เจเอเอส แอสเซ็ท (มหาชน) สยายปีก บุกศูนย์การค้าชุมชน ทุ่ม 500 ล้านบาท เปิด The Jas รามอินทรา เสริมความแกร่งธุรกิจ
29 พ.ย. 58 20:44 น. /
ดู 915 ครั้ง /
1 ความเห็น /
0 ชอบจัง
/
แชร์
เจเอเอส แอสเซ็ท (มหาชน) สยายปีก บุกศูนย์การค้าชุมชน ทุ่ม 500 ล้านบาท เปิด The Jas รามอินทรา เสริมความแกร่งธุรกิจ
บริษัท เจเอเอส แอสเซ็ท จำกัด (มหาชน) ผู้ดำเนินธุรกิจการบริหารพื้นที่เช่าภายในศูนย์การค้า และธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์มากว่า 15 ปี รุกคืบด้วยการเปิดศูนย์การค้าชุมชน สาขาที่ 2 The Jas รามอินทรา บนเนื้อที่กว่า 9 ไร่ มีพื้นที่ขายกว่า 12,000 ตร.ม. ริมถนนรามอินทรา-ลาดปลาเค้า เจาะกลุ่มครอบครัว และคนรุ่นใหม่ที่นิยมช็อปสะดวก ใกล้บ้าน โดยรวบรวมร้านค้าแบรนด์ดังไว้มากมาย ทั้งร้านอาหาร ซุปเปอร์มาร์เก็ต ฟิตเนส พร้อมที่จอดรถสะดวกสบายกว่า 350 คัน ด้วยเงินลงทุนกว่า 500 ล้านบาท พร้อมโชว์เจ๋งขายพื้นที่เรียบเกิน 95 เปอร์เซ็นต์ คาดมีผู้ใช้บริการอย่างต่ำ 3,000 คนในวันปกติ และศุกร์-อาทิตย์ 5000 คน (20 พ.ย. 58 ณ The Jas รามอินทรา )
คุณนงลักษณ์ ลักษณะโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจเอเอส แอสเซ็ท จำกัด (มหาชน) เผยว่า จากความสำเร็จในการขยายธุรกิจด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ในรูปแบบศูนย์การค้าชุมชน สาขาแรกที่ The Jas วังหิน ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ทางบริษัทฯ จึงได้เปิดตัวศูนย์การค้าชุมชน The Jas สาขาที่ 2 คือ The Jas รามอินทรา เพื่อเป็นเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจ จากประสบการณ์การบริการพื้นที่มากว่า 15 ปี อีกทั้งปัจจุบันได้เป็นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เชื่อมั่นได้ว่าบริษัทจะขยายธุรกิจให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง และมั่นคง
ปัจจุบันธุรกิจของบริษัทแบ่งออกเป็น 3 รูปแบบหลัก คือ 1) การบริหารพื้นที่เช่าภายในศูนย์การค้าในส่วนโทรศัพท์เคลื่อนที่และสินค้าเทคโนโลยี ภายใต้ชื่อ IT Junction 2) การพัฒนาและบริหารพื้นที่ในรูปแบบตลาดชุมชน ภายใต้ชื่อ J Market และ 3) การพัฒนาและบริหารพื้นที่ในรูปแบบศูนย์การค้าชุมชน ภายใต้ชื่อ The Jas สำหรับการพัฒนาและบริหารพื้นที่ในรูปแบบศูนย์การค้าชุมชน ภายใต้ชื่อ The Jas ในปี 2557 บริษัทเริ่มดำเนินการพัฒนาและบริหารพื้นที่ในรูปแบบศูนย์การค้าชุมชนแห่งแรก ในโครงการ The Jas วังหิน ซึ่งตั้งอยู่บน ถ.ลาดพร้าว-วังหิน เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ โดยมีขนาดพื้นที่โครงการทั้งหมด 5 ไร่ 2 งาน 20 ตารางวา และมีพื้นที่ให้เช่าทั้งหมด ประมาณ 5,750 ตร.ม. (หากไม่รวมพื้นที่ลานโปรโมชั่นและพื้นที่ในลักษณะoutdoor จะเหลือพื้นที่เช่า 4,970 ตร.ม.) โดยมีผู้เช่าหลัก ได้แก่ Tops Market, Starbucks, Zen, MK Restaurant ซึ่งโครงการดังกล่าวบริษัทเป็นเจ้าของที่ดินสำหรับพัฒนาศูนย์การค้าชุมชนเอง และเปิดให้บริการตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2557 จนล่าสุดบริษัทฯ ได้ขยายการลงทุน สาขาที่ 2 The Jas รามอินทรา ซึ่งตั้งอยู่ที่ ถ.ลาดปลาเค้า เขตบางเขน กรุงเทพฯ
สำหรับเป้าหมาย ปัจจุบันบริษัทมีพื้นที่เช่ารวมทั้งสิ้นมากกว่า 20,000 ตร.ม. มีสาขารวมทั้ง 3 ธุรกิจอยู่ที่ 49 สาขา โดยบริษัทมีเป้าหมายในการขยายจำนวนพื้นที่เช่าทั้ง 3 รูปแบบ (IT Junction, J Market และ The Jas) ให้มากกว่า 100 สาขา ภายใน 5 ปี (ภายในปี 2562) โดยมีวิสัยทัศน์ มุ่งสู่การเป็นผู้นำด้านการบริหารจัดการพื้นที่เช่าภายในศูนย์การค้า และเป็นนักพัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อชุมชนที่น่าอยู่ยิ่งขึ้น
ด้านรายละเอียด จุดเด่น The Jas รามอินทรา ตั้งอยู่บริเวณ รามอินทรา กม.2 ลาดปลาเค้า บนที่ดินกว่า 9 ไร่ ใช้พื้นที่ก่อสร้างรวม 28,000 ตารางเมตร พื้นที่ขายกว่า 12,000 ตารางเมตร และที่จอดรถกว่า 350 คัน (ใหญ่กว่าสาขาวังหินประมาณ 1 เท่าตัว) รองรับกำลังซื้อคนในโซนนี้และผู้สัญจรผ่านไปมา โดยกลุ่มเป้าหมายหลัก อยู่ในระดับกลาง-บน เพราะมีทั้งบ้านเดี่ยวราคาตั้งแต่ยูนิตละกว่า 10 ล้านบาท รวมถึงทาวน์โฮม, คอนโดมิเนียมเกิดใหม่มากมายเกินกว่าสิบโครงการฯ ปัจจุบันมีผู้จองพื้นที่แล้วกว่า 95% และมั่นใจว่าจะปิดการขายเต็มพื้นที่ทั้งโครงการ 100% ภายในสิ้นปี 2558
The Jas รามอินทรา เป็นศูนย์การค้าแบบเปิด มีที่จอดรถสะดวกสบายกว่า 350 คัน มีร้านค้า แบรนด์ดัง ที่สามารถตอบสนองไลฟ์สไตล์กลุ่มเป้าหมายอย่างครบถ้วน โดยมีทั้งร้านอาหาร , ซุปเปอร์มาร์เก็ต , ฟิตเนส , โซนบิวตี้ , โซนเอ็ดดูเคชั่น และบริการด้านต่างๆ อาทิ Starbucks , Maxvalue , Swensens ,ธนาคารกรุงเทพ, Wine connection, MoMo Paradise , Santafe , Mk , Yayoi , Domino Pizza , Chairman by Chafman , ไก่ย่างพระราม 9 เป็นต้น
ผู้พัฒนาโครงการ บริษัท เจเอเอส แอสเซ็ท จำกัด (มหาชน) เริ่มดำเนินธุรกิจตั้งแต่ปี 2543 จากการเป็นหน่วยงานหนึ่งใน บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) ซึ่งในขณะนั้นเจมาร์ทได้ขยายธุรกิจบริหารพื้นที่เช่าภายในศูนย์การค้าโดยเริ่มเช่าพื้นที่ในส่วนโทรศัพท์เคลื่อนที่และสินค้าเทคโนโลยีในศูนย์การค้าบิ๊กซี จังหวัดนครปฐม เป็นแห่งแรก ภายใต้ชื่อ IT Junction ต่อมาธุรกิจบริหารพื้นที่เช่าดังกล่าวได้ขยายตัวและเติบโตจนเป็นธุรกิจหลักของบริษัท ต่อมาในปี 2555 และปี 2557 บริษัทได้ขยายธุรกิจไปสู่การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ในรูปแบบตลาดชุมชนและศูนย์การค้าชุมชน ตามลำดับ
ภายในงานแถลงข่าว คุณนงลักษณ์ ลักษณะโภคิน ยังได้ปิดตัวทีมบริหาร คุณสุปรีชา อังธีระนุวงศ์ CFO, คุณเอกชัย สุขุมวิทยา CMO บริษัท เจเอเอส แอสเซ็ท จำกัด (มหาชน) อธิบายเพิ่มเติมถึง แนวทางการทำงานของบริษัทฯ ยึดหลัก มือใหม่ต้องกล้าใช้เท้า ซึ่งธุรกิจบริษัทฯ มีความน่าสนใจ ดังนี้
- เราวางตัวเองเป็น ศูนย์การค้าชุมชน ก่อนจะเปิดให้บริการ ศึกษา ทำโฟกัสกรุ๊ป หลังเปิดก็สร้างกิจกรรมให้คนในชุมชนมีส่วนร่วม ตลาดต้องการอะไรเพิ่มเราเอามาเติม ในตลาดนี้เราเป็นผู้เล่นใหม่ คิดว่าต้องกล้าใช้เท้า เดินสำรวจ ทำแบบสอบถาม ทำโฟกัสกรุ๊ป กว่าสามเดือน เพื่อให้ซัคเซสในทุกจุด
- ไม่ได้โฟกัสเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯ ขอเป็นพื้นที่ชุมชนหนาแน่น เพราะจากประสบการณ์บริหารพื้นที่ สองสิ่งที่ทำให้ศูนย์การค้าแบบเปิดประสบความสำเร็จ คือ ร้านค้าเยอะ เดินทางสะดวก ลูกค้าเดินทางไม่เกิน 15 นาที (รัศมี 3-5 กิโลเมตร)
- The Jas วังหิน พื้นที่ 5 ไร่ เต็มต่อเนื่อง ทั้งร้านค้าและคนช็อปปิ้ง เรานำประสบการณ์และดีมานด์ตรงนั้น มาพัฒนา The Jas ลาดปลาเค้า ด้วยเนื้อที่กว่า 9 ไร่ มีโซนต่างๆ ครบครัน แบงค์กิ้ง,บิวตี้, เอ็ดยูเคชั่น, เซอร์วิส ฯลฯ รวมถึง ร้านกลางคืน สีสันไนท์ไลฟ์ ซึ่งเป็นที่ต้องการมากสำหรับคนยุคใหม่
- ก่อนหน้านี้ ดำเนินธุรกิจในนามเจมาร์ท บริหารพื้นที่เช่าให้ผู้ค้ารายย่อยเปิดร้านจำหน่ายโทรศัพท์มือถือ ขยายในบิ๊กซี ปัจจุบันมีกว่าร้อยสาขา มากที่สุดในเมืองไทย ผู้เล่นรายอื่นมีไม่เกิน 6 สาขา
- รายได้ โตจากปีก่อน ไม่น้อยกว่า 20 เปอร์เซ็นต์ ปีที่แล้ว 400 ล้านบาท ครึ่งปีแรกตามเป้า 250 ล้านบาท
- ปัจจุบัน รายได้หลัก เนื่องจากเราทำธุรกิจบริหารพื้นที่เช่าให้ขายโทรศัพท์มือถือมาก่อน ดังนั้น ไอทีจังก์ชั่น 85 เปอร์เซ็นต์ เดอะแจส 11 เปอร์เซ็นต์ และเจมาร์เก็ต 4 เปอร์เซ็นต์ ตั้งเป้าว่าอีก 4 ปีข้างหน้าจัดเปลี่ยนไป ) เป็น 60 /20/ 20 ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าจะหยุดเติบโตในธุรกิจ แต่คาดว่าตัววอลุ่มจะน้อยกว่า และตั้งเป้าเปิด เดอะแจส ให้ได้อย่างต่ำปีละ 1 สาขา
- ธุรกิจเรามี 3 ประเภท แต่ละประเภทเรามีคู่แข่ง ไอทีจังก์ชัน เรามีสาขาเยอะที่สุด เป็นผู้นำ (ผู้เล่นอื่นไม่เกิน 6 ที่) ด้านตลาดกลางคืน และศูนย์การค้าชุมชน เราเป็นน้องใหม่ จึงตองศึกษาดีๆ ก้าวช้าๆ ให้ซัคเซสในแต่ละจุด ทั้งนี้ถ้ารวมแล้วทั้งสามบิสสิเนส ถือว่าเราเป็นบริษัทฯ ที่ไม่มีคู่แข่ง ไม่มีใครทำทั้งสามโมเดล
- เราทำธุรกิจมีวิชั่น คือ เพื่อชุมชนที่น่าอยู่ยิ่งขึ้น นอกจากเป็นศูนย์การค้าชุมชนแล้ ว ยังพยายามสร้าง จุดเรียนรู้ของเด็กและเยาวชน เปิดโอกาสให้ชุมชนมีส่วนร่วมมากที่สุด เช่น การจัดกิจกรรมประกวดความสามารถต่างๆ , สอนอาหาร นอกจากนี้ยังเชิญหน่วยงานต่างๆ ที่อยู่ในชุมชนเข้ามาเป็นพาร์ทเนอร์ในการทำกิจกรรมร่วมกัน อาทิ กิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ 1-5 ธ.ค.
.... กระทู้นี้ย้ายมาจากห้องเบ็ดเตล็ด ...
คุณนงลักษณ์ ลักษณะโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจเอเอส แอสเซ็ท จำกัด (มหาชน) เผยว่า จากความสำเร็จในการขยายธุรกิจด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ในรูปแบบศูนย์การค้าชุมชน สาขาแรกที่ The Jas วังหิน ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ทางบริษัทฯ จึงได้เปิดตัวศูนย์การค้าชุมชน The Jas สาขาที่ 2 คือ The Jas รามอินทรา เพื่อเป็นเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจ จากประสบการณ์การบริการพื้นที่มากว่า 15 ปี อีกทั้งปัจจุบันได้เป็นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เชื่อมั่นได้ว่าบริษัทจะขยายธุรกิจให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง และมั่นคง
ปัจจุบันธุรกิจของบริษัทแบ่งออกเป็น 3 รูปแบบหลัก คือ 1) การบริหารพื้นที่เช่าภายในศูนย์การค้าในส่วนโทรศัพท์เคลื่อนที่และสินค้าเทคโนโลยี ภายใต้ชื่อ IT Junction 2) การพัฒนาและบริหารพื้นที่ในรูปแบบตลาดชุมชน ภายใต้ชื่อ J Market และ 3) การพัฒนาและบริหารพื้นที่ในรูปแบบศูนย์การค้าชุมชน ภายใต้ชื่อ The Jas สำหรับการพัฒนาและบริหารพื้นที่ในรูปแบบศูนย์การค้าชุมชน ภายใต้ชื่อ The Jas ในปี 2557 บริษัทเริ่มดำเนินการพัฒนาและบริหารพื้นที่ในรูปแบบศูนย์การค้าชุมชนแห่งแรก ในโครงการ The Jas วังหิน ซึ่งตั้งอยู่บน ถ.ลาดพร้าว-วังหิน เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ โดยมีขนาดพื้นที่โครงการทั้งหมด 5 ไร่ 2 งาน 20 ตารางวา และมีพื้นที่ให้เช่าทั้งหมด ประมาณ 5,750 ตร.ม. (หากไม่รวมพื้นที่ลานโปรโมชั่นและพื้นที่ในลักษณะoutdoor จะเหลือพื้นที่เช่า 4,970 ตร.ม.) โดยมีผู้เช่าหลัก ได้แก่ Tops Market, Starbucks, Zen, MK Restaurant ซึ่งโครงการดังกล่าวบริษัทเป็นเจ้าของที่ดินสำหรับพัฒนาศูนย์การค้าชุมชนเอง และเปิดให้บริการตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2557 จนล่าสุดบริษัทฯ ได้ขยายการลงทุน สาขาที่ 2 The Jas รามอินทรา ซึ่งตั้งอยู่ที่ ถ.ลาดปลาเค้า เขตบางเขน กรุงเทพฯ
สำหรับเป้าหมาย ปัจจุบันบริษัทมีพื้นที่เช่ารวมทั้งสิ้นมากกว่า 20,000 ตร.ม. มีสาขารวมทั้ง 3 ธุรกิจอยู่ที่ 49 สาขา โดยบริษัทมีเป้าหมายในการขยายจำนวนพื้นที่เช่าทั้ง 3 รูปแบบ (IT Junction, J Market และ The Jas) ให้มากกว่า 100 สาขา ภายใน 5 ปี (ภายในปี 2562) โดยมีวิสัยทัศน์ มุ่งสู่การเป็นผู้นำด้านการบริหารจัดการพื้นที่เช่าภายในศูนย์การค้า และเป็นนักพัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อชุมชนที่น่าอยู่ยิ่งขึ้น
ด้านรายละเอียด จุดเด่น The Jas รามอินทรา ตั้งอยู่บริเวณ รามอินทรา กม.2 ลาดปลาเค้า บนที่ดินกว่า 9 ไร่ ใช้พื้นที่ก่อสร้างรวม 28,000 ตารางเมตร พื้นที่ขายกว่า 12,000 ตารางเมตร และที่จอดรถกว่า 350 คัน (ใหญ่กว่าสาขาวังหินประมาณ 1 เท่าตัว) รองรับกำลังซื้อคนในโซนนี้และผู้สัญจรผ่านไปมา โดยกลุ่มเป้าหมายหลัก อยู่ในระดับกลาง-บน เพราะมีทั้งบ้านเดี่ยวราคาตั้งแต่ยูนิตละกว่า 10 ล้านบาท รวมถึงทาวน์โฮม, คอนโดมิเนียมเกิดใหม่มากมายเกินกว่าสิบโครงการฯ ปัจจุบันมีผู้จองพื้นที่แล้วกว่า 95% และมั่นใจว่าจะปิดการขายเต็มพื้นที่ทั้งโครงการ 100% ภายในสิ้นปี 2558
The Jas รามอินทรา เป็นศูนย์การค้าแบบเปิด มีที่จอดรถสะดวกสบายกว่า 350 คัน มีร้านค้า แบรนด์ดัง ที่สามารถตอบสนองไลฟ์สไตล์กลุ่มเป้าหมายอย่างครบถ้วน โดยมีทั้งร้านอาหาร , ซุปเปอร์มาร์เก็ต , ฟิตเนส , โซนบิวตี้ , โซนเอ็ดดูเคชั่น และบริการด้านต่างๆ อาทิ Starbucks , Maxvalue , Swensens ,ธนาคารกรุงเทพ, Wine connection, MoMo Paradise , Santafe , Mk , Yayoi , Domino Pizza , Chairman by Chafman , ไก่ย่างพระราม 9 เป็นต้น
ผู้พัฒนาโครงการ บริษัท เจเอเอส แอสเซ็ท จำกัด (มหาชน) เริ่มดำเนินธุรกิจตั้งแต่ปี 2543 จากการเป็นหน่วยงานหนึ่งใน บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) ซึ่งในขณะนั้นเจมาร์ทได้ขยายธุรกิจบริหารพื้นที่เช่าภายในศูนย์การค้าโดยเริ่มเช่าพื้นที่ในส่วนโทรศัพท์เคลื่อนที่และสินค้าเทคโนโลยีในศูนย์การค้าบิ๊กซี จังหวัดนครปฐม เป็นแห่งแรก ภายใต้ชื่อ IT Junction ต่อมาธุรกิจบริหารพื้นที่เช่าดังกล่าวได้ขยายตัวและเติบโตจนเป็นธุรกิจหลักของบริษัท ต่อมาในปี 2555 และปี 2557 บริษัทได้ขยายธุรกิจไปสู่การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ในรูปแบบตลาดชุมชนและศูนย์การค้าชุมชน ตามลำดับ
ภายในงานแถลงข่าว คุณนงลักษณ์ ลักษณะโภคิน ยังได้ปิดตัวทีมบริหาร คุณสุปรีชา อังธีระนุวงศ์ CFO, คุณเอกชัย สุขุมวิทยา CMO บริษัท เจเอเอส แอสเซ็ท จำกัด (มหาชน) อธิบายเพิ่มเติมถึง แนวทางการทำงานของบริษัทฯ ยึดหลัก มือใหม่ต้องกล้าใช้เท้า ซึ่งธุรกิจบริษัทฯ มีความน่าสนใจ ดังนี้
- เราวางตัวเองเป็น ศูนย์การค้าชุมชน ก่อนจะเปิดให้บริการ ศึกษา ทำโฟกัสกรุ๊ป หลังเปิดก็สร้างกิจกรรมให้คนในชุมชนมีส่วนร่วม ตลาดต้องการอะไรเพิ่มเราเอามาเติม ในตลาดนี้เราเป็นผู้เล่นใหม่ คิดว่าต้องกล้าใช้เท้า เดินสำรวจ ทำแบบสอบถาม ทำโฟกัสกรุ๊ป กว่าสามเดือน เพื่อให้ซัคเซสในทุกจุด
- ไม่ได้โฟกัสเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯ ขอเป็นพื้นที่ชุมชนหนาแน่น เพราะจากประสบการณ์บริหารพื้นที่ สองสิ่งที่ทำให้ศูนย์การค้าแบบเปิดประสบความสำเร็จ คือ ร้านค้าเยอะ เดินทางสะดวก ลูกค้าเดินทางไม่เกิน 15 นาที (รัศมี 3-5 กิโลเมตร)
- The Jas วังหิน พื้นที่ 5 ไร่ เต็มต่อเนื่อง ทั้งร้านค้าและคนช็อปปิ้ง เรานำประสบการณ์และดีมานด์ตรงนั้น มาพัฒนา The Jas ลาดปลาเค้า ด้วยเนื้อที่กว่า 9 ไร่ มีโซนต่างๆ ครบครัน แบงค์กิ้ง,บิวตี้, เอ็ดยูเคชั่น, เซอร์วิส ฯลฯ รวมถึง ร้านกลางคืน สีสันไนท์ไลฟ์ ซึ่งเป็นที่ต้องการมากสำหรับคนยุคใหม่
- ก่อนหน้านี้ ดำเนินธุรกิจในนามเจมาร์ท บริหารพื้นที่เช่าให้ผู้ค้ารายย่อยเปิดร้านจำหน่ายโทรศัพท์มือถือ ขยายในบิ๊กซี ปัจจุบันมีกว่าร้อยสาขา มากที่สุดในเมืองไทย ผู้เล่นรายอื่นมีไม่เกิน 6 สาขา
- รายได้ โตจากปีก่อน ไม่น้อยกว่า 20 เปอร์เซ็นต์ ปีที่แล้ว 400 ล้านบาท ครึ่งปีแรกตามเป้า 250 ล้านบาท
- ปัจจุบัน รายได้หลัก เนื่องจากเราทำธุรกิจบริหารพื้นที่เช่าให้ขายโทรศัพท์มือถือมาก่อน ดังนั้น ไอทีจังก์ชั่น 85 เปอร์เซ็นต์ เดอะแจส 11 เปอร์เซ็นต์ และเจมาร์เก็ต 4 เปอร์เซ็นต์ ตั้งเป้าว่าอีก 4 ปีข้างหน้าจัดเปลี่ยนไป ) เป็น 60 /20/ 20 ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าจะหยุดเติบโตในธุรกิจ แต่คาดว่าตัววอลุ่มจะน้อยกว่า และตั้งเป้าเปิด เดอะแจส ให้ได้อย่างต่ำปีละ 1 สาขา
- ธุรกิจเรามี 3 ประเภท แต่ละประเภทเรามีคู่แข่ง ไอทีจังก์ชัน เรามีสาขาเยอะที่สุด เป็นผู้นำ (ผู้เล่นอื่นไม่เกิน 6 ที่) ด้านตลาดกลางคืน และศูนย์การค้าชุมชน เราเป็นน้องใหม่ จึงตองศึกษาดีๆ ก้าวช้าๆ ให้ซัคเซสในแต่ละจุด ทั้งนี้ถ้ารวมแล้วทั้งสามบิสสิเนส ถือว่าเราเป็นบริษัทฯ ที่ไม่มีคู่แข่ง ไม่มีใครทำทั้งสามโมเดล
- เราทำธุรกิจมีวิชั่น คือ เพื่อชุมชนที่น่าอยู่ยิ่งขึ้น นอกจากเป็นศูนย์การค้าชุมชนแล้ ว ยังพยายามสร้าง จุดเรียนรู้ของเด็กและเยาวชน เปิดโอกาสให้ชุมชนมีส่วนร่วมมากที่สุด เช่น การจัดกิจกรรมประกวดความสามารถต่างๆ , สอนอาหาร นอกจากนี้ยังเชิญหน่วยงานต่างๆ ที่อยู่ในชุมชนเข้ามาเป็นพาร์ทเนอร์ในการทำกิจกรรมร่วมกัน อาทิ กิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ 1-5 ธ.ค.
.... กระทู้นี้ย้ายมาจากห้องเบ็ดเตล็ด ...
เลขไอพี : ไม่แสดง
| ตั้งกระทู้โดย Windows 10
อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)
ความคิดเห็น
ยังไม่มีความคิดเห็น
จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google