ไอซ์ น้อมรับ ถูกมองเป็นจุดบอดของละคร บุพเพสันนิวาส
SZ News









22 มี.ค. 61 22:42 น. /
ดู 2,084 ครั้ง /
0 ความเห็น /
0 ชอบจัง
/
แชร์
hashtag:
#บุพเพสันนิวาส #ไอซ์ศรัณยู

เรียกได้ว่าใครที่เป็นส่วนหนึ่งในการร่วมงานกับละคร "บุพเพสันนิวาส" เป็นต้องถูกจับมาอยู่ในกระแส "ไอซ์ - ศรัณยู วินัยพานิช" ที่ได้ร้องเพลงที่มีชื่อเดียวกับละครก็ถูกพูดถึงเช่นกัน เกี่ยวกับเพลงที่อาจจะไม่ค่อยถูกใจผู้ฟังบางคน[/color] โดย ไอซ์ เล่าตอนที่รู้เรื่องนี้ว่า "มันก็เป็นคอมเมนต์ที่ส่งๆ ต่อๆ กันมาครับ ทีนี้พอได้มีโอกาสเห็นก็เลยรู้สึกเกรงใจครับ คือเกรงใจช่อง 3 เกรงใจผู้จัดละคร แล้วก็เกรงใจคนทำเพลง จริงๆ ไม่ค่อยอยากพูดเรื่องนี้เลย เพราะว่ามันก็ผ่านไปแล้ว และก็ได้กำลังใจเยอะแยะมากมายเลยนะครับ ก็เอาเป็นว่าในมุมของไอซ์ มองว่าเพลงมันเหมือนศิลปะครับ คือไม่มีผิดไม่มีถูกครับ คือคนมีสิทธิ์ที่จะชอบศิลปะชิ้นนี้หรือว่าไม่ชอบศิลปะชิ้นนี้ครับ ก็เป็นเรื่องนานาจิตตังครับ พอเห็นว่ามันเริ่มจะไปกันใหญ่ก็เลยรู้สึกว่าถ้าเราเป็นต้นเหตุ มันไม่เพราะเพราะเรา เราก็ขอโทษดีกว่าครับ คือเราขอโทษจากใจจริง ถ้าสมมติว่าเราเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้รู้สึกว่ามันไม่เพราะ"
นักร้องหนุ่มเข้าใจหากเพลงประกอบละครที่ร้องไปถูกมองเป็นจุดบอด "จริงๆ ไอซ์เข้าใจครับ มันก็รวมๆ ครับ ก็ที่เห็นกันก็คือเหมือนดีหมดทุกอย่างเลย ยกเว้นในส่วนของเพลงประกอบละครอย่างเดียว เหมือนเป็นจุดบอดของละครเรื่องนี้ ก็อย่างที่ไอซ์บอกว่ามันคืองานศิลปะครับ ไอซ์เข้าใจ คนก็อาจจะชอบศิลปะชิ้นนี้หรืออาจจะไม่ชอบศิลปะชิ้นนี้ แต่ว่าหลังจากเรื่องราวต่างๆ เกิดขึ้น ไอซ์ก็ได้กำลังใจเยอะแยะมากมายจากหลายๆ ส่วนที่มองว่างานชิ้นนี้มันเป็นศิลปะที่เขาชอบ คือในส่วนของไอซ์ ไอซ์ก็ขอโทษในส่วนของไอซ์นะครับ แล้วก็ขอบคุณในส่วนของกำลังใจที่ไอซ์ได้รับ ไอซ์ก็บอกตามความเป็นจริงว่าไอซ์ก็พยายามทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด (ยิ้ม) ถ้าใครชื่นชอบไอซ์ก็ขอบคุณครับ ถ้าใครรู้สึกว่ามันยังไม่ใช่ ยังไม่ชื่นชอบ ก็ให้โอกาสในการฟัง แล้วไอซ์ก็ขอโทษถ้ามันไม่เพราะครับ"
ไอซ์ ไม่เครียดแต่รู้สึกเกรงใจที่เรื่องราวลุกลามบานปลาย "ไม่ใช่ฟีลแบบเครียดครับ แต่ว่าเป็นฟีลรู้สึกเกรงใจครับ ไอซ์อยู่ในวงการบันเทิงมา คือกว่าไอซ์จะได้ทำงานแต่ละชิ้นหรือว่าได้พิสูจน์ตัวเองในแต่ละชิ้นงานสำหรับไอซ์มันเป็นเรื่องยากมากเลย ไอซ์ก็ดีใจมากเลยตอนที่ไอซ์ได้มีโอกาสร้องเพลงนี้ คือไอซ์ติดตามเรื่องของการสร้างละครมาตั้งแต่ไอซ์เห็นโปรดักชันนะครับ จนได้รับการติดต่อให้ไอซ์มาร้องเพลงประกอบละครเพลงนี้ ไอซ์ก็ดีใจมาก ภูมิใจมากครับ แต่พอมันมีดราม่าเกิดขึ้นแล้วเริ่มจะลุกลามบานปลายก็เลยรู้สึกว่าจริงๆ จุดประกายของดราม่ามันคือตัวเราที่เขารู้สึกว่าไม่เพราะ ไม่เหมาะสมหรือเปล่า ก็เลยเป็นเราที่เป็นคนขอโทษแล้วกัน เพราะเราอยากให้เรื่องมันจบลงครับ จะบอกว่าไม่เสียใจเลยก็คงไม่ครับ แต่ว่าก็อยู่ในวงการบันเทิงมา 15 ปีแล้ว ก็เข้าใจครับ"
ก่อนจะเล่าว่าเหตุใดเพลงนี้จึงไม่เป็นเพลงแบบไทยเดิม "โจทย์ของเพลงๆ นี้คือเพลงป๊อปร่วมสมัย ตั้งแต่วันแรกที่ได้รับบรีฟก็คือตอนแรกเราเข้าใจว่าเพลงนี้เป็นเพลงไทยเหมือนกัน พอเราได้เนื้อร้อง เราได้ทำนอง เราไปอัดวันแรกเราก็ไปฝึกร้องไทยเดิมมาเลย พอไปถึงจริงๆ ตอนอัดก็คือมีทั้งพี่เที้ยง วิเชียร (วิเชียร ตันติพิมลพันธ์) โปรดิวเซอร์นะครับ แล้วพี่หนึ่ง ณรงค์วิทย์ (ณรงค์วิทย์ เตชะธนะวัฒน์) แล้วก็พี่หน่อง อรุโณชา (อรุโณชา ภาณุพันธุ์) ทุกคนก็เห็นไปในไดเรกชันเดียวกันว่าอยากให้ไอซ์ร้องเป็นเพลงป๊อปที่มีกลิ่นอายของความเป็นไทยด้วย ได้รับคำชี้แจงมาว่าจริงๆ แล้วเป็นละครที่เกิดขึ้นสองยุคสองสมัยครับ เป็นทั้งยุคปัจจุบันแล้วก็เป็นทั้งยุคอดีตมารวมกัน แทนองค์ประกอบรวมทั้งเพลง ก็เลยอยากเพลงนี้มีความเป็นป๊อปที่เป็นเพลงร่วมสมัย ซึ่งอันนี้เป็นเหตุผลที่มาของเพลง มันเป็นโอกาสที่คนดูคนฟังจะได้เลือกและตัดสินใจว่าชอบหรือไม่ชอบ ซึ่งไอซ์ก็ยินดีที่จะน้อมรับคำติชมเหล่านั้นครับ"
#ไอซ์ศรัณยู #บุพเพสันนิวาส
ไอซ์ ไม่เครียดแต่รู้สึกเกรงใจที่เรื่องราวลุกลามบานปลาย "ไม่ใช่ฟีลแบบเครียดครับ แต่ว่าเป็นฟีลรู้สึกเกรงใจครับ ไอซ์อยู่ในวงการบันเทิงมา คือกว่าไอซ์จะได้ทำงานแต่ละชิ้นหรือว่าได้พิสูจน์ตัวเองในแต่ละชิ้นงานสำหรับไอซ์มันเป็นเรื่องยากมากเลย ไอซ์ก็ดีใจมากเลยตอนที่ไอซ์ได้มีโอกาสร้องเพลงนี้ คือไอซ์ติดตามเรื่องของการสร้างละครมาตั้งแต่ไอซ์เห็นโปรดักชันนะครับ จนได้รับการติดต่อให้ไอซ์มาร้องเพลงประกอบละครเพลงนี้ ไอซ์ก็ดีใจมาก ภูมิใจมากครับ แต่พอมันมีดราม่าเกิดขึ้นแล้วเริ่มจะลุกลามบานปลายก็เลยรู้สึกว่าจริงๆ จุดประกายของดราม่ามันคือตัวเราที่เขารู้สึกว่าไม่เพราะ ไม่เหมาะสมหรือเปล่า ก็เลยเป็นเราที่เป็นคนขอโทษแล้วกัน เพราะเราอยากให้เรื่องมันจบลงครับ จะบอกว่าไม่เสียใจเลยก็คงไม่ครับ แต่ว่าก็อยู่ในวงการบันเทิงมา 15 ปีแล้ว ก็เข้าใจครับ"
ก่อนจะเล่าว่าเหตุใดเพลงนี้จึงไม่เป็นเพลงแบบไทยเดิม "โจทย์ของเพลงๆ นี้คือเพลงป๊อปร่วมสมัย ตั้งแต่วันแรกที่ได้รับบรีฟก็คือตอนแรกเราเข้าใจว่าเพลงนี้เป็นเพลงไทยเหมือนกัน พอเราได้เนื้อร้อง เราได้ทำนอง เราไปอัดวันแรกเราก็ไปฝึกร้องไทยเดิมมาเลย พอไปถึงจริงๆ ตอนอัดก็คือมีทั้งพี่เที้ยง วิเชียร (วิเชียร ตันติพิมลพันธ์) โปรดิวเซอร์นะครับ แล้วพี่หนึ่ง ณรงค์วิทย์ (ณรงค์วิทย์ เตชะธนะวัฒน์) แล้วก็พี่หน่อง อรุโณชา (อรุโณชา ภาณุพันธุ์) ทุกคนก็เห็นไปในไดเรกชันเดียวกันว่าอยากให้ไอซ์ร้องเป็นเพลงป๊อปที่มีกลิ่นอายของความเป็นไทยด้วย ได้รับคำชี้แจงมาว่าจริงๆ แล้วเป็นละครที่เกิดขึ้นสองยุคสองสมัยครับ เป็นทั้งยุคปัจจุบันแล้วก็เป็นทั้งยุคอดีตมารวมกัน แทนองค์ประกอบรวมทั้งเพลง ก็เลยอยากเพลงนี้มีความเป็นป๊อปที่เป็นเพลงร่วมสมัย ซึ่งอันนี้เป็นเหตุผลที่มาของเพลง มันเป็นโอกาสที่คนดูคนฟังจะได้เลือกและตัดสินใจว่าชอบหรือไม่ชอบ ซึ่งไอซ์ก็ยินดีที่จะน้อมรับคำติชมเหล่านั้นครับ"
#ไอซ์ศรัณยู #บุพเพสันนิวาส
เลขไอพี : ไม่แสดง
| ตั้งกระทู้โดย Windows 10
อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)
ความคิดเห็น
ยังไม่มีความคิดเห็น
จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google