ทำความรู้จัก "เจียงเหมิน" เมืองเจ้าของสมญานาม "บ้านเกิดของชาวจีนโพ้นทะเล"
14 พ.ย. 60 09:46 น. /
ดู 1,592 ครั้ง /
3 ความเห็น /
0 ชอบจัง
/
แชร์
"ชาวจีนโพ้นทะเล" กำลังสำคัญผู้ขับเคลื่อน "เจียงเหมิน" จากอดีต ปัจจุบัน สู่อนาคต
เจียงเหมินเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในมณฑลกวางตุ้ง ทางตอนใต้ของประเทศจีน ในฐานะที่ได้รับสมญานามว่าเป็น "เมืองหลวงของชาวจีนโพ้นทะเล" เจียงเหมินจึงเป็นแหล่งรวมประวัติศาสตร์ของชาวจีนโพ้นทะเลตั้งแต่ยุคแรกเริ่ม โดยเมื่อหลายร้อยปีก่อนชาวจีนจำนวนมากได้อพยพไปยังประเทศต่าง ๆ เพื่อสร้างชีวิตใหม่ให้กับตนเอง
ชาวเจียงเหมินอยู่ในกลุ่มชาวจีนยุคแรก ๆ ที่เดินทางไปเสี่ยงโชค ณ ดินแดนตะวันตก ขณะที่หลายชีวิตตั้งรกรากและสร้างชุมชนชาวจีนขึ้นในประเทศที่ตนไปอาศัยอยู่ อีกหลายชีวิตก็เลือกหวนคืนสู่บ้านเกิดอย่าง "ไคผิง" เมืองระดับอำเภอในเจียงเหมิน
หลังจากเก็บหอมรอมริบในต่างประเทศจนเริ่มมีฐานะ ชาวไคผิงจำนวนมากเลือกเดินทางกลับสู่บ้านเกิด และนำเงินที่ได้จากน้ำพักน้ำแรงของตนเองมาสร้าง "เตียวโหลว" (Diaolou) ที่พักอาศัยซึ่งมีลักษณะโดดเด่นคล้ายหอคอยอันสูงตระหง่าน โดยเตียวโหลวของชาวไคผิงนี้เป็นสถาปัตยกรรมพื้นถิ่นแบบเฉพาะของจีนที่ผสานอิทธิพลแบบตะวันออกและตะวันตกเข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งเมื่อปี2550 องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติหรือยูเนสโก ได้ประกาศขึ้นทะเบียน "เตียวโหลและหมู่บ้านแห่งไคผิง" เป็นมรดกโลก
ดังคำกล่าวที่ว่า "ใบไม้ร่วงคืนสู่ราก" ลีกุมกี่ กรุ๊ป (LEE KUM KEE Group) บริษัทผู้ผลิตซอสและเครื่องปรุงรสแบรนด์ดังจากเกาะฮ่องกงไม่เคยลืมว่า เขตซินหุ้ยของเมืองเจียงเหมินคือรากเหง้าที่แท้จริงของวงศ์ตระกูล หลังจากจากบ้านจากเมืองไปดำเนินธุรกิจนอกเขตซินหุ้ยอยู่นานหลายปี ลีกุมกี่ได้ตัดสินใจหวนคืนสู่อ้อมกอดแห่งบ้านเกิด และจัดตั้งโรงงานที่ใหญ่ที่สุดในเขตซินหุ้ยขึ้นเมื่อปี 2538
ปัจจุบัน ลีกุมกี่มีพนักงานประมาณ 2,400 คน และผลิตซอสสูตรต่าง ๆ ออกจำหน่ายกว่า 200 สูตร โดยซอสหอยนางรมนั้นมีชื่อเสียงมากที่สุด ซึ่งมิเพียงแค่สร้างมูลค่าให้กับบริษัทเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงชุมชนท้องถิ่นด้วย
เจียงเหมินยกย่องอดีต รื่นรมย์กับปัจจุบัน และสร้างสรรค์อนาคต ชุมชนชาวจีนโพ้นทะเลขนาดใหญ่แห่งนี้มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเมืองเจียงเหมินมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นการคืนกำไรสู่สังคมทางตรง หรือการลงทุนทางอ้อม ซึ่งข้อมูลเชิงสถิติชี้ให้เห็นว่า ปัจจุบันประชากรเกือบ 4 ล้านคนซึ่งมีความเชื่อมโยงกับเมืองเจียงเหมินนั้นอาศัยอยู่ใน 107 ประเทศและภูมิภาค
เจียงเหมินตั้งอยู่บนทำเลชั้นยอดทางฝั่งตะวันตกของสามเหลี่ยมปากแม่น้ำเพิร์ล อีกทั้งพื้นที่ทางตอนใต้ของเมืองยังประจันหน้ากับทะเลจีนใต้ด้วย ขณะเดียวกันการที่เขตอ่าวกวางตุ้ง-ฮ่องกง-มาเก๊าได้ถูกรวมเข้าไว้อย่างเป็นทางการในวาระยุทธศาสตร์แห่งชาตินั้น ยังเป็นการวางรากฐานอันมั่นคงให้กับเจียงเหมินในการขับเคลื่อนเมืองให้ก้าวหน้าต่อไป ในฐานะสมาชิกที่สำคัญของเขตอ่าวดังกล่าว
ทั้งนี้ เมืองเจียงเหมินได้รังสรรค์ "Qiaomengyuan" (Dream Incubator for Overseas Chinese) หรือพื้นที่บ่มเพาะฝันสำหรับชาวจีนโพ้นทะเลขึ้น รวมถึงก่อตั้งกองทุนเพื่อการพัฒนาสำหรับสตาร์ทอัพและผู้ประกอบการที่ดำเนินการอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวด้วย โดยปัจจุบันสามารถดึงดูดโครงการราว 250 โครงการทั้งที่ได้ลงนามแล้วหรือวางแผนที่จะเข้าร่วมในพื้นที่เพาะฝันแห่งนี้ นอกจากนี้ ยังมีการจัดสรรเงินลงทุนมูลค่า 4 พันล้านหยวนเพื่อสร้าง Jiangmen Station ให้เป็นศูนย์กลางการขนส่งที่ครบวงจรและยิ่งใหญ่ที่สุดในมณฑลกวางตุ้งฝั่งตะวันตก ยิ่งไปกว่านั้น ทางเมืองเจียงเหมินยังได้วางแผนพัฒนาเขตเศรษฐกิจ Greater Guanghai Bay Economic Zone ซึ่งคาดว่าพื้นที่แห่งนี้จะเป็นเขตเศรษฐกิจระดับมณฑลที่ใหญ่ที่สุดของกวางตุ้งเลยทีเดียว
โครงการพัฒนาที่หยิบยกมาข้างต้นนี้เป็นเพียงบางส่วนเท่านั้น เจียงเหมินจะยังคงเดินหน้าสนับสนุนอรรถประโยชน์ของเมืองอย่างเต็มที่ พร้อมยกระดับบทบาทในฐานะที่เป็นบ้านเกิดของบรรพบุรุษแห่งชาวจีนโพ้นทะเล และส่งเสริมการแลกเปลี่ยนความเจริญต่าง ๆ กับประชาคมโลกต่อไป
ชาวเจียงเหมินอยู่ในกลุ่มชาวจีนยุคแรก ๆ ที่เดินทางไปเสี่ยงโชค ณ ดินแดนตะวันตก ขณะที่หลายชีวิตตั้งรกรากและสร้างชุมชนชาวจีนขึ้นในประเทศที่ตนไปอาศัยอยู่ อีกหลายชีวิตก็เลือกหวนคืนสู่บ้านเกิดอย่าง "ไคผิง" เมืองระดับอำเภอในเจียงเหมิน
หลังจากเก็บหอมรอมริบในต่างประเทศจนเริ่มมีฐานะ ชาวไคผิงจำนวนมากเลือกเดินทางกลับสู่บ้านเกิด และนำเงินที่ได้จากน้ำพักน้ำแรงของตนเองมาสร้าง "เตียวโหลว" (Diaolou) ที่พักอาศัยซึ่งมีลักษณะโดดเด่นคล้ายหอคอยอันสูงตระหง่าน โดยเตียวโหลวของชาวไคผิงนี้เป็นสถาปัตยกรรมพื้นถิ่นแบบเฉพาะของจีนที่ผสานอิทธิพลแบบตะวันออกและตะวันตกเข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งเมื่อปี2550 องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติหรือยูเนสโก ได้ประกาศขึ้นทะเบียน "เตียวโหลและหมู่บ้านแห่งไคผิง" เป็นมรดกโลก
ดังคำกล่าวที่ว่า "ใบไม้ร่วงคืนสู่ราก" ลีกุมกี่ กรุ๊ป (LEE KUM KEE Group) บริษัทผู้ผลิตซอสและเครื่องปรุงรสแบรนด์ดังจากเกาะฮ่องกงไม่เคยลืมว่า เขตซินหุ้ยของเมืองเจียงเหมินคือรากเหง้าที่แท้จริงของวงศ์ตระกูล หลังจากจากบ้านจากเมืองไปดำเนินธุรกิจนอกเขตซินหุ้ยอยู่นานหลายปี ลีกุมกี่ได้ตัดสินใจหวนคืนสู่อ้อมกอดแห่งบ้านเกิด และจัดตั้งโรงงานที่ใหญ่ที่สุดในเขตซินหุ้ยขึ้นเมื่อปี 2538
ปัจจุบัน ลีกุมกี่มีพนักงานประมาณ 2,400 คน และผลิตซอสสูตรต่าง ๆ ออกจำหน่ายกว่า 200 สูตร โดยซอสหอยนางรมนั้นมีชื่อเสียงมากที่สุด ซึ่งมิเพียงแค่สร้างมูลค่าให้กับบริษัทเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงชุมชนท้องถิ่นด้วย
เจียงเหมินยกย่องอดีต รื่นรมย์กับปัจจุบัน และสร้างสรรค์อนาคต ชุมชนชาวจีนโพ้นทะเลขนาดใหญ่แห่งนี้มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเมืองเจียงเหมินมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นการคืนกำไรสู่สังคมทางตรง หรือการลงทุนทางอ้อม ซึ่งข้อมูลเชิงสถิติชี้ให้เห็นว่า ปัจจุบันประชากรเกือบ 4 ล้านคนซึ่งมีความเชื่อมโยงกับเมืองเจียงเหมินนั้นอาศัยอยู่ใน 107 ประเทศและภูมิภาค
เจียงเหมินตั้งอยู่บนทำเลชั้นยอดทางฝั่งตะวันตกของสามเหลี่ยมปากแม่น้ำเพิร์ล อีกทั้งพื้นที่ทางตอนใต้ของเมืองยังประจันหน้ากับทะเลจีนใต้ด้วย ขณะเดียวกันการที่เขตอ่าวกวางตุ้ง-ฮ่องกง-มาเก๊าได้ถูกรวมเข้าไว้อย่างเป็นทางการในวาระยุทธศาสตร์แห่งชาตินั้น ยังเป็นการวางรากฐานอันมั่นคงให้กับเจียงเหมินในการขับเคลื่อนเมืองให้ก้าวหน้าต่อไป ในฐานะสมาชิกที่สำคัญของเขตอ่าวดังกล่าว
ทั้งนี้ เมืองเจียงเหมินได้รังสรรค์ "Qiaomengyuan" (Dream Incubator for Overseas Chinese) หรือพื้นที่บ่มเพาะฝันสำหรับชาวจีนโพ้นทะเลขึ้น รวมถึงก่อตั้งกองทุนเพื่อการพัฒนาสำหรับสตาร์ทอัพและผู้ประกอบการที่ดำเนินการอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวด้วย โดยปัจจุบันสามารถดึงดูดโครงการราว 250 โครงการทั้งที่ได้ลงนามแล้วหรือวางแผนที่จะเข้าร่วมในพื้นที่เพาะฝันแห่งนี้ นอกจากนี้ ยังมีการจัดสรรเงินลงทุนมูลค่า 4 พันล้านหยวนเพื่อสร้าง Jiangmen Station ให้เป็นศูนย์กลางการขนส่งที่ครบวงจรและยิ่งใหญ่ที่สุดในมณฑลกวางตุ้งฝั่งตะวันตก ยิ่งไปกว่านั้น ทางเมืองเจียงเหมินยังได้วางแผนพัฒนาเขตเศรษฐกิจ Greater Guanghai Bay Economic Zone ซึ่งคาดว่าพื้นที่แห่งนี้จะเป็นเขตเศรษฐกิจระดับมณฑลที่ใหญ่ที่สุดของกวางตุ้งเลยทีเดียว
โครงการพัฒนาที่หยิบยกมาข้างต้นนี้เป็นเพียงบางส่วนเท่านั้น เจียงเหมินจะยังคงเดินหน้าสนับสนุนอรรถประโยชน์ของเมืองอย่างเต็มที่ พร้อมยกระดับบทบาทในฐานะที่เป็นบ้านเกิดของบรรพบุรุษแห่งชาวจีนโพ้นทะเล และส่งเสริมการแลกเปลี่ยนความเจริญต่าง ๆ กับประชาคมโลกต่อไป
เลขไอพี : ไม่แสดง
| ตั้งกระทู้โดย Windows 7
อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)
ความคิดเห็น
จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google