“ไพร์ม โรด พร็อพเพอร์ตี้” เปิดซิงอุดรธานีทุ่ม 1,000 ล้านปั้น “ไพร์มสแควร์” เป็นไชน่าทาวน์ AEC

“ไพร์ม โรด พร็อพเพอร์ตี้” เปิดซิงอุดรธานีทุ่ม 1,000 ล้านปั้น “ไพร์มสแควร์” เป็นไชน่าทาวน์ AEC “อุดรธานี”หัวเมืองเศรษฐกิจภาคอีสาน เนื้อหอมถึงขีดสุด ยิ่งปลายปี ยิ่งมีเค้ารางชัดเจนว่าต้นปีหน้าจะ      มีอะไรต่อมิอะไรเกิดขึ้นให้ได้อึ้ง ทึ่ง กันบ้าง!! ล่าสุดมีรายงานมาแล้วว่าบริษัท ไพรม์ โรด พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ซึ่งเป็นกลุ่มทุนพลังงานแตกไลน์มาพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เปิดซิงภูมิภาคอีสานตอนบน  โดยทุ่มเงินลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาทผุดโครงการอาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่กว่า 230 ยูนิต บนเนื้อที่ 23.5 ไร่ กลางเมืองอุดรธานี ภายใต้ชื่อโครงการ “ไพรม์ สแควร์ อุดรธานี”รองรับกลุ่มเป้าหมาย นักธุรกิจในพื้นที่,  ลูกค้าจากส่วนกลาง และกลุ่มทุนจากประเทศเพื่อนบ้านที่ใช้ จ.อุดรธานีเป็นฐานทำธุรกิจเผยศึกษาอัตราและตัวเลขเติบโตของเศรษฐกิจมาแล้ว มั่นใจเป็นอย่างมาก พร้อมให้จับตามองอีก 3-5 ปีข้างหน้าเป็นเขตเศรษฐกิจที่มีการจับจ่ายสะพัดไม่แพ้เมืองหลวง
นายสุรเชษฐ์ ชัยปัทมานนท์และ นายสมประสงค์ ปัญจะลักษณ์กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไพรม์ โรด พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ร่วมให้สัมภาษณ์ถึงรายละเอียดโครงการ “ไพร์ม สแควร์ อุดรธานี”
จังหวัดอุดรธานีถือว่าเป็นเมืองแห่งเศรษฐกิจของภาคอีสาน. สังเกตจากระยะเวลา 3 ถึง 5 ปีที่ผ่านมาอุดรมีการพัฒนาทั้งภาคเศรษฐกิจคุณภาพคุณภาพชีวิตและสังคม และธุรกิจมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องและก้าวกระโดดแม้กระทั่งภาคอสังหาริมทรัพย์มีนักลงทุนจากส่วนกลางเข้ามาลงทุนและเห็นช่องว่างและความต้องการ อสังหาริมทรัพย์อย่างต่อเนื่อง  อีกทั้งจังหวัดอุดรธานียังมีเศรษฐกิจที่เชื่อมโยงการค้าชายแดนไปยังประเทศลาว ที่มีการค้าระหว่างชายแดนปีละกว่าแสนล้าน. ซึ่งจำนวนหลายหมื่นล้านเป็นการค้าชายแดนระหว่างพ่อค้าในจังหวัดอุดรธานีรวมทั้งจังหวัดอุดรธานียังถูกตั้งให้เป็น ศูนย์กลาง การค้าเศรษฐกิจ.  และระบบโลจิสติกส์. เพื่อรองรับเขตเศรษฐกิจพิเศษจังหวัดหนองคาย และในอนาคตก็ยังจะมีนิคมอุตสาหกรรม อุดรธานี. การทำเหมืองแร่โปรแตส และความเจริญในภาคเศรษฐกิจ.  ภาคการศึกษา. สังคมและวัฒนธรรมจากการรวมตัว.  หลังหลังจากประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนเปิดตัวอย่างถาวร  จากปัจจัยต่างๆดังที่ผมกล่าวมาจะสามารถสรุปได้ว่าโครงการพัฒนาภาคอสังหาริมทรัพย์ของบริษัท ในจังหวัดอุดร หรือแม้กระทั่งการลงทุนในภาคธุรกิจอื่นๆในจังหวัดอุดรแห่งนี้จะประสบความสำเร็จ เป็นอย่างดี เนื่องจากกำลังการซื้อมหาศาล ที่มีในจังหวัดและจากส่วนกลางรวมทั้งจังหวัดใกล้เคียง รวมทั้งกำลังซื้อจากประเทศเพื่อนบ้านซึ่งมีอัตราเพิ่มอย่างต่อเนื่อง”
ในการนี้ บริษัทฯ จึงเห็นโอกาสที่จะดำเนินการพัฒนาพื้นที่เช่า ระยะเวลา 30 ปี (บวกระยะเวลาการก่อสร้าง 4 ปี) ของการรถไฟแห่งประเทศไทย ณ บริเวณสถานีรถไฟ อุดรธานี ซึ่งเป็นพื้นที่ที่อยู่ใน Prime Area และมีขนาดพื้นที่ใหญ่ที่สุด และพอเพียงที่จะทำการพัฒนาให้มีศักยภาพที่จะเป็นแหล่งศูนย์กลางการพาณิชย์กรรมแห่งใหม่ในจังหวัดอุดรธานี ที่สมบูรณ์ โดยโครงการฯ มีแนวความคิดการพัฒนาสินค้าและบริการประกอบด้วยเพราะตั้งใจให้ที่PRIME Square  แห่งนี้ เป็นแลนด์มาร์คที่สำคัญที่สุดอีกแห่งหนี่งในจังหวัดอุดรธานี
รายละเอียด โครงการ “ไพร์ม สแควร์ อุดรธานี”และแรงบันดาลใจ?
“เดิมทีกลุ่มธุรกิจของเราเราเน้นการทำธุรกิจพลังงานทางเลือก  เรามีโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ที่จังหวัดกำแพงเพชรเราทำโรงไฟฟ้าพลังงานลมในญี่ปุ่นและอีกหลากหลายธุรกิจในเอเซีย. และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ก็เป็นอีกหนึ่งธุรกิจ ที่เราตั้งใจ และมีเป้าหมายที่จะพัฒนาให้เทียบเท่า บริษัทฯ ชั้นนำในเมืองไทยหลายๆบริษัทฯ. โดยมีเป้าหมายที่จะพัฒนาโครงการอย่างต่อเนื่อง. โดยเริ่มจากโครงการ ไพร์ม สแควร์ แห่งนี้”
รายละเอียดการออกแบบและดีไซน์โครงการฯงบลงุทนและมูลค่าโครงการ?
“เนื่องจากที่นี่ นับเป็นทำเลทองมายาวนาน ตั้งแต่ในอดีตที่ผ่านมา ถึงปัจจุบันก็เป็นทำเลค้าขายที่ดีที่สุดในขณะนี้ และคาดว่าจะต่อเนื่องยาวนานจนถึงอนาคตอย่างแน่นอน บริษัทฯ จึงให้ความสำคัญด้านการลงทุนและการออกแบบให้สอดคล้อง โดยเราใช้ Concept: “Everything in one” ทำเลแห่งอนาคตที่ดีที่สุดใจกลางอุดรฯ, ติดศาลปู่ย่า, ศูนย์วัฒนธรรมไทยจีน สวนสาธารณะหนองบัว, ติดกับสถานีรถไฟรางคู่ และสถานีรถไฟฟ้าความเร็วสูง กรุงเทพ-หนองคาย(ในอนาคต), ใกล้ สิ่งอำนวยความสะดวก ครบครันหลากหลายรูปแบบ. อาทิ ยูดีทาวน์.  ตลาดสดหนองบัว โรงพยาบาล สวนสาธารณะ สนามกีฬามาตรฐาน รายล้อมด้วยห้างสรรพสินค้า แหล่งช้อปปิ้งครบครัน เซ็นทรัล, ยูดีทาวน์ เซ็นเตอร์พอยท์,  บิ๊กซี, แม็คโคร, Outlet mall เป็นต้น มีถนนเข้า-ออก สามารถเข้าถึงโครงการฯ ได้หลายเส้นทางด้านสิ่งอำนวยความสะดวกโครงการ เรามีพื้นที่จัดสวน พื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ พร้อมลานกิจกรรมกว่า 1000 ตรม., เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง, ระบบโทรทัศน์วงจรปิด 24 ชั่วโมง (CCTV), ระบบ Network Communicationพื้นที่จอดรถกว่า 300 คันสำหรับงบลงทุนโครงการนี้ ประมาณ 1,000 ล้านบาท และมีมูลค่าโครงการรวมทั้งสิ้น  1,200 ล้านบาท  โดยทางบริษัท ฯได้เตรียมงบลงทุนทั้งหมดไว้เรียบร้อยแล้วครับ
ปรียบเทียบปัจจุบันราคาขาย/เฉลี่ยต่อพื้นที่ (เทียบเคียง ละแวกเดียวกัน)อยู่ที่เท่าไหร่?
“จากการสำรวจทำเลค้าขายในเขตเมืองภายในถนนโพศรีเอง ประเภทอาคารพาณิชย์ มีราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 10-30 ล้านบาท ซึ่งเป็นอาคารดั้งเดิมที่ปลูกสร้างมาเป็นระยะเวลานาน. และเมื่อเปรียบเทียบกับอาคารรูปแบบใหม่ของโครงการที่เน้นทั้งความทันสมัยสะดวกสบาย ครบวงจร  กับราคาที่เริ่มต้นเพียง 4.5 ล้านบาท.  ซึ่งเชื่อว่าจะได้การตอบรับที่ดีสำหรับยอดขายของโครงการ จากพ่อค้าและนัก ธุรกิจในจังหวัดอุดรธานีและจังหวัดใกล้เคียง เป็นอย่างดีครับ”
จุดแข็งของโครงการไพรม์แสควร์เมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่ง?
สำหรับจุดแข็งของโครงการฯ โดยรวมๆ ขออธิบายเป็นจุดเด่นของโครงการฯ ละกันนะครับ ฉะนั้นผมขออธิบายเป็นข้อๆดังนี้ครับ ข้อแรกเรื่องทำเลที่ตั้งครับ สำหรับจังหวัดอุดรธานีปัจจุบัน โซนที่เป็นย่าน cbd ที่ดีที่สุดและมีมูลค่าสูงสุด คือบริเวณ ที่ตั้งโครงการ เพราะรายล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน. อาทิ ยูดีทาวน์ ฝั่งตรงข้ามเป็นตลาดสดหนองบัว และ ลุมพินีคอนโด ห่างจาก ศูยน์การค้าเซ็นทรัล เซ้นเตอร์พอยท์  รพ กรุงเทพเพียงไม่ถึง3นาที ซึ่งเป็นทำเลที่ดีที่สุดในการอยู่อาศัย และการประกอบการค้าใจกลางจังหวัดอุดร. และเป็นที่ดินผืนสุดท้ายที่ดีที่สุดในขณะนี้
ข้อสองด้านการคมนาคม เนื่องจากโครงการติดถนน โพศรีและนิตโย. ซึ่งเป็นถนนหลักและเป็นหัวใจหลักของย่านการค้า. และยังมีถนนโดยรอบโครงการในทุกๆด้าน สามารถเข้าออกได้หลายทางเชื่อมต่อกับถนนวงแหวน ซึ่งจะสะดวกมากในการสัญจรเข้าออกภายในโครงการ
ข้อสามด้านการออกแบบ. อย่างที่เรียนให้ทราบถึงรูปแบบคอนเซ็ปโครงการที่ถูกออกแบบด้วยสถาปัตยกรรมจีนร่วมสมัย หรือ Modern Chinese ซึ่งจะกลมกลืนกับย่านนี้เพื่อให้ตัวอาคารของเราเข้ากับพื้นที่ใกล้เคียง อย่าง ศาลเจ้าปู่ย่า และศูนย์วัฒนธรรมไทยจีน.  ส่วนผังโครงการก็ได้ขยายถนนเรียบทางรถไฟจากเดิม 8เมตร เป็น 34 เมตร. ประกอบกับถนนในโครงการที่กว้างขวาง และสามารถที่จะวนได้รอบโครงการ. พร้อมกับที่จอดรถจำนวนมากที่สามารถรองรับ รถของลูกค้าได้อย่างเพียงพอ
นอกจากนี้ ด้านราคาขายหากเปรียบเทียบราคาขายในพื้นที่ใกล้เคียง สำหรับที่อยู่อาศัยในย่านนี้. ยกตัวอย่าง คอนโดมิเนียม. ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยและไม่สามารถทำธุรกิจการค้าได้. ราคาต่อตารางเมตร. จะอยู่ที่ราคาเฉลี่ย ประมาณ 80,000 บาท/ตรม และหากเปรียบเทียบกับอาคารพาณิชย์ของโครงการที่มีราคาขายเฉลี่ย ที่ 5.5 ล้านที่เป็นสิทธิการเช่าระยะยาว จะอยู่ที่ราคาเฉี่ลย 24,444 บาท/ ตรม  ซึ่งถือเป็นราคาขายเพียง 30 % ของราคาตลาด. และยังมีสิ่งอำนวยความสดวก ครบครันสำหรับการประกอบธุรกิจในอนาคตให้ยั้งยืนได้และหากเปรียบเทียบรูปแบบโครงการ. กับโครงการสิทธิการเช่าในรูปแบบเดียวกัน. อาทิโครงการศูนย์การค้าส่งอยู่ถนน วงแหวนซึ่งไกลจากเขตเมือง และเป็นโครงสร้างชั่วคราว. จะเห็นว่าราคาขายโครงการส่วนใหญ่. จะเฉลี่ย / ตรมละ 100,000. บาท. หากเปรียบเทียบกับโครงการ Prime Square ที่มีทำเลใจกลางเมือ.ง. และมีโครงสร้างอาคารถาวร. เฉลี่ยย 24444 บาท/ตรม  ชึ่งคิดเป็น 24.4 % ของ ราคาตลาดคู่แข่ง. กับทำเลใจกลางเมืองที่ดีกว่า
ทีมงานระดับคุณภาพที่โครงการฯทำงานด้วย?
“เนื่องจากเราเป็นบริษัท อสังหาหน้าใหม่ และมีเป้าหมายที่จะโตในธุรกิจนี้ให้เร็วที่สุด. เราจึงได้ชักชวนผู้มีประสบการณ์ ความรู้ความสามารถ จากบริษัทชั้นนำต่างๆ ที่มีอุดมการณ์ และมีวิสัยทัศน์และมุมมองทางธุรกิจที่เหมือนกัน. ซึ่งในขณะนี้เรามีทีมงาน ทั้งด้านการออกแบบ. การขายการตลาดและพัฒนาธุรกิจ รวมทั้งทีมวิศวกรควบคุมงานก่อสร้างให้ได้มาตรฐาน เทียบเท่าบริษัทชั้นนำได้ในทุกกรณีครับ”
ความคืบหน้าโครงการฯ?
“เนื่องจากเป็นโครงการฯ ขนาดกลางและก่อสร้างบนพื้นที่ที่มีผู้อยู่อาศัยเดิม การพัฒนาโครงการจึงแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ซึ่งในส่วนแรกบริษัทฯ ได้เจรจาจ่ายค่าชดเชยกับเจ้าของอาคารเดิม  เสร็จสิ้นเรียบร้อย อยู่ระหว่างรื้อถอนและเริ่มส่วนที่สองได้แก่การก่อสร้าง ตามลำดับ และส่วนสุดท้ายเป็นที่ตั้งสำนักงานและบ้านพักของการรถไฟ เพื่อเป็นการตอบแทนให้กับการรถไฟและพนักงานการรถไฟในพื้นที่ บริษัทฯ ได้ลงทุนสร้างบ้านพักและสำนักงานในรูปแบบที่เน้นความสะดวกสบายและ ทันสมัย โดยลงทุนกว่า 180 ล้านบาทสำหรับการสร้างดังกล่าว เรามั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าเจ้าหน้าที่ของการรถไฟจะได้รับความเป็นอยู่ที่สะดวกสบายในการอยู่อาศัยและสภาพแวดล้อมการทำงานที่สะดวกสบายในระยะยาว ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้างอาคารชดเชยในโซนด้านท้ายของโครงการครับโดยมีความคืบหน้าไปแล้วกว่า 30%
ภาพรวมบริษัทฯ ด้านการลงทุนในอนาคต?
การลงทุนในอนาคต ทางบริษัท มีแผนที่จะพัฒนาที่ดินอีกหลายแปลง โดยเน้นลงทุนในจังหวัดหัวเมืองต่าง อาทิ ภูเก็ต ชลบุรีรวมทั้ง กทม. โดยบริษัทได้ซื้อที่ดินไว้หลายแปลง และอยู่ในขั้นตอนการออกแบบและวางแผนดำเนินงานเมื่อเสร็จแล้วคงจะได้แจ้งข่าวให้ทราบกันอีกทีครับ”