วันที่ 1 ธันวาคม วันเอดส์โลก #WorldAIDSDay
1 ธ.ค. 59 16:20 น. /
ดู 1,947 ครั้ง /
2 ความเห็น /
0 ชอบจัง
/
แชร์
hashtag:
#worldaidsday
วันที่ 1 ธันวาคม ของทุกปี เป็นวันเอดส์โลก หรือ World AIDS Day วันที่มีไว้เพื่อสนับสนุนการตรวจสอบ ช่วยเหลือ ป้องกัน เยียวยา รำลึกถึงผู้ติดเชื้อ HIV และผู้เป็นเอดส์ โดยสัญลักษณ์ที่ผู้คนทั่วโลกจะติดไว้เพื่อแสดงให้กำลังใจผู้ที่ต่อสู้กับเชื้อเอชไอวีและรำลึกถึงผู้ที่ต้องเสียชีวิตไปด้วยโรคเอดส์ก็คือริบบินสีแดงตามรูปด้านล่าง
ริบบินสีแดงที่มี่มาอย่างไร?
เมื่อปี 1988 ศิลปินอาชีพรวมตัวกันตั้งกลุ่ม Visual AIDS ขึ้นมา เพื่อนำเสนอเรื่องราวที่เอดส์ส่งผลต่อวงการศิลปินอาชีพ ถัดมาในปี 1991 ศิลปินบางคนในกลุ่มได้ออกแบบสัญลักษณ์ขึ้นมาเพื่อแสดงความเห็นใจแก่ผู้ที่ต้องอาศัยอยู่กับเชื้อเอชไอวีและโรคเอดส์ และรำลึกถึงผู้ที่เสียชีวิตจากโรคที่เกี่ยวข้องกับเอดส์ทั้งหมด โดยได้แรงบันดาลใจมาจากริบบินที่รำลึกถึงทหารผ่านศึกในสงครามอ่าวเปอร์เซียซึ่งเป็นริบบินสีเหลือง แต่ปรับให้เป็นสีแดงแทน เพราะสีแดงเป็นสีของเลือด และยังเป็นตัวแทนของความรู้สึกที่รุนแรงต่างๆ ไม่ใช่ความโกรธ แต่เป็นความรัก เหมือนวาเลนไทน์
ขณะที่การรณรงค์เรื่องเอชไอวีและเอดส์ในประเทศไทยยังวนอยู่ในประเด็นที่ว่า วัยรุ่นไทยติดเอชไอวีเยอะขึ้น วัยรุ่นไทยมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกตอนอายุน้อยกว่าเดิม เรามาดูกันดีกว่าว่าที่อื่นๆ พูดถึงเชื้อเอชไอวี และโรคเอดส์อย่างไรบ้าง
องค์กร RED ได้ให้ความรู้ว่าทั่วโลก มีคนติดเชื้อนี้ราว 37 ล้านคน ซึ่งเอดส์และเอชไอวีเป็นอะไรที่เยียวยาและป้องกันได้
WHO ตั้งเป้าไว้ว่าภายในปี 2030 จะหยุดยั้งเอดส์ให้หมดไปจากโลก
แต่เป้าหมายในการยุติโรคเอดส์จะเป็นไปไม่ได้เลยหากคนที่ติดเชื้อนี้ไม่ได้รู้ตัวด้วยซ้ำว่าตัวเองเป็น แถมยังมีความเข้าใจผิดๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย เลยต้องรณรงค์ให้ไปตรวจเลือดหาว่ามีเชื้อนี้หรือเปล่า เหตุผลที่ควรไปตรวจก็เพราะ
1. จะได้รับการรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ
2. ถ้าตรวจเลือดแล้วผลเป็นลบ ก็จะได้รู้จักป้องกัน
3. ป้องกันคนอื่นได้ หากตัวเองพบว่าติดเชื้อ ก็จะได้ระมัดระวัง ป้องกันไม่ให้เชื้อแพร่กระจายได้อย่างถูกวิธี
4. สำหรับคนที่มีสไตล์ชีวิตเสี่ยง ต้องอยู่กับเข็มกับเลือด หรือมีเพศสัมพันธ์แบบไม่ได้ป้องกัน ควรไปตรวจ
5. สำหรับคนที่ไม่ได้มีเพศสัมพันธ์เข้าข่ายเสี่ยงต่อการติดเชื้อ แต่อาชีพชวนให้คิดว่าอาจติด ก็ควรไปตรวจ
สำหรับประเทศไทย หมอแล็บแพนด้าชื่อดังก็แนะนำให้ไปตรวจ ไม่ใช่เสี่ยงแล้วป่วยเลยเสิร์จกูเกิ้ลแล้วมโนไปเองว่าเป็นงั้นเป็นงี้หรือเปล่า และก็ไม่ต้องอายจนต้องใช้วิธีไปบริจาคเลือดให้เค้าตรวจ มันไม่ถูกต้อง จุดเริ่มต้นของการป้องกันรักษาก็ต้องรู้ก่อนแหละว่าเป็นอะไรมั้ย
นางงามจักรวาล Pia Wurtzbach ก็สนับสนุนให้ไปตรวจ
สำหรับคนที่ตรวจแล้วไม่เจอเชื้อ ก็ใช่ว่าวันเอดส์โลกไม่สำคัญอีกต่อไป เพราะทุกคนสามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งของวันนี้ได้โดยการหยุดการดูถูกเหยียดหยามผู้ที่ติดเชื้อ HIV เป็นแล้วไม่ถึงตาย แต่มุมมองของคนที่มีต่อผู้ติดเชื้อ HIV ค่อนข้างรุนแรง เรามาหยุดแนวคิดอันเป็นมลทินนี้กันเถอะ!
ริบบินสีแดงที่มี่มาอย่างไร?
เมื่อปี 1988 ศิลปินอาชีพรวมตัวกันตั้งกลุ่ม Visual AIDS ขึ้นมา เพื่อนำเสนอเรื่องราวที่เอดส์ส่งผลต่อวงการศิลปินอาชีพ ถัดมาในปี 1991 ศิลปินบางคนในกลุ่มได้ออกแบบสัญลักษณ์ขึ้นมาเพื่อแสดงความเห็นใจแก่ผู้ที่ต้องอาศัยอยู่กับเชื้อเอชไอวีและโรคเอดส์ และรำลึกถึงผู้ที่เสียชีวิตจากโรคที่เกี่ยวข้องกับเอดส์ทั้งหมด โดยได้แรงบันดาลใจมาจากริบบินที่รำลึกถึงทหารผ่านศึกในสงครามอ่าวเปอร์เซียซึ่งเป็นริบบินสีเหลือง แต่ปรับให้เป็นสีแดงแทน เพราะสีแดงเป็นสีของเลือด และยังเป็นตัวแทนของความรู้สึกที่รุนแรงต่างๆ ไม่ใช่ความโกรธ แต่เป็นความรัก เหมือนวาเลนไทน์
ขณะที่การรณรงค์เรื่องเอชไอวีและเอดส์ในประเทศไทยยังวนอยู่ในประเด็นที่ว่า วัยรุ่นไทยติดเอชไอวีเยอะขึ้น วัยรุ่นไทยมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกตอนอายุน้อยกว่าเดิม เรามาดูกันดีกว่าว่าที่อื่นๆ พูดถึงเชื้อเอชไอวี และโรคเอดส์อย่างไรบ้าง
องค์กร RED ได้ให้ความรู้ว่าทั่วโลก มีคนติดเชื้อนี้ราว 37 ล้านคน ซึ่งเอดส์และเอชไอวีเป็นอะไรที่เยียวยาและป้องกันได้
WHO ตั้งเป้าไว้ว่าภายในปี 2030 จะหยุดยั้งเอดส์ให้หมดไปจากโลก
แต่เป้าหมายในการยุติโรคเอดส์จะเป็นไปไม่ได้เลยหากคนที่ติดเชื้อนี้ไม่ได้รู้ตัวด้วยซ้ำว่าตัวเองเป็น แถมยังมีความเข้าใจผิดๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย เลยต้องรณรงค์ให้ไปตรวจเลือดหาว่ามีเชื้อนี้หรือเปล่า เหตุผลที่ควรไปตรวจก็เพราะ
1. จะได้รับการรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ
2. ถ้าตรวจเลือดแล้วผลเป็นลบ ก็จะได้รู้จักป้องกัน
3. ป้องกันคนอื่นได้ หากตัวเองพบว่าติดเชื้อ ก็จะได้ระมัดระวัง ป้องกันไม่ให้เชื้อแพร่กระจายได้อย่างถูกวิธี
4. สำหรับคนที่มีสไตล์ชีวิตเสี่ยง ต้องอยู่กับเข็มกับเลือด หรือมีเพศสัมพันธ์แบบไม่ได้ป้องกัน ควรไปตรวจ
5. สำหรับคนที่ไม่ได้มีเพศสัมพันธ์เข้าข่ายเสี่ยงต่อการติดเชื้อ แต่อาชีพชวนให้คิดว่าอาจติด ก็ควรไปตรวจ
สำหรับประเทศไทย หมอแล็บแพนด้าชื่อดังก็แนะนำให้ไปตรวจ ไม่ใช่เสี่ยงแล้วป่วยเลยเสิร์จกูเกิ้ลแล้วมโนไปเองว่าเป็นงั้นเป็นงี้หรือเปล่า และก็ไม่ต้องอายจนต้องใช้วิธีไปบริจาคเลือดให้เค้าตรวจ มันไม่ถูกต้อง จุดเริ่มต้นของการป้องกันรักษาก็ต้องรู้ก่อนแหละว่าเป็นอะไรมั้ย
นางงามจักรวาล Pia Wurtzbach ก็สนับสนุนให้ไปตรวจ
สำหรับคนที่ตรวจแล้วไม่เจอเชื้อ ก็ใช่ว่าวันเอดส์โลกไม่สำคัญอีกต่อไป เพราะทุกคนสามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งของวันนี้ได้โดยการหยุดการดูถูกเหยียดหยามผู้ที่ติดเชื้อ HIV เป็นแล้วไม่ถึงตาย แต่มุมมองของคนที่มีต่อผู้ติดเชื้อ HIV ค่อนข้างรุนแรง เรามาหยุดแนวคิดอันเป็นมลทินนี้กันเถอะ!
แก้ไขล่าสุด 1 ธ.ค. 59 16:21 |
เลขไอพี : ไม่แสดง
| ตั้งกระทู้โดย Windows 8.1
อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)
ความคิดเห็น
จริงค่ะ อย่าหลงเชื่ออาหารเสริม หรือสมุนไพรรักษาเอดส์ จากหมอเถื่อนนะคะ
เราแนะนำให้ไปตรวจเลือดก่อน เพื่อนเราไปที่ V-med Clinic เชียงใหม่ค่ะ
สะดวกสบาย บริการดีมาก มียาต้านไวรัสด้วยยังไงลองโทรไปก่อน 052-001119
หรือเข้าไปดูรายละเอียดในเว็บเขาได้เลยค่ะ www.vmedclinic.com
ไอพี: ไม่แสดง
| โดย Windows 7
มีข้อสงสัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับเชื้อไวรัสเอชไอวีและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
สอบถามเพิ่มเติมที่แคมเปญ Speakout Thailand (มูลนิธิเพื่อรัก Love Foundation)
https://speakoutthailand.com
https://www.facebook.com/SPEAKOUTTHAICAMPAIGN
ไอพี: ไม่แสดง
| โดย Windows 10
จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google