ดิว ขยาดถอดแหวนผิดวิธี ทวีอาการนิ้วชี้บวมเป่ง

ทำเอาแฟนๆ ตกอกตกใจไปตามๆ กันเมื่อได้เห็นรูปภาพของ "ดิว - อริสรา ทองบริสุทธิ์" กับนิ้วชี้ที่บวมเป่งเพราะถอดแหวนไม่ออก ผ่านทางอินสตาแกรมของหนุ่มคนสนิทอย่าง "ไผ่ วันพอยท์" หรือ "ไผ่ ลิกค์" ล่าสุดเจ้าตัวก็ออกมาบอกแล้วว่าหายดีแล้ว "ตอนนี้หายดีแล้วค่ะ แต่ก็คืออยู่ในช่วงหนังกำลังผลัดอยู่ เพราะว่ามันบวมไงคะ พอมันบวมแล้วมันหด หนังมันก็มีการยืดหยุ่น ผิวหนังมันก็เลยลอกอยู่" ดิว เล่าที่มาของการถอดแหวนไม่ออกจนได้เรื่องในครั้งนี้ว่า "จริงๆ แล้วมันคือดิวมีแหวนแบบเดียวกันน่ะค่ะ ดิวก็จะมีของนิ้วก้อย นิ้วนาง นิ้วชี้ แต่ด้วยตอนนั้นเหมือนกับว่าจะบวงสรวงแล้ว และนักข่าวรออยู่อะไรอย่างนี้ไง ดิวก็เลยหยิบๆ แล้วก็ยัดๆ เข้าไป ก็แบบรีบยัดๆ ใส่ๆ เข้าไป แล้วก็ไปถ่ายรูป แล้วไปๆ มาๆ คือเรากลายเป็นเอาของนิ้วนางมาใส่นิ้วชี้ มันก็เลยแน่น แต่ตอนนั้นคือมันด้วยตอนเช้าด้วยมั้งคะ ร่างกายเรามันก็ยังจะไม่ได้ขยายเต็มที่" ดิว ยอมรับว่าที่รูปออกมาดูน่ากลัวมาก เพราะพยายามทุกวิธีแล้วแต่ก็ไม่สามารถถอดแหวนได้ "ใช่ เพราะว่ามันเป่งมากค่ะ มันเป่งมาก และเราพยายามเอาออกด้วยทุกๆ วิธีแล้ว มันก็ไม่ออก มันอาจจะเป็นเพราะดิวซื่อบื้อเองด้วยแหละ เหมือนรีบหยิบแล้วก็รีบใส่อย่างนี้ค่ะ" ดาราสาวเผยความรู้สึกตอนที่รู้ตัวว่าถอดแหวนไม่ออกให้ฟังว่า "ตอนที่ถอดออกก็คือร้องลั่นบ้านเลย กรี๊ดรุนแรงมากอ่ะ เพราะว่าดันไปทำวิธีในยูทูบไง ก็เซิร์ชยูทูบ อุตส่าห์กินยาลดบวมแล้วก็นอนไปแล้วนะ แล้วก็เซิร์ชยูทูบว่าทำยังไง เขาก็ให้เอาเชือกร้อยแล้วค่อยๆ ดึง ไปๆ มาๆ มันไม่ออกอยู่ดีไง แล้วมันก็เลยยิ่งช้ำ ยิ่งเป็นตามรูปเลยค่ะ"

นักแสดงสาวเปิดใจที่นิ้วบวมขนาดนี้อาจเป็นเพราะความดื้อของตนเองที่ไม่ยอมไปตัดแหวนออกตั้งแต่แรก "คือเราไม่ยอมไปตัดออกตั้งแต่แรก เพราะมันเป็นแหวนเพชร เราหวงของไง เราก็ไม่หรอก เดี๋ยวมันก็ลด คือเราก็คงดื้อที่ไม่ยอมเอาออกตั้งแต่แรก จนมันบวมแล้วมันก็ไม่ออก แล้วสุดท้ายก็ต้องตัดแหวนอยู่ดีอ่ะค่ะ แหวนตอนนี้ไม่ได้เสียดายแล้วค่ะ คุณแม่เอาไปซ่อมให้แล้วค่ะ" สาวคนนี้แง้มว่าหนุ่ม ไผ่ เองก็ตกใจไม่เบา "เขาก็ตกใจ เพราะว่าสภาพที่เห็นคือมันม่วงมาก ขนาดผู้จัดการยังตกใจเลย ก็คือโทรมาทันทีค่ะว่ามันดูน่ากลัว" สาว ดิว ถึงกับออกปากว่าขยาดการใส่แหวนที่นิ้วชี้ไปอีกสักพักเลยทีเดียว "ไม่กล้าใส่เลยค่ะตอนนี้ เข็ดเลยค่ะ ครั้งที่แล้วอันที่หายก็แหวนนิ้วชี้ ครั้งนี้นิ้วชี้เน่าอีก ก็คงต้องพอกับนิ้วชี้ก่อนแป๊บหนึ่ง"