เป็นความสัมพันธ์ที่คอยเติมเต็มและเกื้อหนุนกัน! หยิ่น เผยว่า วอร์ เป็นคนนำพาตัวเขาไปในทางที่ดีขึ้น

โดนซักโดนขยี้จนสะอาดหมดแล้ว สำหรับ หยิ่น วอร์ เมื่อได้ไปเยือน เจ๊คิ้มกินรอบวง
ทั้งในเรื่องของจูบ หลับนอนด้วยกัน และสารพัดทำเอาทั้ง 2 หนุ่ม เก็บทรงกันไม่อยู่เลยทีเดียว
เปิดมาก็โดนยิงด้วยคำถามนี้เลย จูบกันถี่ไหม?
วอร์ "เรื่อยๆ ครับ"
เจ๊คิ้ม "จูบกันครั้งแรกเขินไหม?"
หยิ่น "ในบทที่เป็นครั้งแรกไม่เขิน แต่ก่อนแสดงที่เวิร์กช็อปครั้งแรกเขิน"
เจ๊คิ้ม "แล้วทุกวันนี้?"
หยิ่น "ไม่เขินแล้วครับ ชิน"
หืมมมมม ไปจูบกันที่ไหนจนชินคะเนี้ย




พูดถึงตอนเล่นฉากจูบ เอ็นดูหยิ่นคงรู้สึกเขินๆ ตอนพูดคำว่า จูบ เลยเปลี่ยนมาพูดคำว่า จุ๊บ แทน
แต่ถ้ามาบอกว่า จุ๊บกันเฉยๆ นี่ หมูยอเกียมปาหลักฐานประกอบแล้วนะ ดีที่ยังบอกว่า ก็มีงับปากกันบ้าง -/-




โมเมนต์แค่ขี้มูกดึงขนจมูกให้กันก็มา 55555555




แต่อะไรคือการนอนอยู่หอรวมด้วยกันแล้วเคยนอนเบียดกันบนโซฟาก่อน
เจ๊คิ้ม "โซฟาก็นอนด้วยกัน? โซฟาแคบแค่นั้นมันต้องนอนหันข้าง?"
หยิ่น "บางสถานการณ์มันต้องนอนครับ"
ลองนึกภาพนอนเบียดกันบนโซฟา 




กระเถิบไปเรื่องในม่านมุ้ง เจ๊คิ้มถามมีใครนอนกรนไหม อานันท์ก็คือกรนจ้า
แต่คุณเขาบอก ไม่รู้ตัวเลยว่ากรน หลับไปอีกทีก็เช้าแล้ว แต่คนรอบข้างจะค่อยหายตัวไป
คนที่นอนด้วยกันเลยอธิบายการกรนของน้องให้ฟังว่ามัน ยาวไปเรื่อยๆ จนผมไม่รู้ว่าจะจบตรงไหน บางครั้งก็หายไป
สักระยะนึง ก็โล่งใจละนอนได้ละ และก็กลับมาอีกไม่จบสักที จนวันนึงจะปลุกก็กลัวเสียเซลฟ์ เลยลุกไปแกล้งปิดประตูดังๆ และก็ไปนอนต่อ มันก็หยุด กรนยังไม่พอ อานันท์ยัง นอนดิ้นอีก แบบต้องหาท่าหาเหลี่ยมให้มันสบายก่อนนอน




ละเมอมากอดคนพี่ก็เคย แถมวอร์ไม่ผลักออกด้วย
วอร์ "จังหวะนั้นน่าจะเป็นตอนเช้า แล้วผมตื่นจะลุกเข้าห้องน้ำและอยู่ดีดีเขามากอดผม"
ตามเหตุการณ์จำลองข้างล่างนี้ ~




ถ้าสมมติว่าเป็นแฟน อีกคนจะเป็นที่ดีแค่ไหน?
วอร์ "เป็นแฟนกันก็ต้องเป็นคู่กันก็จะมีคนนึงที่เติมเต็มส่วนที่อีกคนไม่มี การเป็น Partner
ดีกว่า เขาเหมือนเป็นทุกอย่าง เป็นข้อดีของความสัมพันธ์ที่มันจะเป็นในระยะยาว"
หยิ่น "ผมว่าเขาเป็นคนที่ นำตัวผมไปในทางที่ดีที่ถูกต้องขึ้น อย่างผมเป็นคนเวลาที่คิดอะไรชอบมองแง่ลบ และมีไปบอกๆ ให้พี่เขาฟัง เขาก็บอกไม่ต้องไปคิดแบบนั้น ทำให้เราใจเย็นขึ้น ข้อดีเขาอีกอย่างคือเป็นคนประหยัดมาก
เขาไม่ใช้เงินเลย โทรศัพท์เครื่องเก่าเขาแบตเสื่อมมากๆ เขาใช้แบบแบตเสื่อมไม่ซื้อเครื่องใหม่"
วอร์ "ในมุมมองของผมถ้าเกิดเราลด cost ความต้องการของตัวเอง เราจะหาความสุขจากสิ่ง
เล็กๆ ได้มากขึ้น"
หยิ่น "เป็นคนที่คิดบวก"




เจ๊คิ้มเลยถามวอร์ต่อว่าอะไรคือเป้าหมายในงานใช้เงิน?
วอร์ "พาพ่อแม่ไปอยู่ในบรรยากาศที่ดี ที่มันส่งผลต่อสุขภาพ ผมไม่รู้ผมเกิดมาทำไม
แต่ 2 สิ่งที่ผมต้องมี สุขภาพที่ดี ที่พักอาศัยที่ดี อย่างที่ 3 มีอะไรที่เราชอบก็ตั้งใจทำแล้วมันสร้างประโชน์ให้ตัวเราและผู้อื่นได้"
ความคิดทัศนคติเป็นบวกดีมาก แถมมีความกตัญญู แสนดีที่หนึ่งไปเลยยยย




นั่งกันมาได้ครึ่งรายการ เจ๊คิ้มเพิ่งรู้ว่าวอร์เป็นพี่หยิ่นเป็นน้อง
วอร์ "ผมเป็นพี่ครับ ผมอายุ 26 แล้วครับ"
หยิ่น "ผม 22 ครับ"
เจ๊คิ้ม "โห แต่หยิ่นหน้าตา.. หยิ่นหน้าตาเหมือนโตกว่า"
หยิ่น "ลดความเจ็บได้นิดนึง"




ให้ทายใจกันว่าอีกอยากกินอาหารจานไหนบนโต๊ะ หยิ่นทายถูกว่าวอร์อยากกินปลา
วอร์ก็ทายถูกว่าหยิ่นอยากกินปู เจ๊คิ้มบอกให้ป้อนกันด้วย ขำอานันท์จะป้อนน้ำจิ้ม 5555555




จังหวะซิตคอมมากกก คนพี่ที่กำลังประคองปูมาตักใส่จานให้หยิ่น แต่น้องบอกไม่ค่อยชอบกินไข่ปูเท่าไร
เท่านั้นปูที่พนว.อุตส่าห์ตักให้หล่นลงจานเลย 555555555

https://twitter.com/luvwhalien/status/1361281357352116235


หืมมมท่าป้อนแบบใหม่เหรอ ชอบทำอะไรที่พิเศษไม่เหมือนใครกับน้องจริงๆ   






ปิดรายการด้วยเพลง ลูกอม ที่หวานมาก by หยิ่นวอร์ ~



https://twitter.com/YinOFFICIALTH/status/1361279867585617921

#หยิ่นอานันท์ #วอร์วนรัตน์