แบมแบม GOT7 เปิดใจไร้เพื่อนในไทย ไม่อยากทิ้งเรียน
SZ News
17 ก.ค. 60 18:38 น. /
ดู 20,609 ครั้ง /
0 ความเห็น /
0 ชอบจัง
/
แชร์
hashtag:
#แบมแบมกันต์พิมุกต์
เรื่องราวของเด็กไทยคนหนึ่งที่มีโอกาสไปอยู่เกาหลีทุ่มเททั้งแรงกายและแรงใจในการฝึกซ้อม บากบั่น ตั้งใจ จนกลายเป็นศิลปินโด่งดังเป็น 1 ในวงเกาหลี "GOT7" นั่นคือ "แบมแบม - กันต์พิมุกต์ ภูวกุล" ซึ่งเวลานี้กลับมายังประเทศไทย และถูกดึงตัวมาร่วมเปิดใจในรายการ โหนกระแส เผยเรื่องราวหลายอย่างในชีวิตให้ได้รู้กัน
ทำไม แบมแบม ถึงไปเป็นศิลปินเกาหลีสายเลือดไทยได้
"จริงๆ ต้องขอบคุณคุณแม่ผมที่ตอนเด็กๆ พาผมไปดูคอนเสิร์ตเกาหลีคนหนึ่งที่ชื่อ พี่เรน (Rain) ตอนนั้นอยู่แถวหน้าสุด ดูพี่เขาเต้น เราก็มีความรู้สึกว่าพี่เขาเท่จัง เป็นอะไรที่ทำให้ผมอยากเต้น อยากร้องเพลงขึ้นมา"
ตอนนั้นอายุเท่าไร
"ตอนนั้นน่าจะอายุ 8-9 ขวบ พี่เรนเขาเป็นคนที่นำเคป๊อปเข้ามาเมืองไทย เหมือนเป็นการจุดประกายหนึ่งที่ทำให้เด็กคนหนึ่งมีความฝัน ทำให้เราเลิกเล่นเกมและไปขอแม่เรียนเต้น แต่ตอนนั้นไปโรงเรียนไหนก็ไม่มีใครรับ เพราะว่าเราอายุน้อยเกินไป"
สุดท้ายเข้าสู่การเป็นนักร้องที่เกาหลีได้อย่างไร
"หลังจากที่ผมชอบพี่เรนแล้ว ผมก็เต้นคัฟเวอร์พี่เรน และไปประกวดแข่งเต้นของพี่เรน เพื่อที่จะชิงบัตรคอนเสิร์ต ตอนนั้นได้ที่ 1 แล้วทางการค่ายก็เรียกผมไปออดิชัน ตอนนั้น 9 ขวบ เขาก็ขอให้ผมไปเกาหลี แต่เราก็ยังลังเลอยู่เพราะเรายังเด็ก ไม่รู้ว่าไปแล้วทำได้หรือเปล่า ไปคนเดียวและต้องหยุดเรียนไปเลย ตอนนั้นเรารู้ว่าเป็นโอกาสที่ดีมาก แต่เราก็ห่วงเรื่องเรียน ถ้าผมไปตอนนั้นก็ประมาณ ป.6 ถ้าไปแล้วไม่สำเร็จกลับมาเมืองไทยผมก็ต้องมาเรียน ป.6 ใหม่ ก็เลยปฏิเสธเขาไปรอบแรก"
เสียดายไหมที่ต้องทิ้งโอกาสไป
"เสียดายครับ ผมไม่รู้ว่าทำได้หรือเปล่า ก็เลยปฏิเสธไป ส่วนครั้งที่ 2 อายุ 13 ปี ผมก็ไปแข่งอีกรายการหนึ่ง ซึ่งทาง JYP เขามาเป็นกรรมการในรอบตัดสิน เขาก็มาเห็นเราอีกแล้ว เขาก็เลยเข้ามาหลังเวทีแล้วถามว่าจำเขาได้ไหม คุยกันสักพักหนึ่ง เขาก็บอกว่ายังสนใจอยู่นะ คราวนี้ไปไม่ต้องออดิชัน มาได้เลยเซ็นสัญญาเลย ผมก็เลยคุยกับคุณแม่ว่าค่ายเขาใหญ่ขนาดนี้มาเรียกเด็กธรรมดาคนหนึ่ง ซึ่งเรียกตั้งสองรอบ เขาก็น่าสนใจในตัวเรา ตอนนั้นก็เลยเซ็นสัญญาเลย เซ็นที่ประเทศไทยแล้วก็บินไปเกาหลีครับ"
ไปใช้ชีวิตที่เกาหลีอย่างไรคนเดียว
"ก็เริ่มจากการไปเป็นเด็กฝึกของค่ายเขาก่อน มีตารางเรียน จะเริ่ม 10 โมงเช้าถึง 4 ทุ่ม มีเรียนร้องเพลง เรียนเต้น เรียนภาษา แรกๆ ที่ไปเอาจริงๆ ถามว่าเหงาไหม ก็ไม่เท่าไรนะ เพราะเรามีเพื่อนเยอะ ด้วยความอยู่คนเดียวก็เหงาบ้าง แต่ด้วยที่เราเป็นเด็ก ยังมีความสนุก ตื่นเต้นกับทุกอย่างที่ทำ"
ย้อนไปตอนที่เขาขอเซ็นสัญญา ตอนนั้นจะทำ GOT7 หรือยัง
"ไม่มีครับ เราก็ลองไปฝึกก่อน ไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นยังไง ทั้งหมดที่ไปฝึกก็ประมาณ 16 คน ตอนแรกไปก็มาจุดเดียวกัน คือมีโอกาสก็มาก่อน เริ่มจาก 16 คน ผมเรียนอยู่ 3 ปีก็มีคนออกไปเยอะมาก แล้วมีคนใหม่เข้ามา"
ไปอยู่เกาหลีกี่ปีแล้ว
"ถึงตอนนี้ก็ 7 ปีแล้วครับ ตอนนี้พูดได้ 3 ภาษาครับ ไทย เกาหลี อังกฤษ และก็มีจีนกับญี่ปุ่นได้นิดหน่อย"
ตลอดระยะ 3 ปีที่ผ่านมาเพิ่งได้กลับมาพัก 2 สัปดาห์ที่ไทย
"ใช่ครับ เวลาอยู่เกาหลีก็มีวันว่างบ้าง เดือนหนึ่ง หนึ่งวัน จะกลับมาเมืองไทยก็ไม่ได้ ก็ขอพักที่เกาหลีดีกว่า คุณแม่ก็ได้เจอเวลากลับมามีงานที่เมืองไทย ติดต่อกับคุณแม่เรื่อยๆ อยู่แล้ว เดี๋ยวนี้ง่าย"
รู้สึกอย่างไรที่ไปทำงานที่เกาหลีตั้งอายุ 13 ปี ความเป็นเด็กหายไป
"อันนี้รู้สึกทุกครั้ง เวลากลับเมืองไทยครับ กลับเมืองไทยผมไม่มีเพื่อนที่เมืองไทยเลย เพราะว่าผมอยู่เกาหลีตอน ม.2 เป็นช่วงที่จะคบเพื่อนแบบจริงๆ จังๆ แต่เรามาอยู่เกาหลีเลย ก็ทำให้ไม่มีเพื่อนที่เมืองไทย กลับเมืองไทยมาก็จะอยู่กับครอบครัว เรื่องการเรียนตอนไปเป็นเด็กฝึก ผมก็จะพักเรียน 2 ปีไว้ก่อน พอมาปีที่ 3 ที่อยู่เกาหลี ผมก็ห่วงเรื่องเรียน เราจะอยู่แบบนี้ไม่ได้ เพราะว่าเรื่องเรียนสำคัญ ผมก็เลยขอคุณแม่และทางค่ายขอเข้าโรงเรียนที่เกาหลี แต่เขาไม่รับเด็กฝึก เพราะเวลาเรียนไม่ตรงกับคนอื่น อาจจะได้แค่ไปสอบ ผมก็หาวิธีเข้าโรงเรียนนานาชาติ แต่เขาก็ไม่ให้เหมือนกัน ผมก็เลยกลับมาเมืองไทยคุยกับ กศน. รอบหนึ่ง แล้วเขาให้กลับมาสอบปีละ 2 ครั้ง ตอนนี้เหลือสอบรอบสุดท้ายก็จะจบ ม.6 แล้ว ผมไม่อยากทิ้งเรียน"
มีโอกาสไหมที่ แบมแบม จะมาเล่นละครไทย
"ถ้ามีโอกาสเมื่อไรผมก็พร้อมเสมอ ก่อนที่ผมจะไปเกาหลี ผมก็มีโฆษณา 2-3 ตัวที่เมืองไทย"
ติดตามชมการเปิดใจแบบนี้ ได้ในรายการ โหนกระแส วันที่ 17 กรกฎาคม 2560 เวลา 20.30-21.00 น. ช่อง 28
#แบมแบมกันต์พิมุกต์
"จริงๆ ต้องขอบคุณคุณแม่ผมที่ตอนเด็กๆ พาผมไปดูคอนเสิร์ตเกาหลีคนหนึ่งที่ชื่อ พี่เรน (Rain) ตอนนั้นอยู่แถวหน้าสุด ดูพี่เขาเต้น เราก็มีความรู้สึกว่าพี่เขาเท่จัง เป็นอะไรที่ทำให้ผมอยากเต้น อยากร้องเพลงขึ้นมา"
ตอนนั้นอายุเท่าไร
"ตอนนั้นน่าจะอายุ 8-9 ขวบ พี่เรนเขาเป็นคนที่นำเคป๊อปเข้ามาเมืองไทย เหมือนเป็นการจุดประกายหนึ่งที่ทำให้เด็กคนหนึ่งมีความฝัน ทำให้เราเลิกเล่นเกมและไปขอแม่เรียนเต้น แต่ตอนนั้นไปโรงเรียนไหนก็ไม่มีใครรับ เพราะว่าเราอายุน้อยเกินไป"
สุดท้ายเข้าสู่การเป็นนักร้องที่เกาหลีได้อย่างไร
"หลังจากที่ผมชอบพี่เรนแล้ว ผมก็เต้นคัฟเวอร์พี่เรน และไปประกวดแข่งเต้นของพี่เรน เพื่อที่จะชิงบัตรคอนเสิร์ต ตอนนั้นได้ที่ 1 แล้วทางการค่ายก็เรียกผมไปออดิชัน ตอนนั้น 9 ขวบ เขาก็ขอให้ผมไปเกาหลี แต่เราก็ยังลังเลอยู่เพราะเรายังเด็ก ไม่รู้ว่าไปแล้วทำได้หรือเปล่า ไปคนเดียวและต้องหยุดเรียนไปเลย ตอนนั้นเรารู้ว่าเป็นโอกาสที่ดีมาก แต่เราก็ห่วงเรื่องเรียน ถ้าผมไปตอนนั้นก็ประมาณ ป.6 ถ้าไปแล้วไม่สำเร็จกลับมาเมืองไทยผมก็ต้องมาเรียน ป.6 ใหม่ ก็เลยปฏิเสธเขาไปรอบแรก"
เสียดายไหมที่ต้องทิ้งโอกาสไป
"เสียดายครับ ผมไม่รู้ว่าทำได้หรือเปล่า ก็เลยปฏิเสธไป ส่วนครั้งที่ 2 อายุ 13 ปี ผมก็ไปแข่งอีกรายการหนึ่ง ซึ่งทาง JYP เขามาเป็นกรรมการในรอบตัดสิน เขาก็มาเห็นเราอีกแล้ว เขาก็เลยเข้ามาหลังเวทีแล้วถามว่าจำเขาได้ไหม คุยกันสักพักหนึ่ง เขาก็บอกว่ายังสนใจอยู่นะ คราวนี้ไปไม่ต้องออดิชัน มาได้เลยเซ็นสัญญาเลย ผมก็เลยคุยกับคุณแม่ว่าค่ายเขาใหญ่ขนาดนี้มาเรียกเด็กธรรมดาคนหนึ่ง ซึ่งเรียกตั้งสองรอบ เขาก็น่าสนใจในตัวเรา ตอนนั้นก็เลยเซ็นสัญญาเลย เซ็นที่ประเทศไทยแล้วก็บินไปเกาหลีครับ"
ไปใช้ชีวิตที่เกาหลีอย่างไรคนเดียว
"ก็เริ่มจากการไปเป็นเด็กฝึกของค่ายเขาก่อน มีตารางเรียน จะเริ่ม 10 โมงเช้าถึง 4 ทุ่ม มีเรียนร้องเพลง เรียนเต้น เรียนภาษา แรกๆ ที่ไปเอาจริงๆ ถามว่าเหงาไหม ก็ไม่เท่าไรนะ เพราะเรามีเพื่อนเยอะ ด้วยความอยู่คนเดียวก็เหงาบ้าง แต่ด้วยที่เราเป็นเด็ก ยังมีความสนุก ตื่นเต้นกับทุกอย่างที่ทำ"
ย้อนไปตอนที่เขาขอเซ็นสัญญา ตอนนั้นจะทำ GOT7 หรือยัง
"ไม่มีครับ เราก็ลองไปฝึกก่อน ไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นยังไง ทั้งหมดที่ไปฝึกก็ประมาณ 16 คน ตอนแรกไปก็มาจุดเดียวกัน คือมีโอกาสก็มาก่อน เริ่มจาก 16 คน ผมเรียนอยู่ 3 ปีก็มีคนออกไปเยอะมาก แล้วมีคนใหม่เข้ามา"
ไปอยู่เกาหลีกี่ปีแล้ว
"ถึงตอนนี้ก็ 7 ปีแล้วครับ ตอนนี้พูดได้ 3 ภาษาครับ ไทย เกาหลี อังกฤษ และก็มีจีนกับญี่ปุ่นได้นิดหน่อย"
ตลอดระยะ 3 ปีที่ผ่านมาเพิ่งได้กลับมาพัก 2 สัปดาห์ที่ไทย
"ใช่ครับ เวลาอยู่เกาหลีก็มีวันว่างบ้าง เดือนหนึ่ง หนึ่งวัน จะกลับมาเมืองไทยก็ไม่ได้ ก็ขอพักที่เกาหลีดีกว่า คุณแม่ก็ได้เจอเวลากลับมามีงานที่เมืองไทย ติดต่อกับคุณแม่เรื่อยๆ อยู่แล้ว เดี๋ยวนี้ง่าย"
รู้สึกอย่างไรที่ไปทำงานที่เกาหลีตั้งอายุ 13 ปี ความเป็นเด็กหายไป
"อันนี้รู้สึกทุกครั้ง เวลากลับเมืองไทยครับ กลับเมืองไทยผมไม่มีเพื่อนที่เมืองไทยเลย เพราะว่าผมอยู่เกาหลีตอน ม.2 เป็นช่วงที่จะคบเพื่อนแบบจริงๆ จังๆ แต่เรามาอยู่เกาหลีเลย ก็ทำให้ไม่มีเพื่อนที่เมืองไทย กลับเมืองไทยมาก็จะอยู่กับครอบครัว เรื่องการเรียนตอนไปเป็นเด็กฝึก ผมก็จะพักเรียน 2 ปีไว้ก่อน พอมาปีที่ 3 ที่อยู่เกาหลี ผมก็ห่วงเรื่องเรียน เราจะอยู่แบบนี้ไม่ได้ เพราะว่าเรื่องเรียนสำคัญ ผมก็เลยขอคุณแม่และทางค่ายขอเข้าโรงเรียนที่เกาหลี แต่เขาไม่รับเด็กฝึก เพราะเวลาเรียนไม่ตรงกับคนอื่น อาจจะได้แค่ไปสอบ ผมก็หาวิธีเข้าโรงเรียนนานาชาติ แต่เขาก็ไม่ให้เหมือนกัน ผมก็เลยกลับมาเมืองไทยคุยกับ กศน. รอบหนึ่ง แล้วเขาให้กลับมาสอบปีละ 2 ครั้ง ตอนนี้เหลือสอบรอบสุดท้ายก็จะจบ ม.6 แล้ว ผมไม่อยากทิ้งเรียน"
มีโอกาสไหมที่ แบมแบม จะมาเล่นละครไทย
"ถ้ามีโอกาสเมื่อไรผมก็พร้อมเสมอ ก่อนที่ผมจะไปเกาหลี ผมก็มีโฆษณา 2-3 ตัวที่เมืองไทย"
ติดตามชมการเปิดใจแบบนี้ ได้ในรายการ โหนกระแส วันที่ 17 กรกฎาคม 2560 เวลา 20.30-21.00 น. ช่อง 28
#แบมแบมกันต์พิมุกต์
แก้ไขล่าสุด 20 ก.ค. 60 19:34 |
เลขไอพี : ไม่แสดง
| ตั้งกระทู้โดย Windows 10
อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)
ความคิดเห็น
ยังไม่มีความคิดเห็น
จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google