นิทานคิงเพาเวอร์ ตอน สัมปทานที่กัดไม่ปล่อยหรือถอยไม่ได้

ขอเอาบทความเรื่องธุรกิจที่เหมือนละครกันหน่อย อ่านบทความมาแล้วรู้สึกการแข่งขันธุรกิจสมัยนี้มันสูงจริง ๆ
และคนไม่สมัยนี้มัน ไม่ได้เล่ห์ก็เอากันด้วยกลหรือให้ได้สักทาง ยกบทความมาให้อ่านกันเลยละกัน ความเดิมตอนที่แล้ว

รุ่นพี่สาวใหญ่ได้พยายามขอความช่วยเหลือทั้งจากเพื่อนชายที่เข้าหุ้นเปิดร้านกันอย่างลับๆ และจากเพื่อนชายที่เป็นอริอยู่คนละก๊วนกัน ไปจนขอความช่วยเหลือจากเพื่อนรุ่นพี่ที่เคยเรียนโรงเรียนเก่าพี่ประธาน แต่มันก็ยังไม่มีผลใดๆที่จะหยุดหรือล้มกิจการของร้าน “คิงเพาเวอร์” ได้เลย

ตัวละครในเรื่องเป็นเพียงตัวละครสมมติเท่านั้น

เมื่อพึ่งเพื่อนรุ่นพี่ประธานไม่ได้จึงต้องหาทางใหม่ รุ่นพี่สาวใหญ่จึงไปปรึกษาโอปป้า เพื่อนต่างชาติที่ไปเจอกันเมื่อครั้งที่ไปดูคอนเสิร์ตเกิร์ลเจนฯ ซึ่งเพื่อนคนนี้ก็ทำธุรกิจด้านนี้เหมือนกัน

โอปป้า: ยูต้องใช้สื่อและโซเชียลให้เป็นประโยชน์”

รุ่นพี่สาวใหญ่: ฉันต้องทำยังไงล่ะพี่ชาย

โอปป้า: ยูต้องให้สื่อช่วยเขียนข่าวโจมตีเยอะๆ ถ้าไม่มีข่าวใหม่ก็ไปเอาข่าวเก่ามารีไรท์ ถ้ามีข่าวใหม่ยูก็ต้องเล่นใหญ่ ถ้ามีข่าวดีก็ไม่ต้องไปเสนอ ให้สื่อทำข้ามไปไม่รู้ไม่เห็น ถ้าซื้อสื่อข่าวนอกรร.ให้ช่วยนำเสนอด้วยได้ยิ่งดี จะได้เป็นการกดดันทั้งจากภายในและภายนอก ถ้าสมมติมีเรื่องใดเกิดขึ้นที่สามารถโยงไปทางลบกับร้าน คิงเพาเวอร์ ได้ก็จัดเลย รุ่นพี่สาวใหญ่ได้ฟังดังนั้นก็กระโดดขึ้นค่อมหลังเสือจัดการตามที่โอปป้าแนะนำทันที

หนังสือพิมพ์ รร. หลายสำนักเสนอข่าวเกี่ยวกับสัมปทานร้านคิงเพาเวอร์กันอย่างคึกคัก แต่หากอ่านดีๆ ก็เหมือนดูละครดาวพระศุกร์รีเมคนั่นเอง แหม..ทำมาเป็นเอาของไปบริจาคช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมเรื่องแบบนี้คนอื่นอย่าไปรู้เลยห้ามเสนอข่าวนะ (ใครลงบ้านบึ้ม)

“พี่คะ..ทำไงดี อาจารย์ยึดโลชั่นขวดใหญ่ของหนู ทำไมคะทำไมจะเอาขวดใหญ่เข้ามาในรร.ไม่ได้ ก็หน้าหนูใหญ่นี่นา ที่ครูบอกว่าให้เอามาแค่ขวดละไม่เกิน100มิล.มันพอซะที่ไหน ต้องใหญ่ๆค่ะถึงจะพอ ไม่ให้เอาเข้าไม่พอไม่ยอมรับฝากของหนูอีก หนูไลฟ์สดบอกชาวโลกเลยว่าหนูวางไว้นะยังไม่ทิ้ง ใครเอาไปหนูจะฟ้องข้อหาลักทรัพย์” น้องไม่รู้เหรอคะ อาจารย์เค้าเอื้อประโยชน์ให้ร้าน คิงเพาเวอร์ ไง พอยึดของมา น้องจะใช้ก็ไปซื้อที่ร้าน คิงเพาเวอร์ ไง กฎอะไรที่ไหนล่ะ เค้ามีกฎเพื่อให้ร้าน คิงเพาเวอร์ ขายของได้เท่านั้น แต่ถ้าน้องซื้อไปเปิดใช้แล้ว เอามาใช้ต่อที่รร. ถ้าเกิน 100 มิล.เค้าก็ยึดอีกนะ เอื้อประโยชน์กันสุดๆ น้องต้องเรียกร้องความเป็นธรรมบอกต่อๆ ไปกันเยอะๆ ว่า “กฎระเบียบ รร. ของเราเอื้อประโยชน์ให้ร้าน คิงเพาเวอร”

สื่อกีฬานอกรร. ก็ไม่น้อยหน้า “ร้าน คิงเพาเวอร์ สปอนเซอร์หลักทีมจิ้งจอกสยาม ฟุตซอล อ. อังกิด ถูกฟ้องร้องเรื่องสัมปทานร้านคิงเพาเวอร์ เหมาะสมเป็นผู้สนับสนุนหลักหรือไม่ ตามกฎหากมีการถูกฟ้องร้องจะถูกตัดสิทธิ์”

ล่าสุดมีการประมูลสัมปทานร้านค้าเพิ่มอีกที่ ร้าน คิงเพาเวอร์ ก็ชนะการประมูลไปตามระเบียบ แบบไร้แววร้านค้าของพี่สาวใหญ่และผองเพื่อน โดยชนะในราคาที่สูงกว่าอันดับ 2 ถึงเกือบเท่าตัว จึงเป็นคำถามที่ชวนให้สงสัยว่าเหตุใดพี่สาวใหญ่ถึงไม่มาร่วมประมูล และเมื่อประมูลจบแล้วก็ยังมีกระแสข่าวออกมาดิสเครดิตอยู่เนื่องๆ หรือรู้ว่าสู้ตรงๆ ไม่ได้ ผิดก็ว่ากันไปตามถูกผิดจะมามัวปล่อยข่าวดิสเครดิตกันทำไม คงต้องมาติดตามกันตอนต่อไป ว่าพี่สาวใหญ่จะทำยังไงต่อ เพื่อนชายที่ฮึ่มแฮ่จะฟ้องร้อง จะทำได้สำเร็จหรือไม่ และเปิดประมูลสัมปทานร้านค้าครั้งต่อไปจะมีชื่อร้านค้าของโอปป้าร่วมลุ้นหรือไม่ ทุกอย่างที่พี่สาวใหญ่ลงทุนลงแรงไป ทำไปเพื่อความถูกต้องหรือเพื่อความถูกใจใครกันแน่ อดใจรออีกหน่อยไม่นานได้รู้กัน

อ่านแล้วก็มาคิดต่างชาติมาแข่งกับไทยแล้วก็ต้องอยู่ในกฎในเกณฑ์กันสิ

เครดิต:http://www.prachatalk.com/webboard/สังคม-การเมือง/นิทานคิงเพาเวอร์-ตอน-สัมปทานที่กัดไม่ปล่อยหรือถอยไม่ได้

นิทานคิงเพาเวอร์ ตอนที่ 1 นิทาน คิงเพาเวอร์ สัมปทานแอบแฝง ของคนแอบดี
http://www.prachatalk.com/webboard/สังคม-การเมือง/นิทาน-คิงเพาเวอร์-สัมปทานแอบแฝง-ของคนแอบดี