เปิดเผยตัวตนของ หน้ากากอีกาดำ The Mask Singer

ผลการตัดสินรอบสุดท้ายของรายการ "The Mask Singer หน้ากากนักร้อง" ออกมาแล้ว โดยผู้ชนะตกเป็นของ หน้ากากทุเรียน ทำให้ หน้ากากอีกาดำ ที่คว้าตำแหน่งรองชนะเลิศต้องเผยโฉมหน้าที่แท้จริงออกมา ซึ่งเจ้าของเสียงทรงพลังภายใต้หน้ากากนี้ คือ "เอ๊ะ - จิรากร สมพิทักษ์" นั่นเอง หนุ่มคนนี้ได้บอกความในใจหลังถอดหน้ากากว่า "ผมไม่ได้อึกอัดสักเท่าไร เพราะว่าเสียงของผมส่วนใหญ่คนในประเทศไทยไม่ค่อยรู้ว่าร้องร็อกได้ด้วย มันมีตัวเลือกเยอะครับที่มี พี่ต้าร์ มิสเตอร์ทีม (ธนศักดิ์ ศิริธร) มี พี่คิง เดอะวอยซ์ (พิเชษฐ์ บัวขำ) มีพี่อู๋ ธรรพ์ณธร (ธรรพ์ณธร ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา) มีเยอะแยะมากมาย ผมก็เป็นแค่ส่วนหนึ่งที่เป็นผู้ต้องสงสัยแค่นั้นเอง แต่ก็ขอบคุณมากๆ ครับ" นักร้องหนุ่มเผยสาเหตุที่ต้องเป็นหน้ากากอีกาดำว่าได้แรงบันดาลใจมาจากภาพยนตร์เรื่อง "The Crow" นั่นเอง "ตอนวัยรุ่น ผมชอบดูหนังเรื่องหนึ่งครับชื่อเรื่องว่า The Crow อีกาพญายม นะครับ หนังเรื่องนี้ผมชอบอยู่หลายอย่างฮะ มีเพลงประกอบด้วย เนื้อหาของหนังด้วย แล้วก็ด้วยเรื่องของตัวแสดงด้วย คนที่แสดงเป็นอีริก พระเอกก็คือ แบรนดอน ลี (Brandon Lee) ลูกผู้ชายคนเดียวของ บรูซ ลี (Bruce Lee) นั่นเอง แล้วเขาก็เสียชีวิตในหนังเรื่องนี้ เสียชีวิตจริงๆ นะฮะตอนถ่ายทำ แล้วก็ด้วยความชอบอีกหลายๆ อย่างในสตอรีของเรื่อง คือในเรื่องคือเขาเป็นแฟนกันแล้วผู้หญิงเสียชีวิตโดยมีคนทำร้าย แล้วต่อมาผู้ชายก็เสียชีวิตต่อ โดยที่มีคนกลุ่มเดิมทำร้าย แต่เขาก็รู้สึกว่าเขายังมีห่วงอยู่แล้วก็มีอีกานี่แหละฮะ ปลุกชีวิตเขากลับคืนมา ผมชอบเนื้อหาที่ว่าเวลาที่เราท้อหรือเราเป็นอะไร เวลาเราหาพลังเราจะหาจากอีกา เพราะทุกคนจะคิดว่าอีกาคือเดวิล"



ทั้งยังบอกว่าที่รับรายการนี้เป็นเพราะอยากให้ทุกคนรู้ว่าตนเองร้องเพลงร็อกได้ "ด้วยความอนุเคราะห์ของทางเวิร์คพ้อยท์ตั้งนานแล้วนะครับ ด้วยผู้หลักผู้ใหญ่ด้วย ผมก็รู้สึกว่าเป็นอะไรที่ท้าทายกับตัวผม ทุกคนยังไม่รู้ว่าผมร้องเพลงร็อกได้ ผมอยากเอาความฝันในวัยเด็กของผมที่ผมมีอยู่แต่ปัจจุบันสิ่งที่ทุกคนได้ยินก็คือเพลงอีซีลีเซ็นนิง อยากให้ทุกคนได้รู้ว่า เอ๊ะ จิรากร ตอนวัยรุ่นร้องเพลงร็อกนะครับ แล้วก็อยากให้ทุกคนที่มีความฝัน ทุกคนที่เป็นนักดนตรี ทุกคนที่เป็นสายดาร์กชาวร็อกทั้งหลายนะฮะจงเชื่อมั่นในสิ่งที่ตัวเองรัก เชื่อมั่นในสิ่งที่ตัวเองทำ หรือไม่จำเป็นต้องเป็นชาวร็อกก็ได้ คุณทำอะไรอยู่ก็ได้แต่คุณรักในสิ่งที่คุณทำแล้วก็ตั้งใจพยายามทำ กว่าผมจะมาถึงปัจจุบันได้ ผมใช้เวลาประมาณ 10 กว่าปี"

สำหรับเพลง "อย่าหยุดยั้ง" ที่เลือกมาร้องในรอบสุดท้าย เป็นเพลงที่บอกเล่าถึงความพยายามในการทำตามความฝัน "ผมอยู่มาหลายค่ายมากที่ผมบอกว่าอยู่ทั้งลาดพร้าว อยู่ทั้งอโศก จริงๆ ผมอยู่มาหลายค่ายครับ ตรงนู้นก็อยู่ตรงนี้ก็อยู่ แต่อยู่ค่ายไหนก็ไม่ได้ประสบความสำเร็จเลย ก็เลยอยากให้ทั้งเพลงที่ผมร้องวันนี้ด้วย อย่าหยุดยั้ง คุณต้องเพียรพยายาม แล้วก็อย่าท้อครับ แล้วความฝันของคุณก็จะมาถึงตัวคุณเองครับ" และกล่าวความรู้สึกที่ได้ฟาดฟันมาจนถึงรอบสุดท้ายว่า "รู้สึกดีใจนะครับ แล้วก็ขอบคุณทางเวิร์คพ้อยท์ด้วย ขอบคุณทาง The Mask Singer ขอบคุณผู้หลักผู้ใหญ่ทุกคน ขอบคุณกรรมการทุกคน ขอบคุณคนดู ขอบคุณแฟนคลับทั่วประเทศไทยนะครับ แล้วก็แฟนคลับสายดาร์กอีกาเรา ยังไงก็รอติดตามผลงานผมเรื่อยๆ แล้วกันนะฮะ ผมจะมีอะไรเร็วๆ นี้ต่อไปวางแพลนไว้เรียบร้อยแล้วสายดาร์กเตรียมตัวติดตามกันครับ"

#เอ๊ะจิรากร