บอย ถกลเกียรติ เล่าเหตุการณ์ปะทะคารมคนขับแท็กซี่

3 เม.ย. 60 16:07 น. / ดู 999 ครั้ง / 0 ความเห็น / 0 ชอบจัง / แชร์
หลังจากที่มีคลิปผู้โดยสารเรียกแท็กซี่แล้วแท็กซี่ไม่ได้จอดจนเกิดกรณีถกเถียงกันแพร่สะพัด ซึ่งผู้โดยสารคนดังกล่าวเป็นที่คุ้นหน้ากันในวงการบันเทิง นั่นคือ "บอย - ถกลเกียรติ วีรวรรณ" ประธานเจ้าหน้าที่บริหารช่องวัน ซึ่ง บอย ได้แถลงข่าวและเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2560 ว่า "ตรงนั้นจะประมาณสุขุมวิท 33 ตอนแรกผมก็บอกกับลูกสาวว่า เดี๋ยวเราเรียกอูเบอร์ก็ได้ ลูกสาวก็บอกว่า พ่อ อูเบอร์มันผิดกฎหมายนะ ก็เลยโอเคไม่เรียกก็ได้ ปรากฏว่าก็มาเจอเคสที่คนกรุงเทพฯ เจอกันบ่อย ก็คือแท็กซี่ไม่ไป มีคันหนึ่งผ่านมาผมก็เรียก ก็ถามไปไหน ผมก็บอกตรงนี้ บ้านก็อยู่ใกล้ๆ บอกว่าไม่ไป ก็โอเคคันนั้นก็คันหนึ่ง ยิ่งทำให้ผมรู้สึกว่าเป็นประเด็นสังคมกันอยู่ ทุกวันนี้มันมีปัญหากันอยู่"
ผู้บริหารหนุ่มเผยต่อไปว่า "พออีกคันหนึ่งมาเขาเลี้ยวออกมาจากซอย 33 ผมเห็นผมก็โบกไป คันนี้เป็นคันคู่กรณี คันนี้ไม่จอด คันนี้ขับผ่านเลย สิ่งที่มันเกิดขึ้นจากตัวผม มันก็เป็นการโกรธแล้วก็เป็นสิ่งเราอึดอัดมาสักพักหนึ่งแล้ว ผมอาจจะบันดาลโทสะ อันนี้ผมผิด ผมก็พยายามจะเรียกทีนี้มือไม่ได้ ผมใช้เท้า ซึ่งอันนี้ไม่มีใครทราบ ตัวแท็กซี่ก็ไม่ทราบว่าผมใช้เท้าเพื่อที่จะสะกิดเรียก แต่มันก็กลายเป็นว่าเหมือนผมไปเตะรถเขา แล้วเขาก็จอด สิ่งที่ผมทำผมเปิดประตูเข้าไปเลยนะ ผมเปิดประตูเพื่อที่จะเข้าไปนั่ง จะใช้บริการ แต่แท็กซี่คนนั้นก็เปิดประตูแล้วเดินอ้อมมาด้วยสีหน้าที่โกรธมาก เป็นการถกเถียงกัน ทุบรถผมทำไม ผมก็บอกว่าทำไมคุณไม่จอด ไฟก็ติดอยู่ว่าว่าง เขาก็บอกผมอาจจะไปรับผู้โดยสารคนอื่นก็ได้ คุณรู้ได้ไง แต่ไฟคุณบอกว่าว่าง คุณควรจะปิดไฟสิ"

หลังจากปะทะคารมกันสักพัก มีคำพูดออกมาจากคนขับแท็กซี่ว่า มายิงกันสักนัดไหม "ก็ถกเถียงกันสักพัก มีประโยคหนึ่งที่ออกมาจากคนขับแท็กซี่คนนั้น ก็บอกว่ามายิงกันสักนัดไหม ผมว่าก็อาจจะแรงไปนะครับ ลูกสาวผมก็อยู่ตรงนั้น ลูกสาวผมก็บอกว่า พ่อ ไปเถอะ ทำไมผมถึงไม่ไป เพราะว่าผมก็เป็นส่วนผิดเหมือนกัน เขาก็พูดมาว่ารถใครใครก็รัก ของใครใครก็รัก ผมก็เข้าใจได้ ผมก็บอกว่าโอเคผมขอโทษ เขาก็เลยบอกว่าไหว้สิ ผมก็ไหว้ ในคลิปไม่เห็นเพราะถ่ายไปที่ทะเบียนรถพอดี ตอนนั้นหน้าลูกหน้าภรรยาหน้าครอบครัวลอยมาเต็มไปหมด พอไหว้เสร็จแล้วเนี่ยผมก็เลยคิดว่าผมก็เป็นต้นเหตุเหมือนกันนะครับ ผมก็จึงเสนอว่าจะให้ผมชดใช้เท่าไร เขาก็บอกมาว่าพันหนึ่ง เขาไม่ได้เรียกร้องก่อนนะครับ แล้วผมก็เลยให้ไปพันหนึ่ง"

บอย บอกว่าจริงๆ แล้วทุกคนมีทางเลือก แต่สิ่งที่เกิดขึ้นทุกวันนี้คือกฎหมายกำลังจำกัดตัวเลือกของประชาชน "สิ่งที่ผมคิดว่ามันเป็นประเด็นใหญ่กว่า บอย ถกลเกียรติ ทะเลาะกับแท็กซี่ ผมว่ามันไม่ใช่เรื่องอะไรใหญ่ขนาดนั้นหรอก ผมว่าเรื่องใหญ่จริงๆ แล้วนะครับ ทั้งผมและคนขับแท็กซี่คนนี้เป็นเหยื่อของระบบ เพราะว่าจริงๆ แล้วทุกวันนี้เรามีทางเลือก เลือกที่จะใช้บริการอะไรก็ได้ แต่กฎหมายกำลังจำกัดทางเลือกของประชาชน ผมเป็นคนที่วันไหนไม่มีรถ ผมก็ขึ้นมอเตอร์ไซค์ บางทีผมก็เรียกแท็กซี่ บางทีผมก็ออนไลน์เรียก ผมก็มีหลายออปชัน สิ่งที่ผมอยากจะตั้งคำถามคือทำไมต้องเกิดเรื่องแบบนี้ มันสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา แต่ว่าระบบมันคืออะไร ตัวเลือกมันมีอยู่แล้วแต่กฎหมายจำกัดตัวเลือกเรา จริงๆ แล้วเนี่ยผมอยากจะขอโทษคนขับแท็กซี่คันนั้นด้วยซ้ำไปที่ผมก็มีส่วนผิด ในเรื่องของการบันดาลโทสะผมก็เป็นคนเริ่ม อันนี้ผมขอโทษนะครับ"

คนขับแท็กซี่คันดังกล่าวถูกกรมการขนส่งทางบกสั่งปรับ 2 ข้อหา คือ ปฏิเสธ ไม่รับผู้โดยสารมีโทษปรับ 1,000 บาท และใช้กริยาวาจาไม่สุภาพ มีโทษปรับ 1,000 บาท นอกจากนี้ให้เข้าอบรมเสริมสร้างจิตสำนึกในการให้บริการผู้โดยสาร 3 ชั่วโมง และพักใบอนุญาต 30 วัน

#บอยถกลเกียรติ
แก้ไขล่าสุด 3 เม.ย. 60 16:09 | เลขไอพี : ไม่แสดง | ตั้งกระทู้โดย Windows 10

อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)

ความคิดเห็น

ยังไม่มีความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google