รู้ไหมว่าจะซื้อบ้านต้องเตรียมเงินไว้เท่าไหร่?
27 ต.ค. 62 10:45 น. /
ดู 445 ครั้ง /
0 ความเห็น /
0 ชอบจัง
/
แชร์
ทราบหรือไม่ว่าจะซื้อบ้านจะต้องเตรียมเงินไว้จำนวนหนึ่งด้วย? หลาย ๆ คนยังไม่ทราบว่านอกจากค่าดาวน์บ้าน ค่าผ่อนบ้านแล้ว ผู้ซื้อจะต้องเตรียมเงินสดไว้จำนวนหนึ่ง แต่เราจะรู้ได้อย่างไรว่าเราจะต้องเตรียมเงินไว้เท่าไหร่ วันนี้บ้านถูกดีได้ลิสต์มาให้แล้ว เพื่อที่จะได้รู้ว่าควรเก็บเงินเท่าไหร่ถึงจะพอ
1. เตรียมค่าจอง ทำสัญญาและเงินดาวน์ : ค่าใช้จ่ายในส่วนนี้จะอยู่ที่ประมาณ 10-20% ของราค้าบ้านโดยจะเริ่มจากเงินจองหรือเงินทำสัญญาและเงินดาวน์
2. ค่าประเมินหลักทรัพย์ : หลังจากที่จองบ้านเรียบร้อยแล้ว จะมีค่าใช้จ่ายในการประเมินราคาบ้าน แต่ในบางธนาคารจะให้ฟรีค่าธรรมเนียมในส่วนนี้ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละธนาคาร แต่หากจะต้องจ่าย ค่าประเมินจะอยู่ที่ประมาณ 2,000 5,000 บาท ขึ้นอยู่วงเงินที่ขอกู้ด้วยซึ่งค่าประเมินราคา ซึ่งไม่ว่าจะยื่นกู้ผ่านหรือไม่ผ่านก็ตาม ผู้ยื่นกู้จะต้องจ่ายเช่นกัน
3. ค่าจดจำนอง : คือค่าธรรมเนียมที่ผู้ซื้อบ้านต้องเสียให้กับกรมที่ดิน 1% ของจำนวนเงินที่เรากู้ เช่น ถ้าเรายื่นกู้บ้านจำนวน 2,000,000 บาท ผู้ยื่นกู้จะต้องเสียค่าจดจำนอง 20,000 บาท นอกจากนี้แล้วยังมีค่าอากรแสตมป์ 0.05% ของราคาซื้อ-ขายด้วย
4. ค่าโอนกรรมสิทธิ์ : ค่าใช้จ่ายส่วนนี้จะจ่ายในวันที่โอนกรรมสิทธิ์ อัตราค่าโอนกรรมสิทธิ์คิดเป็น 2% ตามราคาประเมินหรือราคาซื้อขาย
5. ค่าส่วนกลาง-เงินกองทุน : โดนส่วนใหญ่แล้วหากเราซื้อบ้านโครงการจัดสรรหรือคอนโด เราจะต้องเสียค่าส่วนกลางหรือเงินกองทุน ซึ่งบางโครงอาจจะเรียกเก็บล่วงหน้า 1 ปี ซึ่งเงินส่วนนี้จะถูกนำไปใช้สำหรับ ค่าจ้าง รปภ. ติดกล้องวงจรปิดและดูแลจัดสรรพื้นที่สาธารณะต่าง ๆ ในโครงการ เป็นต้น
6. ค่าประกันมิเตอร์น้ำและไฟฟ้า : สำหรับบ้านใหม่จะต้องค่าใช้จ่ายในส่วนนี้จะจ่ายในวันโอนกรรมสิทธิ์ มากน้อยขึ้นอยู่กับขนาดที่เราติดตั้ง ซึ่งค่าใช้จ่ายส่วนนี้อยู่ที่ประมาณหลักพันถึงหลักหมื่น
7. ค่าประกันสินเชื่อบ้าน หรือประกันคุ้มครองหลักทรัพย์ : วงเงินนี้จะเป็นวงเงินที่บิษัทประกันจะชดใช้ให้แก่ธนาคาร ในกรณีที่ผู้กู้เสียชีวิตหรือไม่สามารถชำระค่างวดบ้านได้ ซึ่งค่าประกันในส่วนนี้ ผู้กู้จะทำหรือไม่ทำก็ได้
8. ใช้จ่ายจิปาถะอื่น ๆ เช่น งบค่าเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้าน งบซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นต้น
จากข้อมูลข้างต้นอาจจะช่วยให้หลายๆ คนที่กำลังจะซื้อสามารถกลับไปประเมินค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ได้บ้างแล้ว ดังนั้นก่อนที่จะตัดสินใจซื้อบ้านนั้น อย่าลืมเช็กค่าใช้จ่ายต่างๆ ว่ามีอะไรบ้าง เราควรที่จะต้องสำรองเงินไว้เท่าไหร่ จะได้ไม่มีปัญหาเรื่องเงินหลังจากที่ซื้อบ้านแล้วบ้านถูกดีหวังว่าบทความนี้จะสามารถให้แนวทางแก่คนที่จะซื้อบ้านได้ดีนะคะ
ที่มา: https://www.baantookdee.com/
1. เตรียมค่าจอง ทำสัญญาและเงินดาวน์ : ค่าใช้จ่ายในส่วนนี้จะอยู่ที่ประมาณ 10-20% ของราค้าบ้านโดยจะเริ่มจากเงินจองหรือเงินทำสัญญาและเงินดาวน์
2. ค่าประเมินหลักทรัพย์ : หลังจากที่จองบ้านเรียบร้อยแล้ว จะมีค่าใช้จ่ายในการประเมินราคาบ้าน แต่ในบางธนาคารจะให้ฟรีค่าธรรมเนียมในส่วนนี้ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละธนาคาร แต่หากจะต้องจ่าย ค่าประเมินจะอยู่ที่ประมาณ 2,000 5,000 บาท ขึ้นอยู่วงเงินที่ขอกู้ด้วยซึ่งค่าประเมินราคา ซึ่งไม่ว่าจะยื่นกู้ผ่านหรือไม่ผ่านก็ตาม ผู้ยื่นกู้จะต้องจ่ายเช่นกัน
3. ค่าจดจำนอง : คือค่าธรรมเนียมที่ผู้ซื้อบ้านต้องเสียให้กับกรมที่ดิน 1% ของจำนวนเงินที่เรากู้ เช่น ถ้าเรายื่นกู้บ้านจำนวน 2,000,000 บาท ผู้ยื่นกู้จะต้องเสียค่าจดจำนอง 20,000 บาท นอกจากนี้แล้วยังมีค่าอากรแสตมป์ 0.05% ของราคาซื้อ-ขายด้วย
4. ค่าโอนกรรมสิทธิ์ : ค่าใช้จ่ายส่วนนี้จะจ่ายในวันที่โอนกรรมสิทธิ์ อัตราค่าโอนกรรมสิทธิ์คิดเป็น 2% ตามราคาประเมินหรือราคาซื้อขาย
5. ค่าส่วนกลาง-เงินกองทุน : โดนส่วนใหญ่แล้วหากเราซื้อบ้านโครงการจัดสรรหรือคอนโด เราจะต้องเสียค่าส่วนกลางหรือเงินกองทุน ซึ่งบางโครงอาจจะเรียกเก็บล่วงหน้า 1 ปี ซึ่งเงินส่วนนี้จะถูกนำไปใช้สำหรับ ค่าจ้าง รปภ. ติดกล้องวงจรปิดและดูแลจัดสรรพื้นที่สาธารณะต่าง ๆ ในโครงการ เป็นต้น
6. ค่าประกันมิเตอร์น้ำและไฟฟ้า : สำหรับบ้านใหม่จะต้องค่าใช้จ่ายในส่วนนี้จะจ่ายในวันโอนกรรมสิทธิ์ มากน้อยขึ้นอยู่กับขนาดที่เราติดตั้ง ซึ่งค่าใช้จ่ายส่วนนี้อยู่ที่ประมาณหลักพันถึงหลักหมื่น
7. ค่าประกันสินเชื่อบ้าน หรือประกันคุ้มครองหลักทรัพย์ : วงเงินนี้จะเป็นวงเงินที่บิษัทประกันจะชดใช้ให้แก่ธนาคาร ในกรณีที่ผู้กู้เสียชีวิตหรือไม่สามารถชำระค่างวดบ้านได้ ซึ่งค่าประกันในส่วนนี้ ผู้กู้จะทำหรือไม่ทำก็ได้
8. ใช้จ่ายจิปาถะอื่น ๆ เช่น งบค่าเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้าน งบซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นต้น
จากข้อมูลข้างต้นอาจจะช่วยให้หลายๆ คนที่กำลังจะซื้อสามารถกลับไปประเมินค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ได้บ้างแล้ว ดังนั้นก่อนที่จะตัดสินใจซื้อบ้านนั้น อย่าลืมเช็กค่าใช้จ่ายต่างๆ ว่ามีอะไรบ้าง เราควรที่จะต้องสำรองเงินไว้เท่าไหร่ จะได้ไม่มีปัญหาเรื่องเงินหลังจากที่ซื้อบ้านแล้วบ้านถูกดีหวังว่าบทความนี้จะสามารถให้แนวทางแก่คนที่จะซื้อบ้านได้ดีนะคะ
ที่มา: https://www.baantookdee.com/
เลขไอพี : ไม่แสดง
| ตั้งกระทู้โดย Windows 10
อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)
ความคิดเห็น
ยังไม่มีความคิดเห็น
จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google