ปรึกษาและอยากระบายค่ะ #เมื่อเราแอบเป็นชู้กับพี่เขย

27 ก.ค. 61 00:40 น. / ดู 25,519 ครั้ง / 3 ความเห็น / 0 ชอบจัง / แชร์
ออกตัวก่อนว่าตอนนี้เรากับพี่เขยเลิกยุ่งกันแล้ว เรามีคนดูใจใหม่ และพี่เขยก็รักกันดีกับพี่สาวเราค่ะ (พี่สาวเป็นลูกพี่ลูกน้องกันค่ะ)
เริ่มแรกเลยคือเรามีโอกาสได้กลับไปมาเจอกับครอบครัวฝั่งพ่ออีกครั้งหลังจากไม่เจอมายี่สิบกว่าปี ป้า(แม่ของพี่สาวเราคนนี้)รับเรามาอยู่ด้วยและให้งานทำ เป็นงานที่เดินทางบ่อย ไปตจว.ตลอด เรามีลูก 1 คน เราถูกแฟนทิ้งเพราะเขามีผญ.ใหม่ จึงหอบลูกมาทำงานที่จังหวัดอื่น ครึ่งปีแรกทำงานกับป้าและญาติคึนอื่นๆโดยเดนิทางไปด้วยกันทั้งหมด ต่อมาป้าเริ่มเหนื่อย เลยให้ลูกเขยเขามาทำงานคู่กับเราแทน (ซึ่งก็คือพี่เขยที่เราว่านั่นเอง) พวกเราอายุห่างกันสิบปี แต่เขาตัวเล็กๆและใจดี พวกเราเลยเข้ากันได้ดีเพราะเวลาทำงานจะนั่งรถไปกันสองคน อยู่ด้วยกันทั้งวัน ออกตจว.ทีก็นานหลายอาทิตย์ แต่ตอนพักเราพักกับพี่สะใภ้อีกคนค่ะ มีญาติคนอื่นๆไปด้วย ไปกันเป็นครอบครัวใหญ่


แรกๆพวกเราแค่สนิทกันแบบพี่น้อง ไม่มีอะไรทั้งนั้น เพราะเราเป็นคนเข้าหาผู้ใหญ่และชอบอ้อน ก็จะอ้อนเขาไปด้วยเพราะตอนนั้นเราคิดแค่ว่าพี่ชาย เนื่องจากเรามีพี่สาวแท้ๆด้วยคนนึง มีลูกพี่ลูกน้องเป็นผู้หญิงหลายคนเลยมีพี่เขยเยอะ และก็สนิทกับพี่เขยแบบนี้ทุกคนจึงไม่ได้คิดอะไร พี่เขยเราคนนี้สมมติชื่อซี พี่ซีดูแลเราดี รู้หมดว่าเราชอบอะไรไม่ชอบอะไร เราไม่กินเผ็ด ไม่ชอบกินผัก ไม่ชอบทานยา เขาจะสังเกตตลอด เวลากินข้าวเราจะชอบสั่งของเผ็ดมา เขาก็จะสั่งแบบไม่เผ็ด พอเรากินของเราไปแล้วพบว่ามันเผ็ดเราก็จะเบะปากบอกเขาว่า "เผ็ดอ่ะ" เขาก็จะมาตักกับข้าวที่เผ็ดๆของเราออกไปแทนแล้วเอาที่ไม่เผ็ดของเขามาให้เรา เป็นแบบนี้ทุกครั้ง เวลาเราไม่สบายเขาจะรีบหายามาให้ และเราต้องกินยากับชาเขียวรสน้ำผึ้งมะนาวเท่านั้นไม่งั้นเรากลืนยาไม่ลง มันขม เราเกลียดต้นหอมผักชี เขาก็จะกินให้เราหมด เราชอบช็อกโกแลตเขาก็จะซื้อมาให้กินบ่อยๆ คือพวกเราสนิทกันมาก และมีน้องชายเราอีกคนนึง เป็นลูกพี่ลูกน้องเหมือนกันที่สนิทด้วย พวกเราจะสนิทกันสามคน ไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด ไปดูหนัง ไปกินหมูกะทะ ไปเที่ยวน้ำตก แรกๆทุกอย่างก็ดูเหมือนพี่น้องทั่วไปจนกระทั่ง

เมื่อช่วงปลายปีที่แล้วเรารู้สึกว่าป้าเปลี่ยนไป เวลาเรานั่งใกล้พี่ซีเขาจะชอบมองด้วยสายตาไม่พอใจ และมีบ้างที่ชอบพูดประชดประชันเรกา็คิดว่าคงไม่มีไร จนกระทั่งตอนนั้นออกตจว. ไปที่ภาคเหนือ ป้าก็บอกให้เราเว้นระยะห่างกับพี่ซีอย่าให้น่าเกลียดนัก เราก็รู้แล้วว่าป้าคิดระแวงเรื่องเรากับพี่ซี (ตอนนั้นเราไมไ่ด้คิดอะไรจริงๆนะคะ) เราเสียใจมากร้องไห้และเล่าให้พี่ซีฟัง ซึ่งตอนนั้นคืออึดอัดสุดๆ เพิ่มความอึดอัดมาอีกคือลุง(สามีของป้า) เขาทำงานนี้ด้วย ลุงมาบอกชอบเรา ตอนน้นเราอึ้งมากเพราะมองเขาเป็นญาติผู้ใหญ่ ที่ผ่านมาเขาชอบเข้าใกล้เราเราก็คิดว่าเขารักเขาเอ็นดูเหมือนลุงๆเราคนอื่นทั่วไป ตอนนั้นเราตัดสินใจย้ายออกจากบ้านป้าและออกจากงานของป้าด้วย แตเราบอกเรื่องลุงไม่ได้ ที่รู้เรื่องลุงก็จะมีพ่อ แม่เลี้ยงเรา พี่ซี และน้องชายเรากับพี่สะใภ้ค่ะ

แต่ก่อนจะออกเราก็บอกป้าว่าจะทำงานให้จนกว่าจะเสร็จงานภาคอีสาน ซึ่งเราอยู่ใกล้ชิดกับพี่ซีต่อไปอีกเกือบเดือนเลยทีเดียว ตอนนั้นเราูดขึ้นเล่นๆว่า "หนูอาจชอบพี่...จริงๆก็ได้มั้ง" คึอเราพูดติดตลกเฉยๆ แต่หลังจากนั้นคามสัมพันธ์ของพวกเราก็เริ่มเปลี่ยนไป พี่ซีเริ่มแตะเนื้อต้องตัวเรามากขึ้น (ปกติก็แตะกันอยู่แล้วค่ะ คือเขาชอบลูบหัวเรา ชอบแกล้งจี้เอวเพราะเราบ้าจี้ แล้วก็จับแขนเราเวลาพาเราข้ามถนนเพราะเราข้ามถนนไม่เก่งและซุ่มซ่ามมาก เจ็บตัวตลอด บนรถจะต้องมีพลาสเตอร์ติดเอาไว้เพราะได้แผลทุกวันค่ะ ที่สำคัญคือหัวชอบโขกขอบประตูรถ) มีครั้งนึงที่พวกเราเอารถไปล้างอัดฉีด ระหว่างรอพี่ซีก็ปูเสื่อนอนรอ เราก็นั่งเล่นมือถือ จนช่วงสิบห้านาทีสุดท้ายของการรอ พี่ซีก็ลุกขึ้นมานั่งแล้วโน้มตัวมานอนตักเราเฉยเลยค่ะ ตอนนั้นเราใจเต้นมาก เริ่มรู้สึกว่ามีบางอย่างแปลกไปแล้ว เวลาทะเลาะหรือเถียงกันเขาจะเป็นฝ่ายยอมและง้อเรามากขึ้น เวลาเหนื่อยก็จะเอนมาซบไหล่เราและอ้อนบอกว่า "เหนื่อยจัง ขอพลังหน่อย" เราจะมีท่าเพิ่มพลังพวก "พาวเวอร์อัพ" ประจำตัวคือการแตะหน้าผากกัน ก็เลยพาวเวอร์อัพพลังให้เขาไป ตอนนั้นรู้แล้วว่าระหว่างเราเริ่มไม่เหมือนเดิม จากที่ไม่เคยคิดอะไร เราเริ่มมาคิดทบทวนว่าหรือที่ผ่านมาเราจะ "คิดอะไร" กับพี่ซีมาตลอดกันแน่ เพราะเราคิดเสมอว่ามันคือการสนิทแบบพี่น้อง เพราะกับน้องชายที่บอกว่าเป็นลูกพี่ลูกน้อง เราก็เพิ่งได้รู้จักไล่ๆกับพี่ซี ก็สนิทถึงขั้นกอด ขี่คอ ไปไหนมาไหนสองคนเหมือนกัน เราเลยไม่คิดว่าตัวเองจะคิดลึกซึ้งขนาดนั้นกับพี่ซี

และเมื่อเสร็จงานภาคอีสาน วันที่ขับรถกลับสุดท้ายพวกเราก็ "จูบกัน" และมีลูบคลำกันนิดหน่อย (18+) เรารู้จักกันและดูแลกันแบบที่พวกเราคิดว่าพี่น้องมาประมาณ 11 เดือนค่ะ และเมื่อเสร็จจากวันนั้นเราก็ย้ายออจกากบ้านป้าและออกจากงาน เมื่อไปทำงานภาคใต้ก็มีคนอื่นไปทำคู่กับพี่ซีแทน ตอนนั้นพวกเรายังติตด่อกันแต่ยังไม่ไ่ด้คบกัน เมื่อพี่ซีเสร็จงานเราก็นัดเจอกันและ "ได้เสียกัน" แต่พี่ซีบอกว่าเป็นแค่วันไนท์สแตนด์ และขอให้เราห้ามหึงหวงเขานะ เราก็รับปากแม้ในใจจะเจ็บมาก จนเมื่อทนความเจ็บปวดไม่ไหว ไม่กี่วันต่อมาเราตัดสินใจขอเลิกยุ่งกับเขา เพราะที่เรา "ให้ตัว" เขาไปเป็นเพราะความรัก เราไม่ได้ต้องการวันไนท์สแตนด์ ตอนนั้นเขาทำงานอยู่ตจว. เขาบอกให้เราใจเย็นๆ พยายามไลน์มาง้อ ทุกๆอย่าง จนสุดท้ายเขาก็ยอมบอกออกมาว่า "ชอบ" เพราะชอบถึงได้มีอะไรด้วยและเป็นแบบนี้ เราเลยใจอ่อน และจากนั้นพวกเราก้ตกลงที่จะ "แอบคบ" กัน

พี่ซีหึงหวงเรามากๆ และถ้เขาว่างก็จะนัดเจอกันตลอด (เราเริ่มคบกันจริงจังช่วงเดือนเมษาค่ะ) เพราะพี่สาวเราหน้าที่การงานดี เดินทางออกตจว.และต่างประเทศบ่อย พวกเราเลยมีโอกาสเจอกันและไปค้างคืนด้วยกัน เขาพาเราไปนั่งร้านอาหารดีๆ พาไปเที่ยวสวนสุนก พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ ไปทุกที่ที่เราอยากไป เราเคยบอกเขาว่าพาเราไปเปิดห้องอยู่แต่ในห้องก็พอ เรากลัวเจอคนรู้จักหรือมีใครเห็น อีกอย่างเราเป็นแค่เมียน้อย แต่พี่ซีบอกว่า "เราไม่ใช่เมียน้อย ไม่อยากให้เราคิดแบบนั้น เขาอยากให้เกียรติเรา ไม่อยากหลบซ่อน และไม่อยากให้เรารู้สึกไม่ดี" พี่ซีพยายามดูแลเราเป็นอย่างดีมากๆ เขาไม่อยากให้เราน้อยใจหรือคิดมาในสถานะของตัวเอง มันทำให้เรารู้สึกดีและยิ่งรักเขา

แต่ระหว่างที่คบกันเราก็มีงอแงง้องแง้งขอเลิกกับเขาหลายครั้ง แต่เขาไม่ยอม แต่สุดท้ายเราก็วนลูปกลับมาทีเ่ดิมอยู่ดีเพระาเราตัดใจไม่ได้ เราบอกเขาไปว่า "หนูทิ้งพี่ไม่ได้ หนูรักพี่ หนูเหมือนหมาที่จงรักภักดีกับเจ้านายของตัวเอง ถ้าจะให้เลิกกันเด็ดขาดจริงๆ คงต้องให้พีเ่ป็นฝ่ายทิ้งแล้วล่ะ" ซึ่งเขาบอกไม่มีวัน เรามีความสุขก็จริง แต่ก็ทุกข์ไม่น้อยเพราะรู้สึกผิดจนอยากจะตายเลยล่ะค่ะ จนกระทั่งเรื่องที่ทำให้เลิกกันเด็ดขาดมาถึง

เราบอกเลิกเขาก่อนเพราะเราง้อแง้งตามประสาอีกนั่นแหละค่ะ แน่นอนว่าเขาไม่เลิก พอกลับจากตจว.เขาก็ขอนัดเจอเราก็ตกลง แต่ป้ากลับผิดสังเกตเพระาเห็นเขารีบออกจากบ้าน (ป้า ลุง อยู่บ้านเดียวกับพี่เขยค่ะ แต่ตอนนั้นพี่สาวไปตจว.) เลยโทรถามพ่อเราว่าเราออกไปไหนมั้ย ปรากฏว่าเราก็จะออกข้างนอกพอดี พอพวกเรารู้ว่าถูกสงสัยเลยเปลี่ยนใจไม่ค้างด้วยกัน พี่ซีกลับบ้าน ส่วนเราไปบ้านน้าเราอีกคนเพื่อหลอกพวกเขาว่าป้าเข้าใจผิดไปเอง จนเรื่องผ่านไปได้ แต่พ่อเรามาร้องไห้ขอร้องให้เราเลิกยุ่งกับพี่ซี(พ่อไม่รู้ความจริงค่ะ เพียงแต่พ่อบังเอิญไปได้ยินป้าเอาเราไปพูดเสียๆหายๆให้คนอื่นฟังเรื่องเรากับพี่ซี ทั้งที่ตอนนั้นความยังไม่แตกว่าเรากับพี่ซีเป็นอะไรกันนะคะ แต่ป้าเขายังปักใจเชื่อก็เอาความสงสัยของตัวเองไปพูดต่อให้คนอื่นฟัง) เราสงสารพ่อมากที่ต้องมาเห็นลูกสาวโดนคนอื่นว่าก็เลยรับปาก และเราก็บอกเลิกพี่ซีไป เราไม่ต้องการให้พ่อเราไม่สบายใจอีก พี่ซีเข้าใจและยอมเลิก เขาขอโทษเราและบอกว่า "พี่ขอโทษนะที่ทำให้หนูโดนว่าเสียๆหายๆ" จากนั้นก็ส่งข้อความมาอีกว่า "ยังไงพี่ก็รักและเป็นห่วงเราเสมอนะเด็กดื้อ" เราสัญญาว่าจะเป็นพี่น้องที่ดีต่อกัน พี่ซีขอแค่ไม่ให้เราบล็อกเบอร์บล้อกไลน์เขา ตอนแรกเราบล็อกแต่สุดท้ายก็ปลดบล็อกค่ะ

เลิกกันได้ไม่ถึงอาทิตย์เราก็ทนไม่ไหว เราคิดถึงเขา รักเขามาก จนเป็นเราเองที่ทักไปและถามเขาว่ากลับมาคบกันมั้ย เขาก็ส่งอีโมติค่อนตกใจมา เราเลยถามว่า "ไม่รักหนูแล้วเหรอ"  เขากตอบมาว่า "รัก แต่ไม่ดีกว่า" ตอนนั้นเรารู้สึกเหมือนถูกตบ หน้าชามาก เราบล็อกไลน์ บล็อกเฟซ บล็อกเบอร์ บล็อกเขาทุกทาง (เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 5 กค. ที่ผ่านมาค่ะ) จากนั้นหก็ไม่ติดต่อกันอีกเลย เราจัดทริปไปเที่ยวกับเพื่อนเพื่อให้ลืมเขาแต่ก็ร้องไห้ตลอดเวลา จนมีผช.คนนึงเข้ามา เรารู้จักกันเป็นสิบปีแล้วเพราะเคยเรียนโรงเรียนเดียวกัน แต่ไม่เคยสานสัมพันธ์กัน ตอนนั้นเราอยากลืมพี่ซีเลยตกลงคบหาดูใจกับเขาไป เขาดีมากค่ะ หน้าที่การงานดี ฐานะดี นิสัยดี เป็นอาสาสมัครด้วย ชอบทำบุญ ชอบช่วยเหลือคนอื่น เคยเป็นอาสาสมัครครูบนดอย เล่นดนตรีตามร้านอาหารด้วย ล่าสุดเขาอยากเรียนต่อโทด้านดนตรีบำบัดก็มาปรึกษาพูดคุยกัน เขามีในหลวงรัชกาลที่ 9 เป็นต้นแบบในการใช้ชีวิืตค่ะ

เราคุยกันมาเรื่อยๆ แต่ใจของเราไม่เคยลืมพี่ซีได้เลย ล่าสุดเรากับพี่ซีเป็นเพื่อนกันในเฟซตามเดิม นานๆทีจะคุยไลน์แต่ไม่บ่อย คุยแค่ธุระจริงๆ เรายอมรับว่าเรายังรักพี่ซี รักมากๆและไม่เคยลืมได้ แต่พี่ซีเย็นชามากเลยค่ะ ทุกวันนี้เขาก็หวานแหววกับพี่สาวเราดีตามปกติ เรื่องของพวกเราหายไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นในสามเดือน แต่มันเพิ่งจบไปหลังจากพวกเราตัดสินใจจะจบยังไม่ถึงเดือนด้วยซ้ำ เราไม่รู้เลยว่าทำไมเขาถึงทำใจได้เร็วนักทั้งที่เรายังร้องไห้ทุกคืน

เราเกลียดตัวเองที่ยังรักเขา เรารู้สึกผิดต่อแฟนของเราตอนนี้ รู้สึกผิดกับพี่สาว เราไม่ได้ติดต่อเขาในเชิงชู้สาวแบบเดิมแล้วและไม่ได้กลับไปสนิทกันเท่าเมือ่ก่อน พกเราแทบเป็นคนแปลกหน้าของกัน แต่จริงๆในใจเรายังรักเขามาก เราควรทำยังไงดีคะ เราร้องไห้ทุกวัน เราคิดถึงเขาแทบบ้า เรารู้สึกเกลียดตัวเองมากจริงๆค่ะที่ลบความรู้สึกพวกนี้ไปไม่ได้สักที เหมือนเราผูกติดตัวเองไว้กับพี่ซี  ทั้งที่เขาก็ไม่ได้สนใจอะไรเราแล้ว เขาอาจไม่เคยรักเราด้วยซ้ำ ที่ผ่านมาอาจแค่โกหกอยากจะหลอกฟันเราเฉยๆ แต่เราก็ยังหลอกตัวเองและไม่คิดว่าทุกอย่างที่ผ่านมาเขาจะแกล้งทำหรือโกหกมาตลอด

เราควรทำยังไงดีคะ เราเหมือนผู้หญิงสกปรก แฟนเราเป็นคนดีและดีกับเรามาก เราไม่เหมาะกับเขาเลย เราไม่รู้ว่าควรเริ่มต้นจากตรงไหนดี ตัดใจจากพี่ซีก็ไม่ได้ เริ่มใหม่กับใครก็ยังไม่ไหว เราไม่รู้จะระบายเรื่องนี้กับใครดีเลยมาตั้งกระทู้ค่ะ ตอนนี้ยังทำงานเลี้ยงลูกตามปกติ ว่างก็ไปเที่ยวกับเพื่อน ช้อปปิ้ง ดูหนัง ไปทริปต่างๆ เร็วๆนี้มีทริปไปญี่ปุ่นกัน เรายังใช้ชีวิตตามปกติเมหือนที่พี่ซีก็ยังปกติของเขา

แต่เรา...ยังลืมเขาไม่ได้ ยังรักและคิดถึงตลอดเวลา ร้องไห้ทุกวัน ถ้าไม่นับพ่อของลูกเรานั้น เขาเป็นคนที่สองที่เรารักและมอบกายให้่ค่ะ

ขอบคุณที่อ่านมาจนถึงบรรทัดนี้นะคะ
แก้ไขล่าสุด 27 ก.ค. 61 00:55 | เลขไอพี : ไม่แสดง | ตั้งกระทู้โดย Windows 10

อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)

ความคิดเห็น

#1 | กิ๊กเด็กอนุบาล | 22 ส.ค. 61 21:37 น.

เลิกโทษตัวเองได้แล้ว  มันผ่านมาแล้วให้อภัยตัวเองซะ  แล้วไปแล้วก็แล้วกันไป
ชีวิตของเราเริ่มต้นใหม่ได้ทุกวัน 

เรื่องทำใจต้องใช้เวลา  กลับไปก็ไม่คุ้มค่าหรอก  ใช้ชีวิตให้มีความสุขให้ได้
บอกรักตัวเองทุกวัน  เรียกพลังคนเก่าที่เคยมีความสุขกลับมา 

เป็นกำลังใจให้นะ 

อย่าลืมว่าชีวิตเรา  เราเลือกได้ตลอดทั้งชีวิต  เลือกที่จะสุขหรือเลือกที่จะทุกข์ 
คนที่จะกำหนดความสุขในชีวิตเราคือตัวเรา 
ไม่ใช่การที่คนอื่นต้องมาทำอะไรเพื่อเรา 

หยุดตอกย้ำเรื่องเก่า ๆ คิดวกวนไปไม่ทำให้ชีวิตดีขึ้น

แค่ยอมรับ  คิดถึง ก็ยอมรับว่าคิดถึง  รักก็ยอมรับว่ารัก  ไม่ต้องไปพลักไสความรู้สึก
ยิ่งพลักไสยิ่งดึงดูดความรู้สึกแบบนั้นเข้ามา

ไอพี: ไม่แสดง | โดย Windows 7

#2 | iminetulippyz | 28 ส.ค. 61 12:24 น.

ให้อภัยตัวเองเป็นสิ่งที่ดีค่ะ เห็นด้วยกับความเห็น1

ไอพี: ไม่แสดง | โดย Windows 7

#3 | nuer | 14 พ.ย. 61 11:20 น.

ผู้ชายเขากลับไปใช้ชีวิตของตัวเองได้แล้ว
เราเองก็ควรจะเดินหน้าใช้ชีวิตตามเส้นทางของตัวเองเหมือนกัน
ไม่มีวันที่จะกลับไปเส้นทางเดิมได้แล้ว
หรือถ้ากลับไปได้ ก็จะเป็นแค่ความสุขชั่วคราว และทำให้คนรอบข้างเป็นทุกข์

เป็นช่วงเวลาที่ยากลำบาก แต่สักวันจะผ่านไปได้นะ

ไอพี: ไม่แสดง | โดย Windows 10

แสดงความคิดเห็น

จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google