เด็กๆ เตรียมตัวให้พร้อม..จ่อยกเลิกแอดมิชชั่น ปี 2561 ปรับระบบใหม่คล้ายเอนทรานซ์!!

26 ส.ค. 59 17:27 น. / ดู 1,262 ครั้ง / 3 ความเห็น / 0 ชอบจัง / แชร์

สำหรับผู้ที่กำลังมองหารายได้เสริม ทางเว็บกำลังเปิดรับสมัคร นักเขียนอิสระ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่

ไม่รู้ว่าจะเป็นข่าวดีหรือร้ายสำหรับเด็กรุ่นใหม่ที่กำลังจะเตรียมเข้าเรียนต่อในระดับอุดมศึกษานะคะ เพราะทาง "นพ.กำจร ตติยกวี" ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ได้มีการหารือร่วมกับผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) และผู้แทนจากที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) เพื่อค้นหาแนวทางการคัดเลือกเด็กเข้าสู่สถาบันต่างๆ เพื่อไม่ให้เกิดความเหลื่อมล้ำกันขึ้น เนื่องจากปัจจุบันนี้มีเด็กที่มีต้นทุนชีวิตสูง (หรือเรียกง่ายๆ ว่าบ้านรวย) โหมไปสอบสารพัดที่ จนได้คะแนนสูงและมีตัวเลือกในการศึกษาต่อในสถาบันดีๆ มากกว่าเด็กอีกหลายคน และผลก็สรุปออกมาว่า กำลังจะมีการยกเลิกระบบแอดมินชั่น!

การปรับระบบการรับนักเรียนเข้าศึกษาต่อในสถาบันอุดมศึกษา จะเริ่มต้นขึ้นในปีการศึกษา 2561 เนื่องจากปีการศึกษา 2560 มหาวิทยาลัยได้มีการประกาศ ปฏิทินการจัดสอบไปแล้ว ทำให้ยากต่อการจัดระเบียบใหม่ โดยระบบการคัดเด็กครั้งนี้จะมีลักษณะคล้ายการสอบเอ็นทรานซ์!

พูดมาแบบนี้เด็กรุ่นใหม่คงไม่เข้าใจ..พูดง่ายๆ ก็คือจะมีการสอบพร้อมกันทั้งปะเทศรวดเดียบ จบ! (ใช้เวลาประมาณ 6 สัปดาห์ - 2 เดือน) ทั้งการสอบวิชาความถนัดทั่วไป (GAT) การสอบวิชาความถนัดทางวิชาการ/วิชาชีพ (PAT) และการสอบวิชาสามัญ 9 วิชาซึ่งเป็นวิชาที่ใช้ในการสอบเข้ามหาวิทยาลัย โดยจะไม่ให้มีการเปิดสอบรับตรงนอกช่วงเวลาดังกล่าว เพื่อลดปัญหาการวิ่งรอกสอบ

จากนั้นเมื่อเด็กทราบคะแนนจากการสอบแล้ว จึงเปิดให้เลือกสาขาวิชาที่ต้องการเรียนได้ 4 อันดับ จากนั้นทางมหาวิทยาลัยจะคัดเลือกเด็กตามลำดับคะแนน และแจ้งผลการคัดเลือกกลับมาที่ส่วนกลางเพื่อเข้าสู่ระบบเคลียริงเฮาส์ ซึ่งจะมีทั้งหมด 2 รอบ โดยในรอบแรกหลังจากทางมหาวิทยาลัยแจ้งเด็กกลับไปแล้วว่าได้รับคัดเลือกกี่แห่ง หากเด็กยังไม่พอใจในคณะ/สาขาที่สอบได้ ก็สามารถนำคะแนนไปเข้าในระบบเคลียริงเฮาส์รอบที่ 2 แต่หากเด็กเลือกเข้าเรียนในคณะที่สอบได้ในรอบแรกแล้ว จะถูกตัดสิทธิ์ออกจากการเคลียริงเฮาส์รอบที่ 2 ทันที และหากเดินหน้าใช้ระบบรับตรงกลางร่วมกัน จะไม่อนุญาตให้มหาวิทยาลัยไปเปิดรับตรงเอง หากจะให้เปิดรับก็ต้องมีเหตุผลที่ดีมาชี้แจงให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการรับทราบ

สำหรับระบบดังกล่าวซึ่งเรียกว่า การรับตรงกลางร่วมกัน คาดว่าจะสามารถรับเด็กเข้าเรียนได้ราว 90% ส่วนที่เหลืออีก 10% เด็กสามารถไปสมัครเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยที่ยังมีที่นั่งว่างได้โดยตรงอีกครั้งหนึ่ง ระบบนี้จะทำให้เด็กรู้คะแนนล่วงหน้า เพื่อให้สามารถประมาณตนเองได้ว่าจะไปแข่งกับใคร ในหลักสูตรใด

..คลิปเพิ่มเติม..
https://www.youtube.com/watch?v=X62_sYxe1Cw

เป็นยังไงบ้างคะกับข่าวสารใหม่นี้ กระบวนการด้านการศึกษามีการเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ แบบนี้ ใครที่กำลังเรียนอยู่ฃั้นมัธยมปลายก็ต้องสู้กันต่อไปเนอะ