พาย้อนดูตัวตนและทัศนคติของ สิงโต ที่หลอมรวมเป็นจ้าวป่าที่เหล่าสมุนรักมาจนทุกวันนี้!
17 ม.ค. 64 03:32 น. /
ดู 5,440 ครั้ง /
1 ความเห็น /
0 ชอบจัง
/
แชร์
hashtag:
#สิงโตปราชญา
ถึงรายการจะออนมาได้ 4 ปี แล้วแต่เมื่อย้อนกลับมาดูอีกครั้งกับรายการ BORN TO BE SUP'TAR II หน้าใหม่
ก็ไม่สงสัยเลยว่าทำไมหนุ่ม สิงโต ปราชญา ถึงเป็นที่รักของเหล่าสมุนจ้าวป่า (ชื่อแฟนคลับ) เหนียวแน่นมาจวบจนทุก
วันนี้ เพราะนอกจากใบหน้าอันคมเข้มและหล่อเหลาแล้ว ยังเต็มเปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจ สุภาพ และอ่อนน้อมถ่อมตน
ช่วงแรกคุณเขาเล่าถึงชีวิตในครอบครัว
เมื่อก่อน ชื่อ กัน ทั้งชื่อจริงชื่อเล่นเลย พอโตมาหน่อยสุขภาพร่างกายแย่มาก คุณแม่เลยไปถามพระแล้วเปลี่ยนชื่อจริงเป็น ปราชญา ชื่อเล่นก็เป็น สิงโต ตามลูกพี่ลูกน้องในครอบครัว อยู่โรงเรียนจะเป็นคนที่ค่อนข้างเนิร์ดๆ เก็บตัวในห้องสมุด หรือชอบยืมหนังสือ จากห้องสมุดมาแอบอ่านในห้องเรียน เป็นคนไม่ดื้อไม่ซน วีรกรรมในวัยเรียนก็มีทะเลาะกับเพื่อนเข้าห้องปกครอง สิงโตเป็นเกิดมาในครอบครัวที่เป็นลูกชายคนเดียว มีเหงาบ้างแต่ก็ไม่โดนเปรียบเทียบกับใคร คุณแม่จะไม่ค่อยตามใจเท่าไร แต่คุณพ่อจะปล่อยให้ทำในสิ่งที่ชอบ เป็นคนที่ค่อนข้างติดแม่จะคุยกับแม่ทุกเรื่องและช่วงที่คุณแม่ยังอยู่ จะทะเลาะกับคุณพ่อบ่อย แต่พอคุณแม่เสียก็ยกพ่อเป็นที่หนึ่งและไม่เคยทะเลาะกับท่านอีกเลย
ชีวิตในวัยเรียน
ช่วงประถมศึกษาอยู่ภารตวิทยาลัย ช่วงมัธยมอยู่โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ม.ต้นก็จะเป็นเด็กเนิร์ดๆ
ชอบยืมหนังสือห้องสมุดมาอ่านบ่อยมาก สามารถอ่านหนังสือเล่มหนาๆ จบได้ภายใน 1-2 วัน
ชีวิตในรั้วมหาลัย
ตอนแรกเรียนม.เกษตรศาสตร์ เป็นช่วงที่ทำทำกิจกรรมเยอะมากเป็น ผู้นำเชียร์ พี่รับน้อง พี่ว้าก
ตอนนั้นเรียนที่ม.เกษตรฯ เรียนเศรษฐศาสตร์เพราะแม่อยากให้เรียน แต่ตัวเองเป็นคนไม่ชอบเลข
อยู่แล้วที่เรียนเพราะอยากเอาใจคุณแม่ เลยลองสอบแล้วดันติด ก่อนจะซิ่วมาม.กรุงเทพ เรียนนิเทศศาสตร์
ตอนเด็กๆ เจ้าตัวไม่เคยมีความฝันอยากเข้าวงการบันเทิงเลย มีแค่ตอนม.ปลายทำงานตัดต่อส่งอาจารย์
แล้วรู้สึกอยากทำงานเบื้องหลัง ก่อนจะพูดถึงจุดเริ่มต้นของการไปเป็นพี่ว้าก เกิดจากการที่มีคนถ่ายรูป
ไปลงแฮชแท็ก พี่ว้ากตัวร้ายกับนายปี 1 แล้วพี่ทีมงานไปเจอเลยติดต่อให้มาแคสต์ ตอนแรกไปแคสต์บทพี่อาทิตย์
ก่อนทีมงานจะให้ลองแคสต์บทก้องภพด้วย ซึ่ง โจ้ นครินทร์ โปรดิวเซอร์ของ SOTUS The Series
บอกหลักๆ ที่ทำให้สิงโต ก้าวมาถึงจุดนี้ นอกจากรูปลักษณ์ภายนอกทักษะการแสดง ก็คือความใส่ใจ ตั้งใจ ทำการบ้าน
การเข้าซีนสวมบทบาทการเป็น ก้องภพ วันแรกคุณเขาบอก ถึงกับสั่นเลย กลัวทำได้ไม่ดี กลัวคนอื่นจะเสียเวลา
เลยค่อนข้างทำการบ้านเยอะมาก ก่อนนอนตื่นนอนก็จะอ่านบทไฮไลท์ไว้ว่าตรงไหนสำคัญ ยิ่งเป็นคนขี้ลืมด้วย ตอนนั้น
ก็อ่านนิยาย 2 รอบ ตัวบท 2 รอบ ช่วงแรกก็จะมีคอมเมนต์บอกว่าตัวสิงโตไม่เหมือนคาแรกเตอร์ของก้องภพที่วาดไว้
แบบก้องภพจะดูคุณหนูหล่อเนี้ยบเป๊ะทุกอย่าง ก็มีปรับเรื่องการพูด ตอนแรกมีคนบอกไม่ชอบแต่พอดูไปก็บอกเออดูมีอะไร ก็ประทับใจ ก็ดีใจที่เขาเห็นว่าเราก็พยายามนะ และเราไม่ได้คิดว่าตัวเองและก็น้องจะมาไกลขนาดนี้ ในหัวเราตอนแรกคือตั้งใจที่จะทำงานนี้ให้ออกมาดีเฉยๆ การที่มันดังขนาดนี้ก็เกินความคาดหมายมากเกินไปแล้ว
กระแสซีรีส์ยิ่งใหญ่เกรียงไกรถึงที่จีน สิงโตก็เล่าว่า มีแฟนคลับที่จีนเยอะมาก ครั้งแรกที่ได้ไปจีนก็มีแฟนคลับมารับ
ที่สนามบินเยอะมาก ก็ประหม่ามาก เขาก็จะมารับที่สนามบินขับรถตามไปที่ต่างๆ
ย้อนไปตอนนั้น คุณเขาเพิ่งออกเพลง เธอทําให้ฉันโชคดี ที่ทำขึ้นมาเพื่อขอบคุณแฟนๆ ตอนนั้นบอกเป็นคนชอบร้องเพลง แต่ก็ยังไม่ค่อยไม่มั่นใจในเสียงของตัวเองอยู่ มาปัจจุบันนี้คุณเขาก็ยังไม่ค่อยมั่นใจ แต่ก็คือได้คอลแลปกับ
สายดีว่าอย่างสองสาว นิวจิ๋ว ไปแล้ว สุดจะก้าวกระโดดเลย
เดินสายคว้ารางวัลเป็นว่าเล่นทั้งในนามคู่จิ้นและส่วนตัว
ซึ่งทั้งเขาและคริสไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะมาถึงจุดนี้ คิดว่าแค่ต้องทำให้ดีที่สุดเพื่อจะปรับใช้กับเรื่องต่อไป
คู่จิ้นแห่งปี 2017 งาน Maya Awards
นักแสดงนำชายยอดนิยม งานคมชัดลึกอวอร์ดครั้งที่ 14
คว้ารางวัล Most Popular New Artists Of The Year และ Media Recommendation Artist Award 2017
คู่กับกับคริส จากงาน V-Chart Awards ที่จัดขึ้นที่มาเก๊า ซึ่งสิงโตบอก ตอนนั้นก็ประหม่าที่ต้องขึ้นไปรับรางวัลบน
เวทีเพราะเป็นงานที่มีศิลปินดังจากทั่วเอเชียมาร่วมงาน ซึ่งเราเป็นหน้าใหม่ ก็กลัวจะทำออกมาไม่ดี
เรื่องดาวที่เคยมีแม่จีนซื้อให้และจดลิขสิทธิ์ตั้งชื่อให้เป็นของขวัญวันเกิด ตอนนั้นคุณเขาก็บอกว่า น่ารักดี
ซึ่งไม่รู้มาก่อนว่าทำได้ด้วย เรารับรู้ว่าเขาทำให้ก็ดีใจแล้ว แต่ตอนนั้นคือฮือฮาเลยเพราะคุณเขาคือดาราไทยคนแรกที่มีชื่อดาวเป็นของตัวเอง
อีกหนึ่งผลงานการแสดงของหนุ่มจ้าวป่าอย่าง U-PRINCE Series ตอน เฟิร์สคลาส ที่รับบทเป็น บีเอ็ม
ก็มีอีกหนึ่งตัวละครที่เจ้าตัวชอบ เล่นแล้วสบายใจโฟลวมากกว่าก้องภพ เพราะก้องภพจะไม่ค่อยเปล่อยอารมณ์ออก
มามาก แต่บีเอ็มเป้นตัวละครที่มาทั้งด้านดีและด้านร้าย ส่วนตอนไปรับเชิญเป็นคุณพ่อที่รออยู่หน้าห้องคลอด ในซีรีส์คุณแม่วัยใสก็มีไปถามถึงความรู้สึกจากคุณพ่อมาเหมือนกัน ว่าต้องรู้สึกยังไง
เล่าถึงตัวตนความเป็นก้องภพกับสิงโต จะมีความแตกต่างกันพอสมควร ก้องภพจะชอบช่วยเหลือผู้อื่น
แต่สิงโตตัวจริงจะค่อนข้างเก็ตัวไมสุงสิงกับใคร ไม่ชอบเข้าสังคม เวลาว่างขอแค่มีหนังสือสักเล่มไม่ก็กล้องถ่ายรูป
หรือไปอยู่ร้านกาแฟสักร้าน ซึ่งการได้มาทำงานตรงนี้ก็ทำให้มีความกล้าแสดงออกมาขึ้น รวมถึงความมั่นใจ และข้อดีของการเป็นพี่ว้ากมาก่อนทำให้ตัวเขาเป็นคนมีสมาธิมากในการทำงาน
แต่เรื่อง ความจำอย่างการจำเนื้อเพลงก่อนออกงานอีเวนต์ ก็พูดติดตลกว่าตัวเองเป็นคนที่พร้อมเปลี่ยนความหมายเพลงเป็นคำของตัวเองตลอดเวลา และทุกครั้งที่ขึ้นเวทีใหญ่จะตื่นเต้นทุกครั้ง เพราะเราไม่ใช่คนที่จะเอ็นเตอร์เทนคนได้
กลัวแฟนคลับหรือคนที่มาดูจะไม่สนุก
คุณเขายังได้แชร์กิจวัตรในรั้วมหาลัยด้วย ช่วงระหว่างรอเรียนจะไปนั่งอ่านหนังสืออยู่ร้านกาแฟ
หรือไม่ก็พกกล้องไปถ่ายรูป เป็นคนชอบถ่ายรูปแนว Portrait และ Macro ไม่ก็ Candid มีไอจีไว้ลงรูป
และเครดิตโดยเฉพาะ เลนส์ที่ชอบใช้คือ 85/1.4 GM
อาหารจานโปรดของสิงโต คือ พิซซ่า และอาหารจานเดียว ไม่ชอบกินบุฟเฟต์หรือปิ้งย่าง
ถ้ากลับบ้านก็จะมีคอนเซ็ปต์ว่าจะพาคุณพ่อไปทานข้าวที่ร้านไหนดี มีข้อแม้ต้องเป็นที่วิวดี
อาหารอร่อย และต้องไม่ซ้ำกับที่เคยทาน เพราะพ่อพี่สิงเป็นคนไม่ชอบไปไหน เลยคุยกันว่า
ถ้าไม่ชอบไปไหน จะพาพ่อไปกินข้าวโดยเปลี่ยนร้านไปเรื่อยๆ ตลอด น่ารักมากเลยคุณพ่อกับลูกชาย
โมเมนต์กับ แฟนคลับตอนนั้นได้เจอบ่อยตามงานอีเวนต์ต่างๆ ถ้าหลังเลิกงานมีเวลาเยอะพอสมควร
ก็จะยืนคุยกัน ชอบบ่นอะไรให้แฟนคลับฟัง แฟนคลับก็จะชอบตลกเราบางครั้ง เราจะชอบมีสีหน้าแปลกๆ
ติดกล้องไปฟีลเป็นมีมไรงี้
ความดังที่มาพร้อมกับชีวิตที่ไม่เป็นส่วนตัว สิงโตบอก อะไรที่ไม่หนักหนาเกินไปก็ทำตัวปกติ
บางทีถ้ามีแฟนคลับอยากรู้ว่าไปเรียนรึเปล่าถ้าไม่มีจะบอกผ่านทวิตเตอร์หรือพี่ผจก. แต่ถ้ามีจะไม่บอก
เพราะเพื่อนๆ บางคนก็จะชอบความเป็นส่วนตัวมากกว่า ส่วนเรื่องข่าวไม่ค่อยกลัว เพราะเราทำตัวดีของเราอยู่แล้ว
ในขณะที่มันไม่ใช่เรื่องจริง ก็ไม่จำเป็นต้องทำอะไร เดี๋ยวความจริงก็ออกมาเอง
ชีวิตหลังเข้ามาในวงการ ก็เปลี่ยนไปมากทำให้มีสติในการใช้ชีวิตมากขึ้น ได้เรียนรู้การทำงานกับคนหมู่มาก
ทุกอย่างต้องอยู่บนพื้นฐานของความมีสติ การพูดอะไรต้องคิดแล้วคิดอีกว่า เราทำให้ใครเดือดร้อนไหม เพราะ
ผลกระทบที่ตามมากว้างกว่าที่เราคิดไว้มาก เรื่องวัฏจักรในวงการ ก็ไม่ได้อยากทำงานในจุดนี้ตลอดไป อยากทำงาน
เบื้องหลังอยากเป็นคนคิดเขียนบท ในอนาคตต่อให้มีคนรุ่นใหม่ขึ้นมา ผมสามารถผันตัวเป็นคนเบื้องหลังซัปพอร์ตเขา
ก็ได้ เพราะเป็นสิ่งที่ผมรักเหมือนกัน และเจ้าตัวก็ไม่ได้รู้สึกว่า Born to be เกิดมาเป็นดารานักแสดง เราแค่พยายาม
จะช่วยเหลือที่บ้านหางานทำแล้วงานตรงนี้มันคือ งานที่เราเข้าถึงได้ เรียกว่าเราประกอบอาชีพนักแสดงซะมากกว่า
เป็นคนที่มีความคิดและทัศนคติต่อคนรอบข้างดีอยู่เสมอเลย เหล่าสมุนจ้าวป่าเลือกรักคนไม่ผิดจริงๆ^^
#สิงโตปราชญา
ก็ไม่สงสัยเลยว่าทำไมหนุ่ม สิงโต ปราชญา ถึงเป็นที่รักของเหล่าสมุนจ้าวป่า (ชื่อแฟนคลับ) เหนียวแน่นมาจวบจนทุก
วันนี้ เพราะนอกจากใบหน้าอันคมเข้มและหล่อเหลาแล้ว ยังเต็มเปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจ สุภาพ และอ่อนน้อมถ่อมตน
ช่วงแรกคุณเขาเล่าถึงชีวิตในครอบครัว
เมื่อก่อน ชื่อ กัน ทั้งชื่อจริงชื่อเล่นเลย พอโตมาหน่อยสุขภาพร่างกายแย่มาก คุณแม่เลยไปถามพระแล้วเปลี่ยนชื่อจริงเป็น ปราชญา ชื่อเล่นก็เป็น สิงโต ตามลูกพี่ลูกน้องในครอบครัว อยู่โรงเรียนจะเป็นคนที่ค่อนข้างเนิร์ดๆ เก็บตัวในห้องสมุด หรือชอบยืมหนังสือ จากห้องสมุดมาแอบอ่านในห้องเรียน เป็นคนไม่ดื้อไม่ซน วีรกรรมในวัยเรียนก็มีทะเลาะกับเพื่อนเข้าห้องปกครอง สิงโตเป็นเกิดมาในครอบครัวที่เป็นลูกชายคนเดียว มีเหงาบ้างแต่ก็ไม่โดนเปรียบเทียบกับใคร คุณแม่จะไม่ค่อยตามใจเท่าไร แต่คุณพ่อจะปล่อยให้ทำในสิ่งที่ชอบ เป็นคนที่ค่อนข้างติดแม่จะคุยกับแม่ทุกเรื่องและช่วงที่คุณแม่ยังอยู่ จะทะเลาะกับคุณพ่อบ่อย แต่พอคุณแม่เสียก็ยกพ่อเป็นที่หนึ่งและไม่เคยทะเลาะกับท่านอีกเลย
ชีวิตในวัยเรียน
ช่วงประถมศึกษาอยู่ภารตวิทยาลัย ช่วงมัธยมอยู่โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ม.ต้นก็จะเป็นเด็กเนิร์ดๆ
ชอบยืมหนังสือห้องสมุดมาอ่านบ่อยมาก สามารถอ่านหนังสือเล่มหนาๆ จบได้ภายใน 1-2 วัน
ชีวิตในรั้วมหาลัย
ตอนแรกเรียนม.เกษตรศาสตร์ เป็นช่วงที่ทำทำกิจกรรมเยอะมากเป็น ผู้นำเชียร์ พี่รับน้อง พี่ว้าก
ตอนนั้นเรียนที่ม.เกษตรฯ เรียนเศรษฐศาสตร์เพราะแม่อยากให้เรียน แต่ตัวเองเป็นคนไม่ชอบเลข
อยู่แล้วที่เรียนเพราะอยากเอาใจคุณแม่ เลยลองสอบแล้วดันติด ก่อนจะซิ่วมาม.กรุงเทพ เรียนนิเทศศาสตร์
ตอนเด็กๆ เจ้าตัวไม่เคยมีความฝันอยากเข้าวงการบันเทิงเลย มีแค่ตอนม.ปลายทำงานตัดต่อส่งอาจารย์
แล้วรู้สึกอยากทำงานเบื้องหลัง ก่อนจะพูดถึงจุดเริ่มต้นของการไปเป็นพี่ว้าก เกิดจากการที่มีคนถ่ายรูป
ไปลงแฮชแท็ก พี่ว้ากตัวร้ายกับนายปี 1 แล้วพี่ทีมงานไปเจอเลยติดต่อให้มาแคสต์ ตอนแรกไปแคสต์บทพี่อาทิตย์
ก่อนทีมงานจะให้ลองแคสต์บทก้องภพด้วย ซึ่ง โจ้ นครินทร์ โปรดิวเซอร์ของ SOTUS The Series
บอกหลักๆ ที่ทำให้สิงโต ก้าวมาถึงจุดนี้ นอกจากรูปลักษณ์ภายนอกทักษะการแสดง ก็คือความใส่ใจ ตั้งใจ ทำการบ้าน
การเข้าซีนสวมบทบาทการเป็น ก้องภพ วันแรกคุณเขาบอก ถึงกับสั่นเลย กลัวทำได้ไม่ดี กลัวคนอื่นจะเสียเวลา
เลยค่อนข้างทำการบ้านเยอะมาก ก่อนนอนตื่นนอนก็จะอ่านบทไฮไลท์ไว้ว่าตรงไหนสำคัญ ยิ่งเป็นคนขี้ลืมด้วย ตอนนั้น
ก็อ่านนิยาย 2 รอบ ตัวบท 2 รอบ ช่วงแรกก็จะมีคอมเมนต์บอกว่าตัวสิงโตไม่เหมือนคาแรกเตอร์ของก้องภพที่วาดไว้
แบบก้องภพจะดูคุณหนูหล่อเนี้ยบเป๊ะทุกอย่าง ก็มีปรับเรื่องการพูด ตอนแรกมีคนบอกไม่ชอบแต่พอดูไปก็บอกเออดูมีอะไร ก็ประทับใจ ก็ดีใจที่เขาเห็นว่าเราก็พยายามนะ และเราไม่ได้คิดว่าตัวเองและก็น้องจะมาไกลขนาดนี้ ในหัวเราตอนแรกคือตั้งใจที่จะทำงานนี้ให้ออกมาดีเฉยๆ การที่มันดังขนาดนี้ก็เกินความคาดหมายมากเกินไปแล้ว
กระแสซีรีส์ยิ่งใหญ่เกรียงไกรถึงที่จีน สิงโตก็เล่าว่า มีแฟนคลับที่จีนเยอะมาก ครั้งแรกที่ได้ไปจีนก็มีแฟนคลับมารับ
ที่สนามบินเยอะมาก ก็ประหม่ามาก เขาก็จะมารับที่สนามบินขับรถตามไปที่ต่างๆ
ย้อนไปตอนนั้น คุณเขาเพิ่งออกเพลง เธอทําให้ฉันโชคดี ที่ทำขึ้นมาเพื่อขอบคุณแฟนๆ ตอนนั้นบอกเป็นคนชอบร้องเพลง แต่ก็ยังไม่ค่อยไม่มั่นใจในเสียงของตัวเองอยู่ มาปัจจุบันนี้คุณเขาก็ยังไม่ค่อยมั่นใจ แต่ก็คือได้คอลแลปกับ
สายดีว่าอย่างสองสาว นิวจิ๋ว ไปแล้ว สุดจะก้าวกระโดดเลย
เดินสายคว้ารางวัลเป็นว่าเล่นทั้งในนามคู่จิ้นและส่วนตัว
ซึ่งทั้งเขาและคริสไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะมาถึงจุดนี้ คิดว่าแค่ต้องทำให้ดีที่สุดเพื่อจะปรับใช้กับเรื่องต่อไป
คู่จิ้นแห่งปี 2017 งาน Maya Awards
นักแสดงนำชายยอดนิยม งานคมชัดลึกอวอร์ดครั้งที่ 14
คว้ารางวัล Most Popular New Artists Of The Year และ Media Recommendation Artist Award 2017
คู่กับกับคริส จากงาน V-Chart Awards ที่จัดขึ้นที่มาเก๊า ซึ่งสิงโตบอก ตอนนั้นก็ประหม่าที่ต้องขึ้นไปรับรางวัลบน
เวทีเพราะเป็นงานที่มีศิลปินดังจากทั่วเอเชียมาร่วมงาน ซึ่งเราเป็นหน้าใหม่ ก็กลัวจะทำออกมาไม่ดี
เรื่องดาวที่เคยมีแม่จีนซื้อให้และจดลิขสิทธิ์ตั้งชื่อให้เป็นของขวัญวันเกิด ตอนนั้นคุณเขาก็บอกว่า น่ารักดี
ซึ่งไม่รู้มาก่อนว่าทำได้ด้วย เรารับรู้ว่าเขาทำให้ก็ดีใจแล้ว แต่ตอนนั้นคือฮือฮาเลยเพราะคุณเขาคือดาราไทยคนแรกที่มีชื่อดาวเป็นของตัวเอง
อีกหนึ่งผลงานการแสดงของหนุ่มจ้าวป่าอย่าง U-PRINCE Series ตอน เฟิร์สคลาส ที่รับบทเป็น บีเอ็ม
ก็มีอีกหนึ่งตัวละครที่เจ้าตัวชอบ เล่นแล้วสบายใจโฟลวมากกว่าก้องภพ เพราะก้องภพจะไม่ค่อยเปล่อยอารมณ์ออก
มามาก แต่บีเอ็มเป้นตัวละครที่มาทั้งด้านดีและด้านร้าย ส่วนตอนไปรับเชิญเป็นคุณพ่อที่รออยู่หน้าห้องคลอด ในซีรีส์คุณแม่วัยใสก็มีไปถามถึงความรู้สึกจากคุณพ่อมาเหมือนกัน ว่าต้องรู้สึกยังไง
เล่าถึงตัวตนความเป็นก้องภพกับสิงโต จะมีความแตกต่างกันพอสมควร ก้องภพจะชอบช่วยเหลือผู้อื่น
แต่สิงโตตัวจริงจะค่อนข้างเก็ตัวไมสุงสิงกับใคร ไม่ชอบเข้าสังคม เวลาว่างขอแค่มีหนังสือสักเล่มไม่ก็กล้องถ่ายรูป
หรือไปอยู่ร้านกาแฟสักร้าน ซึ่งการได้มาทำงานตรงนี้ก็ทำให้มีความกล้าแสดงออกมาขึ้น รวมถึงความมั่นใจ และข้อดีของการเป็นพี่ว้ากมาก่อนทำให้ตัวเขาเป็นคนมีสมาธิมากในการทำงาน
แต่เรื่อง ความจำอย่างการจำเนื้อเพลงก่อนออกงานอีเวนต์ ก็พูดติดตลกว่าตัวเองเป็นคนที่พร้อมเปลี่ยนความหมายเพลงเป็นคำของตัวเองตลอดเวลา และทุกครั้งที่ขึ้นเวทีใหญ่จะตื่นเต้นทุกครั้ง เพราะเราไม่ใช่คนที่จะเอ็นเตอร์เทนคนได้
กลัวแฟนคลับหรือคนที่มาดูจะไม่สนุก
คุณเขายังได้แชร์กิจวัตรในรั้วมหาลัยด้วย ช่วงระหว่างรอเรียนจะไปนั่งอ่านหนังสืออยู่ร้านกาแฟ
หรือไม่ก็พกกล้องไปถ่ายรูป เป็นคนชอบถ่ายรูปแนว Portrait และ Macro ไม่ก็ Candid มีไอจีไว้ลงรูป
และเครดิตโดยเฉพาะ เลนส์ที่ชอบใช้คือ 85/1.4 GM
อาหารจานโปรดของสิงโต คือ พิซซ่า และอาหารจานเดียว ไม่ชอบกินบุฟเฟต์หรือปิ้งย่าง
ถ้ากลับบ้านก็จะมีคอนเซ็ปต์ว่าจะพาคุณพ่อไปทานข้าวที่ร้านไหนดี มีข้อแม้ต้องเป็นที่วิวดี
อาหารอร่อย และต้องไม่ซ้ำกับที่เคยทาน เพราะพ่อพี่สิงเป็นคนไม่ชอบไปไหน เลยคุยกันว่า
ถ้าไม่ชอบไปไหน จะพาพ่อไปกินข้าวโดยเปลี่ยนร้านไปเรื่อยๆ ตลอด น่ารักมากเลยคุณพ่อกับลูกชาย
โมเมนต์กับ แฟนคลับตอนนั้นได้เจอบ่อยตามงานอีเวนต์ต่างๆ ถ้าหลังเลิกงานมีเวลาเยอะพอสมควร
ก็จะยืนคุยกัน ชอบบ่นอะไรให้แฟนคลับฟัง แฟนคลับก็จะชอบตลกเราบางครั้ง เราจะชอบมีสีหน้าแปลกๆ
ติดกล้องไปฟีลเป็นมีมไรงี้
ความดังที่มาพร้อมกับชีวิตที่ไม่เป็นส่วนตัว สิงโตบอก อะไรที่ไม่หนักหนาเกินไปก็ทำตัวปกติ
บางทีถ้ามีแฟนคลับอยากรู้ว่าไปเรียนรึเปล่าถ้าไม่มีจะบอกผ่านทวิตเตอร์หรือพี่ผจก. แต่ถ้ามีจะไม่บอก
เพราะเพื่อนๆ บางคนก็จะชอบความเป็นส่วนตัวมากกว่า ส่วนเรื่องข่าวไม่ค่อยกลัว เพราะเราทำตัวดีของเราอยู่แล้ว
ในขณะที่มันไม่ใช่เรื่องจริง ก็ไม่จำเป็นต้องทำอะไร เดี๋ยวความจริงก็ออกมาเอง
ชีวิตหลังเข้ามาในวงการ ก็เปลี่ยนไปมากทำให้มีสติในการใช้ชีวิตมากขึ้น ได้เรียนรู้การทำงานกับคนหมู่มาก
ทุกอย่างต้องอยู่บนพื้นฐานของความมีสติ การพูดอะไรต้องคิดแล้วคิดอีกว่า เราทำให้ใครเดือดร้อนไหม เพราะ
ผลกระทบที่ตามมากว้างกว่าที่เราคิดไว้มาก เรื่องวัฏจักรในวงการ ก็ไม่ได้อยากทำงานในจุดนี้ตลอดไป อยากทำงาน
เบื้องหลังอยากเป็นคนคิดเขียนบท ในอนาคตต่อให้มีคนรุ่นใหม่ขึ้นมา ผมสามารถผันตัวเป็นคนเบื้องหลังซัปพอร์ตเขา
ก็ได้ เพราะเป็นสิ่งที่ผมรักเหมือนกัน และเจ้าตัวก็ไม่ได้รู้สึกว่า Born to be เกิดมาเป็นดารานักแสดง เราแค่พยายาม
จะช่วยเหลือที่บ้านหางานทำแล้วงานตรงนี้มันคือ งานที่เราเข้าถึงได้ เรียกว่าเราประกอบอาชีพนักแสดงซะมากกว่า
เป็นคนที่มีความคิดและทัศนคติต่อคนรอบข้างดีอยู่เสมอเลย เหล่าสมุนจ้าวป่าเลือกรักคนไม่ผิดจริงๆ^^
#สิงโตปราชญา
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก
YT: TrueVisionsOfficial
@nupear_dent @Enewskha
@Mymimild1 @__singto
แก้ไขล่าสุด 17 ม.ค. 64 13:45 |
เลขไอพี : ไม่แสดง
| ตั้งกระทู้โดย Windows 10
อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)
ความคิดเห็น
จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google