ข้อดี ข้อเสีย ของการผ่าตัดส่องกล้องมดลูกและวิธีการปฎิบัติตัวหลังการผ่าตัด
20 มิ.ย. 62 17:42 น. /
ดู 547 ครั้ง /
1 ความเห็น /
0 ชอบจัง
/
แชร์
hashtag:
#ผ่าตัดส่องกล้องมดลูก
ผู้หญิงเมื่อมีอายุมากขึ้นตั้งแต่ 30 ปีขึ้นไปก็เริ่มที่จะเสี่ยงต่อการตรวจพบโรคเนื้องอกมดลูก ซีสต์รังไข่ และเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ โดยโรคที่พบมากเป็นอันดับแรกคือ เนื้องอกมดลูก และที่น่าสนใจคือในผู้หญิง 10 คนจะพบผู้หญิงที่เป็นโรคภายใน 3 ถึง 4 คน โดย 3 ถึง 4 คนนี้มี 30 เปอร์เซ็นต์ที่ต้องเข้ารับการผ่าตัดเพื่อรักษา เพราะฉะนั้นควรหมั่นไปตรวจภายในอย่างสม่ำเสมอในทุก ๆ ปี แต่ก่อนการตรวจภายในอาจจะมีวิธีที่ยุ่งยากและซับซ้อน ผิดกับเดี๋ยวนี้ที่การตรวจภายในมีการนำเอาเทคโนโลยีต่าง ๆ เข้ามาช่วย อย่างการส่องกล้องเป็นต้น เพื่อตรวจหาเนื้องอกจากปากมดลูก และทำการรักษาโดยการผ่าตัดส่องกล้องมดลูก วิธีนี้จะทำให้แพทย์มองเห็นบริเวณที่ต้องการผ่าตัดได้ชัดเจน ทำให้การผ่าตัดมีความเที่ยงตรงและแม่นยำ ไม่กระทบกับอวัยวะในส่วนที่ไม่เกี่ยวข้องเหมือนกับการผ่าตัดแบบเปิดหน้าท้อง ซึ่งการผ่าตัดส่องกล้องมดลูกก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย แต่จะมีอะไรบ้างที่เป็นข้อดี และมีอะไรบ้างที่เป็นข้อเสีย ว่าแล้วเราก็มาดูไปพร้อม ๆ กันเลยค่ะ
ข้อดีในการผ่าตัดส่องกล้องมดลูก
ผู้ป่วยมีแผลผ่าตัดขนาดเล็กแตกต่างจากการผ่าตัดมดลูกแบบเปิดหน้าท้อง ขนาดแผลที่เกิดขึ้นประมาณ 0.5-1 เซนติเมตร รวม 3 แผล ที่ผนังหน้าท้องน้อย
เนื่องจากแผลผ่าตัดมีขนาดเล็ก ความเจ็บปวดหลังผ่าตัดจะมีน้อย
ผู้ป่วยสามารถลุกเดินได้ภายใน 1 วันหลังการผ่าตัด สามารถปฏิบัติกิจวัตรส่วนตัวได้ด้วยตนเอง มีความสะดวกสบายมากขึ้นและสามารถออกจากโรงพยาบาลไปพักฟื้นที่บ้านได้เร็ว ส่วนใหญ่พักฟื้นในโรงพยาบาลประมาณ 1-2 วัน หลังจากผ่าตัด
ไม่ต้องหยุดงานนานเหมือนการผ่าตัดมดลูกแบบเปิดหน้าท้อง ผู้ป่วยพักฟื้นที่บ้านเพียง 1 2 สัปดาห์ สามารถกลับไปทำงานได้ตามปกติ
การเกิดพังผืดและภาวะแทรกซ้อนหลังผ่าตัดพบน้อยกว่าวิธีการผ่าตัดมดลูกแบบเปิดหน้าท้อง
ข้อเสียในการผ่าตัดส่องกล้องมดลูก
ไม่สามารถใช้การผ่าตัดชนิดนี้ได้กับผู้ป่วยทุกราย เช่น ผู้ป่วยที่มีเนื้องอกขนาดใหญ่มากเกิน 15 เซนติเมตรขึ้นไป อาจจะไม่สามารถใช้วิธีการผ่าตัดมดลูกแบบผ่านกล้องได้
ผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว เช่น กระบังลมรั่ว โรคปอดหรือโรคหัวใจไม่สามารถใช้การผ่าตัดมดลูกแบบผ่านกล้องได้
ผู้ป่วยที่มีพังผืดในช่องท้องหรืออุ้งเชิงกรานมากเกินไป เช่นผู้ป่วยที่เคยเป็นโรคติดเชื้อในช่องท้องหรืออุ้งเชิงกรานมาก่อน ผู้ป่วยที่เคยรับการผ่าตัดชองท้องมาหลายครั้ง
แพทย์ที่จะทำผ่าตัดมดลูกแบบผ่านกล้องต้องเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านการผ่าตัดผ่านกล้องที่ได้รับการอบรมและฝึกฝนมาอย่างดีเท่านั้น จึงสามารถทำผ่าตัดผ่านกล้องได้
หากตรวจพบเนื่องอกและได้รับการผ่าตัดส่องกล้องมดลูก สิ่งที่ต้องทำหลังการผ่าตัด คือ รับประทานอาหารและดื่มน้ำได้ ให้ดื่มน้ำมากๆ และปัสสาวะบ่อยๆ โดยไม่ควรกลั้นปัสสาวะ ควรที่จะเปลี่ยนอิริยาบถช้าๆ ลุกเดินบ่อยๆ เพื่อลดโอกาสการเกิดพังผืดในช่องท้องจากแผลผ่าตัด ต้องคอยสังเกตตัวเองว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้นหรือไม่ เช่น เจ็บหรือปวดแผลมากขึ้นเรื่อยๆ มีไข้ มีเลือด หนอง หรือของเหลวไหลออกมา เกิดการบวมแดงตามจุดต่างๆ ของร่างกาย ให้แจ้งแพทย์หรือพยาบาลทันที และข้อสุดท้ายที่สำคัญมาก ๆ คือ ทำตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด กินยา และเข้ารับการตรวจตามนัดค่ะ
#ผ่าตัดส่องกล้องมดลูก
แก้ไขล่าสุด 20 มิ.ย. 62 17:42 |
เลขไอพี : ไม่แสดง
| ตั้งกระทู้โดย Windows 10
อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)
ความคิดเห็น
จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google