ปัญ BNK48 นอกจากมีความสามารถบนเวทีแล้ว เรื่องเรียนก็ไม่แพ้กัน เก่งมากเจ้าฉลาม!

8 ก.พ. 61 13:11 น. / ดู 4,573 ครั้ง / 4 ความเห็น / 0 ชอบจัง / แชร์
hashtag: #bnk48 #punbnk48


นักร้องเกิร์ลกรุ๊ปในไทยที่มาแรง ณ ขณะนี้ วงที่คนจะนึกถึงเป็นอันดับแรกๆ ก็ต้อง BNK48 อย่างแน่นอน
เพราะมีเพลงฮิตติดหูร้องและเต้นตามกันทั่วบ้านทั่วเมืองอย่าง คุกกี้เสี่ยงทาย
ที่ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็เจอ โดนไวรัสคุกกี้เสี่ยงทายซื้อไปตามๆ กัน 555555555




นอกจากความสามารถบนเวทีแล้ว สาวๆ ในวง BNK48 ก็ยังเก่งเรื่องการเรียนอีกด้วย
สมกับเป็นไอดอลของเด็กรุ่นใหม่จริงๆ หนึ่งในนั้นก็คือ "ปัญ - ปัญสิกรณ์ ติยะกร"
น้องฉลามน้อยของเรานั่นเอง ฉายาฉลามได้มาเพราะเวลายิ้มเหมือนจะฉลาม 55555








ปัญให้สัมภาษณ์ถึงการมาเป็น BNK48 การแบ่งเวลาเรียนกับเวลาทำงาน
เจ้าฉลามจะตอบว่ายังไงบ้าง ตามมาอ่านกันเล้ยยยยย




เป็น BNK48 ชีวิตเปลี่ยนไหม
"เปลี่ยนเยอะเลยเพราะว่า จากที่เหมือนเราก็แค่เรียนหนังสือแล้วก็กลับบ้าน
เต้น ร้องบ้าง แต่ว่าตอนนี้เหมือนการเต้น ร้อง ที่เราเรียนเล่นๆ เป็นงานอดิเรกก็ต้องมาเป็นอาชีพเรา
80 เปอร์เซ็นต์ของชีวิต คือทำงาน BNK48 ค่ะ
ทุกคนมันต้องมีช่วงอายุที่เราต้องทำงานใช่ไหมคะ แต่แค่หนูเริ่มเร็วกว่าคนอื่น
คือเราเป็น BNK ใชไหมคะ เราไม่ต้องเป็นผู้ใหญ่ขนาดนั้น มันเป็นวงเด็กๆ ค่ะ แล้วก็เป็นตัวของตัวเอง
แต่แค่เหมือนเราก็ต้องไม่ทำให้เป็นภาระของคนอื่นเวลาทำงานด้วยค่ะ"






ความสนุกของคุกกี้เสี่ยงทาย
"เพลง Koisuru Fortune Cookie (คุกกี้เสี่ยงทาย) มันมีความสุขตรงที่มันเป็นท่าฟรีสไตล์
เราก็จะสามารถแบบ แอบมองเธออยู่นะจ๊ะ (พร้อมทำท่าทางประกอบการเต้น)"




แอบมองเธออยู่นะจ๊ะ 1






แอบมองเธออยู่นะจ๊ะ 2






แอบมองเธออยู่นะจ๊ะ 3



"ระหว่างการโชว์เราก็ต้องมานั่งคิดตลอด ว่าแบบฉันจะทำท่าอะไรดีแล้วมันก็สนุกดี
เพราะมันไม่เหมือนเดิม มันเปลี่ยนไปเรื่อยๆ มันทำให้เราไม่เบื่อค่ะ"






การเป็นนักศึกษาในวัย 17 ปี
"ตัวหนูเองตอนแรกไม่ได้คิดว่าจะสอบเทียบ แต่ว่าพี่ชายจะสอบ
แม่หนูก็ไม่อยากให้อยู่บ้านเฉยๆ ก็เลยไปเรียนเป็นกวดวิชาก็ได้สัก 3 ตัว
สรุปพอเรียน 3 ตัว ผ่าน แม่ก็เลยอีกสองตัวก็จบมอหกแล้ว ไหนๆ ก็มาแล้วก็ไปให้สุด
สอบอีก 2 ตัว แล้วก็จบมอหก ก็เลยเข้ามหา'ลัยเลยค่ะ
แล้วพอเข้ามหา'ลัยปุ๊บ มันก็ตรงช่วงกับที่ได้เป็น BNK พอดี
แล้วมันก็เลยแบบเหมือนอะไรหลายๆ อย่างก็ง่ายขึ้น เพราะว่าเราก็มีหลักแหล่งแล้ว
ว่าเราเรียนที่นี่นะ คณะนี้นะ เราแค่เหลือต้องลงวิชาให้ช่วงเวลาไม่กระทบงานมากที่สุดค่ะ"






งานส่งผลต่อการเรียนไหม
"ด้วยประเทศไทยก็ต้องแบบการเรียนก็ต้องดีด้วย ทำงานก็ต้องดีด้วยใช่ไหมคะ
ก็เลยแบบเหมือนงานส่วนมากจะเป็นช่วงบ่ายๆ แล้วก็เวลาซ้อมก็จะเป็นช่วงเย็นค่ะ
ในช่วงแรกๆ คือ เราจะซ้อมทุกเย็น เสาร์ อาทิตย์ก็คือซ้อมเต็มวัน
เพราะว่าช่วงนั้นเหมือนแบบทุกคนต้องมาปรับพื้นฐานกันบ้าง
พอเดบิวต์ออกไปเราไม่รู้ใช่ไหมคะว่าคนเขาจะแบบอยากเห็นภาพเราเป็นยังไง
คือเราก็ต้องทำตัวให้พร้อมมากที่สุด ทั้งด้านสภาวะจิตใจ
หรือว่าแบบด้านการสัมภาษณ์เอย อะไรเอย หรือว่าการเต้นด้วย ร้องด้วย
เพราะเราต้องมีอัดเสียงครั้งแรกของพวกเราในชีวิตด้วย
แต่ว่าพอหลังจากนั้น ณ ปัจจุบันนี้คือก็ยังซ้อมอยู่เรื่อยๆ เพราะว่ากำลังจะมีเธียร์เตอร์ด้วยเหมือนกัน
แต่ว่ามันก็จะมีบางช่วงที่เมมเบอร์บางคนอาจจะต้องขาดซ้อม เนื่องจากมีติดงาน
บางคนก็ต้องมีถ่ายนู่น ถ่ายนี่ หรือว่ามีไปออกงานตามสื่อต่างๆ เหมือนกันค่ะ"






ครอบครัวเป็นแรงใจสำคัญ
"ตั้งแต่ตอนเลือกคณะทุกอย่างเขาก็ไม่เคยบังคับเลยว่าจะอยู่คณะไหน หรือว่าจะทำอะไร คือตามใจค่ะ
แต่คือขอให้มันไปได้ดีๆ ค่ะ ทุกอย่างคือไม่ได้มีกรอบมาบังคับว่าต้องให้เรียนคณะนี้นะ
ต้องเป็นอาชีพนี้เท่านั้นนะ ไม่มีค่ะ (ยิ้ม) เหมือนแค่เราเป็นคนดี ตั้งใจเรียน มีปริญญาให้เขาก็โอเคแล้วค่ะ"






ไอดอลแบบ ปัญ BNK48
"คำว่าไอดอลมันคือเหมือนเป็นตัวอย่างใช่ไหมคะ ตัวหนูเองหนูก็ไม่รู้หรอกค่ะว่าหนูเป็นตัวอย่างให้ใครได้หรือเปล่า
แต่หนูรู้สึกว่า พอหนูได้มาทำตรงนี้คนก็จะบอกว่าหนูแบบเป็นกำลังใจให้เขา
เด็กๆ ก็จะแบบ พี่เป็นไอดอลของหนูเลยนะ หนูอยากเป็นแบบพี่จังเลยอะไรอย่างนี้ค่ะ
หนูก็รู้สึกดีใจที่คนชอบเรา แต่คำว่าไอดอลมันไม่ได้ตีกรอบหนูขนาดนั้น
ว่าแบบฉันต้องเป็นอย่างนี้นะ หนูก็แค่รู้สึกว่าหนูก็เป็นของหนูอย่างนี้ไปเรื่อยๆ
อย่างน้อยเราต้องไม่ลืมวันแรกที่เราเข้ามา ว่าแบบวันแรกของเราเข้ามาเพราะอะไร
เราเข้ามาแล้วเรามีจุดมุ่งหมายอะไร แล้วเราก็จะเป็นเหมือนเดิมไปตลอด
คนที่เขารักเราตั้งแต่วันแรกแล้วก็จะไม่เปลี่ยนไปตลอดไปค่ะ"






ผ่านมา 1 ปี ยังตื่นเต้นทุกเวที
"มันตื่นเต้นที่แบบผลลัพธ์มันจะออกมายังไง สิ่งที่ฉันทำอยู่ตอนนี้มันดีหรือเปล่า
เหมือนเราคิดถึงแฟนคลับที่เขาก็รอดูเราอยู่ เวลาที่เขามารอเราดูการแสดงครั้งหนึ่ง
มันเหนื่อยนะคะ การที่ยืนรอเฉยๆ แบบร้อนก็ร้อน คือเราซ้อมแล้วเราก็ไปขึ้นให้เขาดู
มันเหมือนผลัดเปลี่ยนกันค่ะ แบบมันแทนความรู้สึกกันและกัน
ว่าแบบฉันซ้อมเพื่อให้เธอมีความสุขนะ นี่ก็รอเพื่อให้คนที่อยู่บนเวทีรู้ว่ามีคนมาดูอยู่นะ
มันเหมือนแบบแลกเปลี่ยนกัน แล้วมันก็ลงล็อคกัน หนูรู้สึกว่ามันเป็นรีเลชั่นชิปที่แบบมันน่ารักดีค่ะ (ยิ้ม)"






โอตะ กับ ไอดอล
"ด้วยความที่เหมือนเราก็เป็นคนของสาธารณะใช่ไหมคะ คือเราก็ต้องวางตัวให้มีระยะห่าง
แต่ว่าไม่ใช่เป็นคนที่แบบดูหยิ่ง คือเราก็สามารถคุยกับเขาได้ปกติ
แต่ว่าไม่ใช่เข้าไปรู้ทุกอย่างของเขา หรือเข้าไปบอกอะไรเขา
คือทุกอย่างก็คือเราทำได้แค่มอบความสุขให้เขาอะไรอย่างนี้ค่ะ"



Credit:
Facebook: อีจัน บันเทิง, bnk48official.pun
Instagram: pun.bnk48official



#BNK48 #PunBNK48
เลขไอพี : ไม่แสดง | ตั้งกระทู้โดย Windows 7

อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)

ความคิดเห็น

#1 | mem_366288 | 8 ก.พ. 61 14:36 น.

ก็น่ารัก

ไอพี: ไม่แสดง | โดย Windows 7

#2 | littlebowz | 8 ก.พ. 61 17:45 น.

น่าร๊ากกกกกก

ไอพี: ไม่แสดง | โดย Windows 7

#3 | awkward55555 | 9 ก.พ. 61 09:43 น.

น้องน่าร๊ากกก

ไอพี: ไม่แสดง | โดย Windows 7

#4 | sz410098 | 10 ก.พ. 61 10:49 น.

น่ารักกกกกกกกก 

ข่าวสารประเทศ America

เกตรกรรมที่ยั่งยืน

แก้ไขล่าสุด 10 ก.พ. 61 10:49 | ไอพี: ไม่แสดง | โดย Windows 10

แสดงความคิดเห็น

จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google