Walk-in Closet และสิ่งที่คุณต้องรู้เมื่อออกแบบด้วยตัวเอง

      Walk-In Closet ก็คงจะเป็นความใฝ่ฝันของใครหลายคนที่ชื่นชอบการแต่งตัว บ้านไฟน์เดอร์พาคุณมาดูแบบ และสิ่งสำคัญในการออกแบบ walk-in closet กัน       สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการแต่งตัว การได้มีพื้นที่เฉพาะสำหรับเก็บเสื้อผ้าของคุณ เครื่องประดับของคุณ หรือรองเท้าของคุณ และยังเป็นพื้นที่แต่งตัวอย่างสร้างสรรค์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพในห้องเดียวนั้น ก็คงจะดีมากๆ ถ้า Walk-In Closet เป็นความใฝ่ฝันของคุณ และคุณกำลังจะออกแบบ หรือสร้าง walk-in closet ในบ้านของคุณ มาดูกันดีกว่าว่า มีอะไรบ้างที่คุณต้องคำนึงถึงเมื่อคุณจะสร้าง walk-in closet มาดูกัน


1. ความลึกของตู้เสื้อผ้า

      แน่นอนว่า walk-in closet นั้น จะต้องคำนึงเรื่องการใช้พื้นที่อย่างชาญฉลาด การกำหนดความลึกของตู้เสื้อผ้านั้นสำคัญมาก คุณต้องมั่นใจว่า ความลึกของตู้จะต้องอยู่ระหว่าง 14 - 24 นิ้ว เสื้อผ้าของคุณส่วนใหญ่ทั้งเสื้อเชิ้ต เสื้อคลุม เสื้อหนาว จะสามารถใส่ลงพอดีกับตู้ที่ลึก 24 นิ้วได้ ถ้าหากว่าคุณสร้างที่แขวนมาในขนาดที่เล็กกว่านั้น เสื้อผ้าของคุณก็อาจจะยื่นออกมาจากตู้ ทำให้ปิดตู้ไม่ได้หรือเลยออกมาก็ดูไม่เรียบร้อย และขัดทางเดินได้ โดยเฉพาะถ้าคุณมีโต๊ะแต่งตัวอยู่กลางห้อง walk-in closet ของคุณ

ดังนั้น ดีที่สุดก็คือ ออกแบบให้เหมาะกับเสื้อผ้าที่คุณมี

เสื้อผ้าที่ต้องการพับเก็บ จะต้องมีพื้นที่กว้างอย่างน้อย 9 - 15 นิ้ว

ถ้าคุณมีเสื้อโค้ท เสื้อหนาวขนาดใหญ่ ก็อาจจะต้องใช้พื้นที่แขวนสูงที่ 68 นิ้ว

สำหรับกางเกงยีนส์ และ กางเกงทำงาน ควรมีระยะความสูงที่ 50 นิ้ว หรือครึ่งหนึ่งหากคุณต้องการพับครึ่งในการเก็บ

กระโปรงต้องการขนาดความสูงของตู้ที่ 45 นิ้ว



2. แบ่งจำนวนของพื้นที่แขวนเดี่ยว และ แบ่งแขวนสองชั้น อย่างเหมาะสม

      ประเมินเสื้อผ้าของคุณ คุณมีกระโปรงมากกว่าชุดเดรสยาวๆ หรือเปล่า และส่วนใหญ่แล้วเสื้อผ้าของคุณเป็นแนวไหน ถ้าคุณมีเสื้อเชิ้ต กระโปรง หรือกางเกงมากหน่อย ก็จะเหมาะกับตู้เสื้อผ้าที่แบ่งแขวนสองชั้น ในขณะเดียวกัน คุณมีชุดราตรี หรือ เสื้อโค้ทยาว ก็จะเหมาะสมกับการแขวนเดี่ยวมากกว่า

      ดังนั้น คุณต้องคำนึงถึงปริมาณเสื้อผ้าของคุณ ถ้าคุณมีชุดออกงานเยอะหน่อย ก็ต้องมาแบ่งพื้นที่ว่า พื้นที่แขวนเดี่ยวของคุณควรจะมีมากหน่อย และถ้าคุณไม่ค่อยมีชุดยาวหรือเสื้อโค้ทยาว (หรือไม่มีเลย) พื้นที่แขวนแบบสองชั้นก็ช่วยทำให้คุณได้ใช้พื้นที่ได้มากขึ้น 


      สำหรับคุณผู้ชายนั้น มักจะไม่ค่อยใช้แบบแขวนเดี่ยวมากนัก เว้นเสียแต่ว่าคุณมีโค้ทยาวอยู่มาก ดังนั้นตู้เสื้อผ้าของคุณผู้ชายก็อาจจะดีกว่าที่จะใช้ตู้แบบแขวนสองชั้นแบ่งสำหรับเสื้อ และกางเกง



3. พื้นที่มุม

      พื้นที่มุมมักเป็นความท้าทายในการออกแบบเพื่อที่จะใช้สอยพื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพเสมอ โดยเฉพาะกับการออกแบบ walk-in closet เองก็เช่นกัน คุณอาจจะใช้พื้นที่มุมในการวางเสื้อผ้า กระเป๋า หรือ กระเป๋าเดินทาง ก็ได้ ซึ่งก็ทำให้ตู้เสื้อผ้าดูเป็นหนึ่งเดียวด้วย 


      แต่ถ้าคุณไม่ได้ออกแบบทำราวแบบโค้งเพื่อวางเสื้อผ้าที่มากขึ้น คุณก็อาจจะซ้อนตู้กันแบบภาพด้านบนก็ได้ และแม้ว่าพื้นที่มุมจะเป็นพื้นที่ที่ไม่ได้เข้าถึงได้ง่ายๆ แต่คุณก็สามารถที่จะใช้พื้นที่มุมสำหรับเสื้อกันหนาวที่อาจจะไม่ได้ใช้บ่อยๆ ก็ได้



4. พิจารณาว่าพื้นที่มีสำหรับเกาะกลาง (Island) ได้ไหม

      เกาะกลาง หรือ island ก็คือพื้นที่เสมือนโต๊ะที่วางไว้กลางห้อง สำหรับ walk-in closet แล้ว เกาะกลางนี้ก็เป็นเหมือนฝันที่จะมี

      พื้นที่ออกแบบในการมีเกาะกลางที่เหมาะสมใน walk-in closet คือ มีพื้นที่ทางเดินข้างๆ เกาะกลางอย่างน้อย 36 นิ้ว ทั้งสองด้าน แต่คุณก็สามารถปรับลงได้ถ้าคุณยอมเสียพื้นที่สักหน่อย เหลือเพียง 24-30 นิ้ว ยิ่งพื้นที่รอบๆกว้างเท่าไรก็ง่ายกับการดึงลิ้นชักหยิบของได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น ก็ยิ่งดีมากขึ้น


5. พื้นที่สำหรับรองเท้า

      ถ้าพื้นที่สำหรับรองเท้าต้องอยู่ใน walk-in closet ของคุณ อย่าลืมทำให้แน่ใจว่า เซลฟ์วางรองเท้าของคุณนั้นกว้างพอวางรองเท้าได้อย่างง่ายดาย

      รองเท้าของผู้หญิงปกติจะกินพื้นที่ต่อคู่อยู่ที่ความกว้าง 5 ครึ่ง - 10 นิ้ว ในขณะที่รองเท้าผู้ชายจะอยู่ที่ 6 ครึ่ง - 10 ครึ่ง ดังนั้นช่องวางของรองเท้าที่ควรกำหนดไว้คือประมาณ 7 - 12 นิ้วสำหรับรองเท้าหนึ่งคู่


      คราวนี้ถ้าคุณมีรองเท้าบู้ อย่าลืมที่จะกั้นพื้นที่สำหรับรองเท้าบู้ทด้วย ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะใช้พื้นที่ในแนวสูง ประมาณ 3 นิ้วสำหรับ บู้ทหุ้มข้อขามาหน่อย และสำหรัลบู้ทยาวก็ควรเว้นพื้นที่สูงในช่วง 9-17 นิ้ว


6. หาพื้นที่สำหรับวางเก้าอี้นั่ง

      การมีเก้าอี้สักตัวใน Walk-in Closet นั้นช่วยให้คุณมีพื้นที่ที่จะนั่งใส่รองเท้า ติดกระดุมเสื้อ และอะไรอีกมาก สำหรับเก้าอี้ในห้อง walk-in closet นั้นก็สามารถวางไว้ด้านข้างของเกาะกลาง หรือ ด้านข้างก็กำแพงที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ อย่างเช่น เก้าอี้ build-in ใต้หน้าต่าง และใส่เก๊ะเก็บของด้านล่างเก้าอี้ก็ได้อีกด้วย



7. อย่าลืมเครื่องประดับของคุณซะละ

      ไม่ว่าจะ กระเป๋า เครื่องประดับ เนคไท หรือ เข็มขัด สิ่งเหล่านี้ก็ควรที่จะถูกเก็บไว้วางเป็นระเบียนในพื้นที่ walk-in closet ของคุณด้วย เข็มขัด และเนคไท สามารถที่จะวางติดกำแพงที่ไม่ค่อยได้ใช้ได้ หรืออาจจะหาที่แขวนสำหรับกระเป๋าและของอื่นๆ ก็ได้ด้วย 


ขอบคุณข้อมูลจาก : http://www.thaihomeonline.com/article/tips-home/12165/