คุณพ่อคุณแม่ และเหล่าคนรักสัตว์เลี้ยงฟังทางนี้ ผลวิจัยใหม่ล่าสุดเผย สัตว์เลี้ยง เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเด็กๆ
27 ม.ค. 60 10:44 น. /
ดู 265 ครั้ง /
0 ความเห็น /
0 ชอบจัง
/
แชร์
ผลวิจัยใหม่เผยว่า เด็กๆเห็นว่าสัตว์เลี้ยงเป็นเพื่อนที่ดีกว่าพี่น้องของตัวเองเสียอีก
ผลการวิจัยล่าสุดซึ่งเผยแพร่โดยมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ เผยให้เห็นว่า เด็กๆรู้สึกพึงพอใจในความสัมพันธ์กับสัตว์เลี้ยงมากกว่าพี่น้องของตัวเอง อีกทั้งยังเข้ากับสัตว์เลี้ยงได้ดีกว่าพี่น้องของตัวเองด้วย ผลวิจัยดังกล่าวเป็นการตอกย้ำว่า สัตว์เลี้ยงในบ้านอาจมีอิทธิพลอย่างมากต่อพัฒนาการของเด็ก และอาจมีผลกระทบเชิงบวกต่อทักษะทางสังคมและสุขภาวะทางอารมณ์ของเด็กด้วยเช่นกัน
ในครอบครัวของชาวตะวันตกนั้น สัตว์เลี้ยงเป็นเหมือนสมาชิกคนหนึ่งในครอบครัว แต่มีงานวิจัยเพียงน้อยนิดที่กล่าวถึงความสำคัญของความสัมพันธ์ระหว่างเด็กกับสัตว์เลี้ยง แมตต์ คาสเซลส์ หัวหน้าทีมวิจัย กล่าวว่า "ใครก็ตามที่เคยผูกพันกับสัตว์เลี้ยงในวัยเด็กจะรู้ดีว่า เราเข้าหาสัตว์เลี้ยงเพราะต้องการเพื่อนและระบายความในใจ ซึ่งไม่ต่างกับความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ ดังนั้น เราจึงต้องการรู้ว่า ความสัมพันธ์กับสัตว์เลี้ยงจะแนบแน่นแค่ไหนเมื่อเทียบกับความสัมพันธ์กับคนในครอบครัว ซึ่งท้ายที่สุดอาจทำให้เราเข้าใจว่า สัตว์เลี้ยงส่งผลต่อพัฒนาการที่ดีของเด็กอย่างไร"
ข้อมูลดังกล่าวได้รับการตีพิมพ์ลงในวารสาร Journal of Applied Developmental Psychology โดยเป็นผลมาจากการวิจัยที่จัดทำขึ้นภายใต้ความร่วมมือระหว่างสถาบันวิจัยโภชนาการสัตว์เลี้ยงวอลแธม ในเครือมาร์ส เพ็ทแคร์ และสภาวิจัยทางเศรษฐกิจและสังคม (ESRC) ในฐานะส่วนหนึ่งของโครงการวิจัยขนาดใหญ่ นำโดย ศาสตราจารย์ แคลร์ ฮิวจ์ส ประจำศูนย์วิจัยครอบครัวแห่งมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ โดยทีมวิจัยได้ทำการสำรวจเด็กอายุ 12 ปี จาก 77 ครอบครัวที่มีสัตว์เลี้ยงอย่างน้อย 1 ตัว และมีเด็กมากกว่า 1 คนในบ้าน ซึ่งเด็กๆแสดงให้เห็นว่ามีความผูกพันกับสัตว์เลี้ยงมากกว่าพี่น้อง นอกจากนี้ เด็กในครอบครัวที่เลี้ยงสุนัขจะมีความขัดแย้งน้อยกว่าและมีความพึงพอใจมากกว่าเมื่อเทียบกับเด็กในครอบครัวที่เลี้ยงสัตว์ประเภทอื่นๆ
คุณคาสเซลส์กล่าวเสริมว่า "แม้สัตว์เลี้ยงอาจจะไม่เข้าใจมนุษย์ทั้งหมดและไม่สามารถพูดจาโต้ตอบได้ แต่เด็กก็เปิดใจกับสัตว์เลี้ยงไม่น้อยไปกว่าพี่น้องเลย อันที่จริงแล้ว การที่สัตว์เลี้ยงไม่เข้าใจหรือพูดโต้ตอบไม่ได้กลับเป็นข้อดี เพราะทำให้สัตว์เลี้ยงปราศจากอคติต่อมนุษย์โดยสิ้นเชิง ทั้งนี้ ผลการวิจัยก่อนหน้านี้มักพบว่าเด็กผู้ชายมีความสัมพันธ์กับสัตว์เลี้ยงแนบแน่นกว่าเด็กผู้หญิง แต่ผลการวิจัยของเรากลับออกมาในทิศทางตรงกันข้าม เราพบว่าเด็กชายและเด็กหญิงพอใจในสัตว์เลี้ยงเท่าๆกัน แต่เด็กหญิงมีการเปิดใจ มีความสนิทสนม รวมถึงมีความขัดแย้งกับสัตว์เลี้ยงมากกว่าเด็กชาย ซึ่งอาจตีความได้ว่าเด็กหญิงมีปฏิสัมพันธ์กับสัตว์เลี้ยงในรูปแบบที่เหมาะสมกว่าเด็กชาย"
แนนซี จี นักวิจัยจากวอลแธมและผู้ร่วมเขียนงานวิจัย กล่าวเสริมว่า "มีหลักฐานเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆว่า สัตว์เลี้ยงส่งผลกระทบเชิงบวกต่อสุขภาพของมนุษย์และความสัมพันธ์ในชุมชน นอกจากนี้ การสนับสนุนทางสังคมที่เด็กๆได้รับจากสัตว์เลี้ยง อาจช่วยเสริมสร้างสุขภาวะทางจิตที่ดีให้กับชีวิตในภายภาคหน้า ทว่ายังคงต้องศึกษาผลกระทบในระยะยาวของสัตว์เลี้ยงที่มีต่อพัฒนาการของเด็กต่อไป"
ในครอบครัวของชาวตะวันตกนั้น สัตว์เลี้ยงเป็นเหมือนสมาชิกคนหนึ่งในครอบครัว แต่มีงานวิจัยเพียงน้อยนิดที่กล่าวถึงความสำคัญของความสัมพันธ์ระหว่างเด็กกับสัตว์เลี้ยง แมตต์ คาสเซลส์ หัวหน้าทีมวิจัย กล่าวว่า "ใครก็ตามที่เคยผูกพันกับสัตว์เลี้ยงในวัยเด็กจะรู้ดีว่า เราเข้าหาสัตว์เลี้ยงเพราะต้องการเพื่อนและระบายความในใจ ซึ่งไม่ต่างกับความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ ดังนั้น เราจึงต้องการรู้ว่า ความสัมพันธ์กับสัตว์เลี้ยงจะแนบแน่นแค่ไหนเมื่อเทียบกับความสัมพันธ์กับคนในครอบครัว ซึ่งท้ายที่สุดอาจทำให้เราเข้าใจว่า สัตว์เลี้ยงส่งผลต่อพัฒนาการที่ดีของเด็กอย่างไร"
ข้อมูลดังกล่าวได้รับการตีพิมพ์ลงในวารสาร Journal of Applied Developmental Psychology โดยเป็นผลมาจากการวิจัยที่จัดทำขึ้นภายใต้ความร่วมมือระหว่างสถาบันวิจัยโภชนาการสัตว์เลี้ยงวอลแธม ในเครือมาร์ส เพ็ทแคร์ และสภาวิจัยทางเศรษฐกิจและสังคม (ESRC) ในฐานะส่วนหนึ่งของโครงการวิจัยขนาดใหญ่ นำโดย ศาสตราจารย์ แคลร์ ฮิวจ์ส ประจำศูนย์วิจัยครอบครัวแห่งมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ โดยทีมวิจัยได้ทำการสำรวจเด็กอายุ 12 ปี จาก 77 ครอบครัวที่มีสัตว์เลี้ยงอย่างน้อย 1 ตัว และมีเด็กมากกว่า 1 คนในบ้าน ซึ่งเด็กๆแสดงให้เห็นว่ามีความผูกพันกับสัตว์เลี้ยงมากกว่าพี่น้อง นอกจากนี้ เด็กในครอบครัวที่เลี้ยงสุนัขจะมีความขัดแย้งน้อยกว่าและมีความพึงพอใจมากกว่าเมื่อเทียบกับเด็กในครอบครัวที่เลี้ยงสัตว์ประเภทอื่นๆ
คุณคาสเซลส์กล่าวเสริมว่า "แม้สัตว์เลี้ยงอาจจะไม่เข้าใจมนุษย์ทั้งหมดและไม่สามารถพูดจาโต้ตอบได้ แต่เด็กก็เปิดใจกับสัตว์เลี้ยงไม่น้อยไปกว่าพี่น้องเลย อันที่จริงแล้ว การที่สัตว์เลี้ยงไม่เข้าใจหรือพูดโต้ตอบไม่ได้กลับเป็นข้อดี เพราะทำให้สัตว์เลี้ยงปราศจากอคติต่อมนุษย์โดยสิ้นเชิง ทั้งนี้ ผลการวิจัยก่อนหน้านี้มักพบว่าเด็กผู้ชายมีความสัมพันธ์กับสัตว์เลี้ยงแนบแน่นกว่าเด็กผู้หญิง แต่ผลการวิจัยของเรากลับออกมาในทิศทางตรงกันข้าม เราพบว่าเด็กชายและเด็กหญิงพอใจในสัตว์เลี้ยงเท่าๆกัน แต่เด็กหญิงมีการเปิดใจ มีความสนิทสนม รวมถึงมีความขัดแย้งกับสัตว์เลี้ยงมากกว่าเด็กชาย ซึ่งอาจตีความได้ว่าเด็กหญิงมีปฏิสัมพันธ์กับสัตว์เลี้ยงในรูปแบบที่เหมาะสมกว่าเด็กชาย"
แนนซี จี นักวิจัยจากวอลแธมและผู้ร่วมเขียนงานวิจัย กล่าวเสริมว่า "มีหลักฐานเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆว่า สัตว์เลี้ยงส่งผลกระทบเชิงบวกต่อสุขภาพของมนุษย์และความสัมพันธ์ในชุมชน นอกจากนี้ การสนับสนุนทางสังคมที่เด็กๆได้รับจากสัตว์เลี้ยง อาจช่วยเสริมสร้างสุขภาวะทางจิตที่ดีให้กับชีวิตในภายภาคหน้า ทว่ายังคงต้องศึกษาผลกระทบในระยะยาวของสัตว์เลี้ยงที่มีต่อพัฒนาการของเด็กต่อไป"
เลขไอพี : ไม่แสดง
| ตั้งกระทู้โดย Windows 7
อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)
ความคิดเห็น
ยังไม่มีความคิดเห็น
จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google