เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่อันตรายที่คุณควรรู้
29 พ.ย. 61 14:18 น. /
ดู 366 ครั้ง /
0 ความเห็น /
0 ชอบจัง
/
แชร์
เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ คือภาวะที่เยื่อบุผนังมดลูกเจริญภายนอกมดลูก ทำให้เกิดเยื่อบุหนาที่สลายตัวกลายเป็นเลือดประจำเดือนไปเรื่อย ๆ จนร่างกายขับออกมาได้ไม่หมด ส่งผลให้ผู้ป่วยมีอาการปวดท้องน้อยอย่างรุนแรง โดยเฉพาะในช่วงที่มีรอบเดือน ซึ่งอาจมีผลเสียที่ตามมาคือการทำให้มีบุตรยาก
1. ปวดท้องน้อย มักเกิดขึ้นในช่วงก่อนมีประจำเดือนและปวดบีบมากในช่วงที่มีรอบเดือน
2. ปวดอุ้งเชิงกราน ผู้ป่วยอาจรู้สึกปวดอุ้งเชิงกรานตลอดเวลา และปวดยิ่งขึ้นเมื่อประจำเดือนใกล้มาและในช่วงที่มีรอบเดือน
3. เจ็บช่องคลอดขณะมีเพศสัมพันธ์ โดยจะมีอาการเจ็บลึกลงไปภายในช่องคลอดระหว่างหรือหลังมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งอาการดังกล่าวต่างจากความรู้สึกเจ็บเมื่อมีการสอดใส่ครั้งแรก
4. เจ็บท้องขณะขับถ่าย ผู้ป่วยอาจรู้สึกเจ็บท้องส่วนล่างเมื่อถ่ายหนักหรือปัสสาวะ บางรายอาจมีเลือดปนมากับอุจจาระและปัสสาวะด้วย แต่พบได้น้อยมาก
5. เลือดออกทางช่องคลอด อาจมีเลือดออกจากช่องคลอดผิดปกติในช่วงที่ไม่มีรอบเดือนหรือประจำเดือนมามากผิดปกติ
6. มีปัญหาการย่อย เช่น ท้องผูก ท้องเสีย ท้องอืด หรือรู้สึกคลื่นไส้ โดยเฉพาะช่วงที่มีรอบเดือน
7. ประสบภาวะมีลูกยาก ภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่อาจทำให้มีลูกยากหรือตั้งครรภ์ไม่ได้ เนื่องจากเกิดเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญขึ้นมาเรื่อย ๆ จนอุดตันรังไข่ ส่งผลให้ไข่ไม่สามารถออกไปรับการปฏิสนธิกับอสุจิที่ท่อนำไข่
สาเหตุของเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่
เกิดจากตอนที่มีประจำเดือน เยื่อบุโพรงมดลูกที่หลุดออกมาพร้อมกับเลือดไหลย้อนกลับไปทางท่อนำไข่ ทำให้เข้าไปในช่องท้องบริเวณอุ้งเชิงกรานได้ ส่งผลให้เซลล์เยื่อบุโพรงมดลูกเกาะอยู่ตามผนังอุ้งเชิงกรานและรอบ ๆ อวัยวะอื่นภายในอุ้งเชิงกรานจนหนาขึ้นเรื่อย ๆ และสลายเป็นเลือดออกมาทางช่องคลอดตามช่วงของรอบเดือน หรืออาจเป็นปัจจัยทางด้านฮอร์โมนที่ส่งผลให้เซลล์ในเยื่อบุช่องท้องเปลี่ยนแปลงและทำหน้าที่คล้ายเป็นเซลล์ของเยื่อบุโพรงมดลูก ทำให้มีการสลายตัวออกมาเป็นเลือดประจำเดือน และหากคุณมีระบบภูมิคุ้มกันผิดปกติ เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่อาจก่อให้เกิดเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ เนื่องจากร่างกายไม่สามารถกำจัดเยื่อบุที่เจริญภายนอกมดลูกได้ตามปกติ
การรักษาเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่
1. การใช้ยา แพทย์จะสั่งจ่ายยาแก้ปวดสำหรับบรรเทาอาการปวดรอบเดือนให้ผู้ป่วย เช่น พาราเซตามอล ไอบูโพรเฟน นาพรอกเซน โคเดอีน เป็นต้น
2. ฮอร์โมนบำบัด เป็นวิธีช่วยบรรเทาอาการปวดและยับยั้งไม่ให้เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญขึ้นที่อื่นอีก แต่ผู้ป่วยจะกลับมาเป็นภาวะนี้ได้อีกหากหยุดเข้ารับการรักษา ซึ่งควรอยู่ในการดูแลของแพทย์
3. การผ่าตัด ผู้ป่วยอาจต้องเข้ารับการผ่าตัดหากต้องการที่จะมีบุตร หรือหากผู้ป่วยมีอาการปวดท้องน้อยอย่างรุนแรง และรักษาด้วยฮอร์โมนบำบัดแล้วไม่ได้ผล เนื่องจากวิธีนี้จะช่วยกำจัดเยื่อบุโพรงมดลูกที่เจริญผิดที่โดยไม่เกิดผลกระทบต่ออวัยวะสืบพันธุ์ แต่ก็จะมีโอกาสกลับมาป่วยได้อีก
เลขไอพี : ไม่แสดง
| ตั้งกระทู้โดย Windows 10
อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)
ความคิดเห็น
ยังไม่มีความคิดเห็น
จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google