EA ลุ้นปี 63 ยอดจองรถ EV เกิน 5 พันคัน รับรัฐออกนโยบายหนุนใช้รถไฟฟ้า

EA ลุ้นปี 63 ยอดจองรถยนต์ EVเกิน 5 พันคัน หลังรัฐเล็งออกนโยบายหนุนใช้ไฟฟ้า ฟากโบรกฯจ่อปรับประมาณการขึ้น หากรัฐบาลผุดนโยบายชัดเจน ฟากโบรกเกอร์ จ่อปรับเพิ่มประมาณการกำไร-ราคาเป้าหมาย หากรัฐบาลผุดนโยบายชัดเจน
นางสาวออมสิน ศิริ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA เปิดเผยกับ "สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย" ว่า จากกรณีที่กระทรวงพลังงานจะมีนโยบายส่งเสริมการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) ทั้งในส่วนของผู้บริโภคและผู้ผลิต มองว่ามาตรการดังกล่าวจะช่วยกระตุ้นให้เกิดการใช้รถยนต์ไฟฟ้าอย่างแท้จริง และจะช่วยหนุนให้ยอดจองซื้อรถยนต์ไฟฟ้าภายใต้แบรนด์ “MINE” ในปี 63 มีมากกว่า 5,000 คัน จากยอดจองปีนี้ที่มีกว่า 5,000 คัน แล้ว

อย่างไรก็ตาม มองว่ามาตรการของรัฐบาล ในการสนับสนุนผู้บริโภค ควรช่วยให้ผู้บริโภคตัดสินใจในการเลือกซื้อด้วยการให้เงินสนับสนุน เช่น หากผู้บริโภคซื้อรถยนต์ประเภท EV Car ที่ช่วยลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์จะได้รับการสนับสนุนเงินจากรัฐในกรณีที่ช่วยลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ ส่วนมาตรการที่สนับสนุนผู้ผลิต เบื้องต้นก่อนหน้านี้ภาครัฐมีนโยบายยกเลิกการเก็บภาษีสรรพสามิตจากผู้ผลิตรถยนต์ EV Carแล้ว
  "แผนธุรกิจในปี 63 เบื้องต้นได้มีการนำนโยบายส่งเสริมการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้ามาประกอบในการพิจารณาการทำแผนด้วย คาดวจะมีผลให้ยอดจองซื้อรถยนต์ไฟฟ้าของบริษัทเพิ่มขึ้น เพราะรถยนต์ไฟฟ้ามีค่าบำรุงรักษาที่ต่ำกว่ารถยนต์ที่ใช้น้ำมันอย่างมาก"
  สำหรับ โรงงานผลิตผลิตแบตเตอรี่ลิเทียมไอออน เฟสแรก ขนาด 1 กิกะวัตต์ ได้ร่วมพัฒนาและก่อสร้างกับบริษัท Amita Technologies จำกัด คาดจะเริ่มขายในเชิงพาณิชย์ตั้งแต่กลางปี 63เป็นต้นไป โดยกลุ่มลูกค้าจะได้แก่อุตสาหกรรมยานยนต์ และผู้ประกอบการโรงไฟฟ้า ขณะเดียวกันเฟสที่ 2 ขนาด49 กิกะวัตต์ มีโอกาสจะก่อสร้างเร็วกว่ากำหนด หลังจากที่มีนโยบายรัฐที่จะส่งเสริม
  ด้าน นายธีร์ธนัตถ์ จินดารัตน์ นักวิเคราะห์บริษัท หลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า นโยบายส่งเสริมการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) ถือว่าทาง EA จะได้ประโยชน์สูงสุด เนื่องจากมีแผนการลงทุนที่เป็นรูปธรรมมากที่สุดของประเทศในขณะนี้
โดย EA มีการลงทุนทั้งในรูปแบบของต้นน้ำ และปลายน้ำ ได้แก่การลงทุนเพื่อผลิตแบตเตอรี่ และการลงทุนรถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้แบตเตอรี่ ซึ่งคาดว่าจะมีมาตรการประโยชน์ทางภาษี หรืออื่นๆ เพื่อสนับสนุนธุรกิจดังกล่าว
อย่างไรก็ตามหากในสิ้นปี 62รัฐบาลมีนโยบายสนับสนุนอย่างชัดเจน ฝ่ายวิเคราะห์มีแนวโน้มที่จะปรับประมาณการผลประกอบการและราคาเป้าหมายของงวดปี 63 เพิ่มขึ้น โดยเบื้องต้นยังคงคาดรายได้ปี 63 จะอยู่ที่ 18,572 ล้านบาท และมีกำไรปกติอยู่ที่ 6,890 ล้านบาท และประเมินราคาเป้าหมายไว้ที่ 60.24 บาทต่อหุ้น ที่มา: www.energyabsolute.co.th