีกสาเหตุที่ว่าเพราะเหตุใด ประโยค "James Bond will return." จึงทำให้แฟนหนังตั้งตารอคอยได้ทุกครั้งที่หนังเข้าฉาย #isaracinema
แก้ไขล่าสุด 8 พ.ย. 58 22:11 | เลขไอพี : ไม่แสดง | ตั้งกระทู้โดย Windows 7

อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)

ความคิดเห็น

#1 | mninho | 9 พ.ย. 58 15:16 น.

เห็นด้วยเลยครับ

ไอพี: ไม่แสดง | โดย Windows 8.1

#2 | akdongone | 18 พ.ย. 58 20:00 น.

ดูแล้วเหมือนหนังยังมันส์ไม่สุด ไม่เหมือนภาคก่อนหน้า แต่โดยรวมก็สนุกดี

ไอพี: ไม่แสดง | โดย Windows 8.1

แสดงความคิดเห็น

จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google