มารู้ทัน "โรคไข้เลือดออก" กันเถอะ!!
11 พ.ย. 58 17:13 น. /
ดู 3,082 ครั้ง /
2 ความเห็น /
0 ชอบจัง
/
แชร์

จากการติดตามข่าวในช่วงนี้จะเห็นได้ว่ามีการระบาดของ "โรคไข้เลือดออก" หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า "ไข้เด็งกี" ซึ่งเป็นโรคที่เกิดขึ้นได้ง่ายและมีอันตรายถึงชีวิต จึงขอนำความรู้เรื่องไข้เลือดออกมาแบ่งปันให้ทุกคนค่ะ
โรคไข้เลือดออกเป็นโรคที่เกิดจากไวรัสเดงกี โดยมียุงลายเป็นพาหะ ระยะฟักตัวในยุง 8 - 12 วัน เมื่อยุงไปกัดคนก็จะปล่อยไวรัสเข้าสู่ร่างการ
อาการของไข้เลือดออก
1. มีไข้สูงอย่างเฉียบพลัน 38.5 - 41 องศาเซลเซียส ประมาณ 2 - 7 วัน (บางรายอาจมีอาการชัก)
2. มีจุดเลือดออกเล็กๆ กระจายตามตัว แขน ขา รายที่รุนแรงอาจอุจจาระเป็นเลือด สีดำ และช็อกได้
3. ตับโต กดเจ็บ ส่วนใหญ่จะคลำพบตับโต ประมาณวันที่ 3 - 4 นับแต่เริ่มป่วย
4. ประมาณ 1 ใน 3 ของผู้ป่วยจะมีอาการรุนแรง เกิดภาวะการไหลเวียนเลือดล้มเหลวหรือภาวะช็อก
5. อาการกระสับกระส่าย มือเท้าเย็น ชีพจรเบาเร็ว ความดันโลหิตเปลี่ยนแปลง
การดูแลผู้ป่วย
- ระยะไข้สูง ให้ยาลดไข้ ร่วมกับการเช็ดตัว (ใช้ยาพาราเซตามอล (อะเซตามิโนเฟน) เพื่อลดไข้ แก้ปวด และหลีกเลี่ยงยาแก้อักเสบชนิดไม่ใช่สเตอรอยด์ เช่น ไอบูโปรเฟน และ แอสไพริน เพราะอาจเพิ่มความเสี่ยงการมีเลือดออกได้)
- ผู้ป่วยอาจเสียน้ำ ควรให้ดื่มผงน้ำตาลเกลือแร่
- ดูแลอาการอย่างใกล้ชิด ป้องกันภาวะช็อก
- พบแพทย์ตามนัด เพื่อตรวจเช็คเกร็ดเลือด และความเข้มข้นของเลือด
การรักษา
การรักษายังไม่มียาต้านเชื้อไวรัสที่มีฤทธิ์เฉพาะสำหรับไข้เลือดออก ทำได้คือรักษาตามอาการและประคับประคองซึ่งได้ผลดีควรพบแพทย์ในระยะแรก
การป้องกันเป็นวิธีที่ดีที่สุด สามารถทำได้ดังนี้
- หลีกเลี่ยงที่ที่มียุงชุม หรือใส่เสื้อแขนยาว ขายาว
- กำจัดแหล่งเพราะพันธุ์ยุงในบ้าน รวมทั้งบริเวณรอบๆ บ้าน
- เลี้ยงปลากินลูกน้ำในอ่างบัวหรือแหล่งน้ำอื่นๆ
- ปิดฝาโอ่งหรือภาชะอื่นๆ ให้มิดชิด หรือใส่ทรายเคมีกำจัดลูกน้ำ
- ใส่เกลือหรือน้ำส้มสายชูในจานรองขาตู้กับข้าว
- ควรนอนในมุ้ง
ปฏิบัติตามสโลแกนนี้กันเลย "5ป.+1ข."

การ์ตูนดูเพลินๆ แต่ได้ความรู้ ตอน โรคไข้เลือดออก
https://www.youtube.com/watch?v=EuWkn84JW4U
เป็นคนหนึ่งนะคะที่คิดว่าโรคไข้เลือดออกนี้ไม่อันตราย คงเหมือนไข้ทั่วไป แต่จากการได้ศึกษาข้อมูลต้องเปลี่ยนความคิดใหม่ซะแล้ว เป็นโรคที่ควรให้ความสำคัญโรคหนึ่งเลย เพราะเกิดขึ้นได้ง่ายและมีอันตรายถึงชีวิต ฉะนั้นเราทุกคนควรหันมาร่วมด้วยช่วยกันป้องกันแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายกันเถอะค่ะ
ขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก Siriraj Piyamaharajkarun Hospital
โรงพยาบาลนนทเวช
อาการของไข้เลือดออก
1. มีไข้สูงอย่างเฉียบพลัน 38.5 - 41 องศาเซลเซียส ประมาณ 2 - 7 วัน (บางรายอาจมีอาการชัก)
2. มีจุดเลือดออกเล็กๆ กระจายตามตัว แขน ขา รายที่รุนแรงอาจอุจจาระเป็นเลือด สีดำ และช็อกได้
3. ตับโต กดเจ็บ ส่วนใหญ่จะคลำพบตับโต ประมาณวันที่ 3 - 4 นับแต่เริ่มป่วย
4. ประมาณ 1 ใน 3 ของผู้ป่วยจะมีอาการรุนแรง เกิดภาวะการไหลเวียนเลือดล้มเหลวหรือภาวะช็อก
5. อาการกระสับกระส่าย มือเท้าเย็น ชีพจรเบาเร็ว ความดันโลหิตเปลี่ยนแปลง
การดูแลผู้ป่วย
- ระยะไข้สูง ให้ยาลดไข้ ร่วมกับการเช็ดตัว (ใช้ยาพาราเซตามอล (อะเซตามิโนเฟน) เพื่อลดไข้ แก้ปวด และหลีกเลี่ยงยาแก้อักเสบชนิดไม่ใช่สเตอรอยด์ เช่น ไอบูโปรเฟน และ แอสไพริน เพราะอาจเพิ่มความเสี่ยงการมีเลือดออกได้)
- ผู้ป่วยอาจเสียน้ำ ควรให้ดื่มผงน้ำตาลเกลือแร่
- ดูแลอาการอย่างใกล้ชิด ป้องกันภาวะช็อก
- พบแพทย์ตามนัด เพื่อตรวจเช็คเกร็ดเลือด และความเข้มข้นของเลือด
การรักษา
การรักษายังไม่มียาต้านเชื้อไวรัสที่มีฤทธิ์เฉพาะสำหรับไข้เลือดออก ทำได้คือรักษาตามอาการและประคับประคองซึ่งได้ผลดีควรพบแพทย์ในระยะแรก
การป้องกันเป็นวิธีที่ดีที่สุด สามารถทำได้ดังนี้
- หลีกเลี่ยงที่ที่มียุงชุม หรือใส่เสื้อแขนยาว ขายาว
- กำจัดแหล่งเพราะพันธุ์ยุงในบ้าน รวมทั้งบริเวณรอบๆ บ้าน
- เลี้ยงปลากินลูกน้ำในอ่างบัวหรือแหล่งน้ำอื่นๆ
- ปิดฝาโอ่งหรือภาชะอื่นๆ ให้มิดชิด หรือใส่ทรายเคมีกำจัดลูกน้ำ
- ใส่เกลือหรือน้ำส้มสายชูในจานรองขาตู้กับข้าว
- ควรนอนในมุ้ง
ปฏิบัติตามสโลแกนนี้กันเลย "5ป.+1ข."

การ์ตูนดูเพลินๆ แต่ได้ความรู้ ตอน โรคไข้เลือดออก
https://www.youtube.com/watch?v=EuWkn84JW4U
เป็นคนหนึ่งนะคะที่คิดว่าโรคไข้เลือดออกนี้ไม่อันตราย คงเหมือนไข้ทั่วไป แต่จากการได้ศึกษาข้อมูลต้องเปลี่ยนความคิดใหม่ซะแล้ว เป็นโรคที่ควรให้ความสำคัญโรคหนึ่งเลย เพราะเกิดขึ้นได้ง่ายและมีอันตรายถึงชีวิต ฉะนั้นเราทุกคนควรหันมาร่วมด้วยช่วยกันป้องกันแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายกันเถอะค่ะ
ขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก Siriraj Piyamaharajkarun Hospital
โรงพยาบาลนนทเวช
แก้ไขล่าสุด 11 พ.ย. 58 18:46 |
เลขไอพี : ไม่แสดง
| ตั้งกระทู้โดย WinXP
อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)
ความคิดเห็น
https://hellokhunmor.com/สุขภาพชีวิตที่ดี/โภชนาการ/ไข้เลือดออก-อาหาร/
ขออนุญาติมาแชร์ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ โรคไข้เลือดออกนะคะ โดยเป็นเรื่องของ อาหาร 6อย่างต่อไปนี้ ที่ช่วยในการฟื้นฟูร่างกาย สำหรับผู้ป่วยไข้เลือดออกนะคะ จะมีอะไรบ้างนั้น ลองเข้าไปอ่านกันเลยค่ะ
ไอพี: ไม่แสดง
| โดย Windows 10
จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google