ไอซ์ จับมือ อากิโกะ ชิมลางบทนำภาพยนตร์ The Promise

23 พ.ค. 59 14:03 น. / ดู 969 ครั้ง / 0 ความเห็น / 0 ชอบจัง / แชร์
หลังจากเคยตามล่าความฝันบนเวที เดอะสตาร์ มาแล้ว ล่าสุดหนุ่ม "ไอซ์ - ณัฐพัชร์ ธนนนท์กิตติยศ" ก็กลับมาให้เห็นหน้าค่าตาอีกครั้งพร้อมบทบาท นัต ในภาพยนตร์เรื่องแรก "The Promise คิดถึงครึ่งชีวิต" ของค่ายภาพยนตร์นอกกระแส วรมิตร โปรดักชั่น ฝีมือผู้กำกับรุ่นใหม่ไฟแรง "แบงค์ - ชนพล  รินลา" ที่จับพระเอกหนุ่ม ไอซ์ มาประกบกับนางเอกชาวญี่ปุ่น "อากิโกะ โอเซกิ" (Akiko Ozeki) ได้อย่างลงตัว งานนี้พระเอกของเรื่องก็เล่าจุดเริ่มต้นที่ทำให้ได้ร่วมงานภาพยนตร์เรื่องนี้ให้ฟังว่า "บอกได้ล้วนๆ เลยครับว่าพรหมลิขิตเลย คนสองคนจากสถานที่ที่ต่างกันมาเจอกัน ได้คุยกันและถูกคอกันจนได้มาร่วมงานด้วยกัน ผมไม่ได้ไปแคสต์ และพี่ผู้กำกับก็ไม่ได้ประกาศรับสมัครนักแสดง แต่เราบังเอิญได้มาเจอกัน เพราะพี่เขาเห็นผมจากรูปถ่ายจากเมื่อตอนที่ผมยังอยู่ในวงการ แล้วพี่เขาก็อยากรู้จัก เลยติดต่อมา พอได้เจอกันตัวจริง พูดคุยกันก็เริ่มถูกคอกัน อาจจะเป็นเพราะผมมีนิสัยคล้ายตัวละครที่พี่เขากำลังจะเขียนอยู่ พี่เขาเลยเลือกผมให้มาร่วมงานด้วยกัน"
ไอซ์ เผยความรู้สึกที่ได้ลงจอเงินเป็นครั้งแรกว่า "ดีใจมาก ตอนแรกที่ทีมงานติดต่อมาแล้วส่งบทให้ดู รู้สึกประทับใจ อยากเล่นมาก ส่วนตัวผมไม่มีประหม่า เพราะที่ผ่านมาเคยเรียนการแสดง และมีโอกาสได้ลองชิมลางงานแสดงมาบ้าง แต่สำหรับเรื่อง The Promise คิดถึงครึ่งชีวิต ถือว่าเป็นบทพระเอกเต็มตัวครั้งแรก ผมก็ทุ่มเต็มที่ พยายามคุยกับผู้กำกับ เล่นแบบไหน เอาคาแรกเตอร์แบบไหนดี ซึ่งพี่แบงค์ผู้กำกับก็ช่วยผมมากในการตีความแต่ละฉาก" เจ้าตัวพูดถึงบทบาทตัวละครที่ได้รับว่า "นิสัยพระเอกนี่เหมือนผมแทบทุกอย่างเลยครับ ต่างกันอย่างเดียวคือพระเอกขยันแต่ผมไม่เลย พระเอกว่างปุ๊บต้องอ่านหนังสือ แต่ผมนี่ว่างคือนอนอย่างเดียวเลย ส่วนนิสัยที่เหลือนี่บอกได้เลยว่าเหมือนมาก ผมกับนัตเป็นคนไม่ค่อยสนใจสิ่งต่างๆ รอบตัว จะสนใจเฉพาะในสิ่งที่เราชอบหรือเราอยากรู้จริงๆ เป็นคนที่เก็บกด มีอะไรไม่ค่อยพูดออกมา ชอบการอยู่คนเดียว ไม่ค่อยสุงสิงกับใครเท่าไร แต่ที่เด็ดๆ จริงๆ คือ ผมกับนัตเป็นคนที่ขี้ลืมมาก จำคนไม่ค่อยได้ บางครั้งเจอหน้ากัน จำหน้าได้ว่าคุ้นๆ แต่นึกชื่อไม่ออก หรือนึกออกแต่ชื่อ แต่หน้าตาเป็นยังไงไม่รู้ และเด็ดกว่านั้นคือเป็นพวกซื่อบื้อครับ เพื่อนๆ ก็ชอบว่าอยู่ว่านี่ไม่รู้จริงๆ หรือว่าแกล้งไม่รู้กันแน่"

พระเอกหนุ่มพูดถึงการร่วมงานกับนางเอกสาวชาวญี่ปุ่นว่า "กับพี่อากิโกะก็ถือว่าเป็นการเจอกันครั้งแรกนะครับ ตอนนั้นเจอกันตอนเวิร์กช้อป พี่เขาเก่งมาก ตอนผู้กำกับขอให้เขาแสดงบทต่างๆ ให้ดู เขาก็แสดงได้สมจริงมาก ผมเห็นทีไรเป็นต้องเกร็งทุกที แต่พี่เขาเป็นคนน่ารัก จะคอยให้กำลังใจและคอยให้คำแนะนำผมเสมอ แต่ที่สุดยอดจริงๆ ก็คือในวันแรกที่ถ่าย เราก็เจอบทหนัก คือเจอฉากโรแมนติกกันเลย แบบว่าตอนนั้นยังไม่ค่อยได้คุยกัน เจอกันใหม่ๆ ผมเกร็งมาก ไม่คิดว่าจะต้องมาเล่นอะไรแบบนี้ในวันแรก ยังไม่ทันเตรียมใจเลย แต่พี่เขาเป็นมืออาชีพมาก พยายามชวนผมคุย ทำความสนิทกับผม เพื่อให้ผมรู้สึกผ่อนคลายและหายเกร็ง พี่เขาน่ารักมากๆ ครับ นี่ถ้าเรียนอยู่ที่เดียวกันนี่ผมคงจีบไปนานแล้ว (หัวเราะ) ล้อเล่นนะครับ ในภาพยนตร์จะเห็นว่าเราคุยกันคนละภาษาและนัตก็ฟังภาษาญี่ปุ่นไม่รู้เรื่อง เวลาจะคุยกันนี่ต้องมีท่าทางมาช่วยบ้าง แต่ในความเป็นจริงผมเป็นคนชอบดูการ์ตูนญี่ปุ่นมาก ติดแบบสุดๆ เลย ทำให้ผมฟังภาษาญี่ปุ่นออกบ้างเป็นบางคำ เวลาพี่เขาพูด เราก็พอๆ จะเดาได้ว่าเขาพูดอะไร"

ด้านนางเอกสาว อากิโกะ ผู้เคยฝากผลงานไว้ในภาพยนตร์เรื่อง "5 แพร่ง" ก็แง้มความรู้สึกที่ได้ร่วมงานกับคนไทยอีกครั้งว่า "รู้สึกประทับใจค่ะ เพราะที่ผ่านมาส่วนใหญ่ทุกคนจะใจดีและเป็นกันเองมากเลยค่ะ เลยไม่รู้สึกเกร็งตอนทำงานเลยค่ะ" สาวคนนี้เปิดใจถึงความประทับใจที่มีต่อการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า "สถานที่ถ่ายทำส่วนใหญ่เป็นสถานที่ธรรมชาติค่ะ บางสถานที่ก็ยังไม่ค่อยได้เป็นที่รู้จักและเดินทางไปลำบากนิดหนึ่ง แต่ว่าสวยมากๆ ค่ะ ผู้กำกับเป็นคนใจเย็นและใจดีมากค่ะ ทำให้การถ่ายทำผ่านไปได้อย่างราบรื่นค่ะ ส่วนพระเอกตอนแรกก็ยังไม่ค่อยได้คุยเล่นกันมาก แล้วฉากแรกที่ถ่ายทำด้วยกันค่อนข้างใกล้ชิดกันมาก เลยรู้สึกเกร็งๆ ค่ะ แต่พอหลังๆ เริ่มคุยเริ่มรู้จักกันมากขึ้นก็หายเกร็งค่ะ" ได้แสดงภาพยนตร์ของไทยทั้งที นางเอกสาวก็ออกปากเกี่ยวกับสิ่งชื่นชอบในประเทศไทยว่า "วัฒนธรรมที่ชอบคือการไหว้ค่ะ เพราะเป็นเอกลักษณ์ของประเทศไทยค่ะ อาหารไทยที่ชอบคือส้มตำไทย และน้ำตกคอหมูย่างแบบเผ็ดน้อยมากๆ ค่ะ เพราะทานเผ็ดไม่ค่อยได้ แล้วก็ข้าวเหนียวหมูปิ้งค่ะ อากิโกะเป็นคนชอบทานของหวานมากค่ะ ขนมไทยที่ชอบก็เช่น ฝอยทอง ขนมชั้น ขนมถ้วย และข้าวเหนียวมะม่วงค่ะ"

เมื่อถามว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ต้องการสื่อถึงอะไร เจ้าตัวก็ตอบว่า "เรื่องความสำคัญของคำสัญญาและมิตรภาพค่ะ ซึ่งค่อนข้างตรงกับประสบการณ์ของอากิโกะอยู่ค่ะ อากิโกะมีเพื่อนต่างชาติอาศัยอยู่หลายประเทศ กว่าจะได้เจอกันก็ต้องมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไปประเทศที่อีกฝ่ายอยู่ ซึ่งบางคนอาจจะแค่พูดว่าเดี๋ยวไปหา เดี๋ยวไปเที่ยวนะ แต่ก็ยังไม่มีโอกาสได้ไปหาจริงๆ ก็เลยไม่ได้เจอกันสักที แต่พอเพื่อนมาหา หรือเวลาอากิโกะไปหาเพื่อน ตอนได้เจอกันจะรู้สึกดีใจมาก เพราะว่าไม่ได้เจอกันนานแล้ว และเหมือนได้ทำตามสัญญาที่ว่าจะไปหากันค่ะ แต่พอตอนจะกลับก็จะรู้สึกเศร้า เพราะไม่รู้ว่าจะได้เจอกันอีกเมื่อไรค่ะ อากิโกะก็เลยถือว่ามิตรภาพเป็นสิ่งสำคัญมากค่ะ ถ้าเจอมิตรภาพดีๆ ก็ควรที่จะรักษาเอาไว้ เพราะเราไม่ได้จะเจอมิตรภาพดีๆ ได้ง่ายๆ ค่ะ" ส่วนพระเอกของเรื่องก็ขอเป็นตัวแทนกล่าวฝากฝังภาพยนตร์ว่า "อยากให้ไปดูครับ หนังดีมีเรื่องให้ลุ้นตลอด ลุ้นแบบรักๆ จะจำกันได้มั้ย จำได้หรือเปล่า คนจำมันทรมานใจนะ แต่ที่สุดแล้วคนลืมอาจจะทุกข์ใจมากกว่า อันนี้แล้วแต่ตีความเลย แต่สำหรับผมคิดว่าเป็นหนังรักที่ดีมาก แนวกู๊ดฟีลลิง บวกกับฉากสวยๆ บ้านเรา อันซีนเชียงใหม่เยอะมากครับ บรรยากาศดี คนไทยดูได้ นักท่องเที่ยวก็ดูดีครับ"

#ไอซ์ณัฐพัชร์ #AkikoOzeki #ThePromise
แก้ไขล่าสุด 23 พ.ค. 59 14:07 | เลขไอพี : ไม่แสดง | ตั้งกระทู้โดย WinXP

อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)

ความคิดเห็น

ยังไม่มีความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google