อ่านแผน #ฉีดวัคซีน ของไทย ใช้เวลาเกือบ 20 ปี ในการฉีดให้ครบ แล้วรับนักท่องเที่ยวในเดือน เม.ย. นี้ จะทันกันไหม!
3 เม.ย. 64 20:56 น. /
ดู 1,360 ครั้ง /
3 ความเห็น /
0 ชอบจัง
/
แชร์
เราเป็นคนหนึ่งที่เคยไม่อยากให้มีการ #เปิดประเทศ รับ #นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เข้ามา แต่เมื่อสถานการณ์ที่มีการระบาดจากที่นู้นที่นี่เป็นระยะๆ ก็ทำให้เราเห็นว่าไม่ #เปิดประเทศ ให้ #นักท่องเที่ยว เข้ามาอย่างเป็นปกติก็ยังระบาดติดเชื้อกันเหมือนเดิม
ยิ่ง #เปิดประเทศ ช้า โอกาสที่จะทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวก็ยากลำบากไปทุกที
เมื่อเป็นแบบนี้เราก็เลยมีความคิดว่า ถ้าอย่างนั้นก็ #เปิดประเทศ รับ #นักท่องเที่ยว เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจก่อนเหอะ จะเปิดหรือปิดยังไง ก็ยังติดเชื้อกันอยู่ดี
ส่วนตัวแล้วโอเคมาก ทีมีแผน #เปิดประเทศ โดยไม่ต้องกักตัว แต่ในรายละเอียดก็มีอยู่นะ เค้าจะให้แบ่งออกเป็น 4 ระยะ
1. ระยะแรกเริ่มวันที่ 1 เมษายนนี้ นักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเดินทางไปจังหวัดนำร่อง คือ ภูเก็ต กระบี่ พังงา เชียงใหม่และพัทยา จังหวัดชลบุรี ต้องได้รับการฉีดวัคซีนและมีใบรับรองการฉีดวัคซีน สามารถกักตัว 7 วันภายในโรงแรม
2.ระยะที่สอง ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมนี้เป็นต้นไป เฉพาะที่จังหวัดภูเก็ต นักท่องเที่ยวต่างชาติที่ได้รับวัคซีน 2 โดส ไม่จำเป็นต้องกักตัว แต่สำหรับพื้นที่อื่นยังต้องกักตัว 7 วัน
3.ระยะที่สาม ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมนี้เป็นต้นไป เฉพาะพื้นที่นำร่อง 5 แห่ง นักท่องเที่ยวต่างชาติไม่ต้องกักตัว หากรับการฉีดวัคซีนและมีใบรับรองการฉีดวัคซีน
4.ระยะที่สี่ เริ่มวันที่ 1 มกราคม 2565 เป็นต้นไป นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าไทย ไม่ต้องกักตัว หากมีใบรับรองการฉีดวัคซีนจากประเทศต้นทาง
ถึงแม้ว่าจะโอเคกับแผนเปิดประเทศ 4 ระยะ แต่ด้วยความที่ต้องเซฟตัวเองจะให้ใจกล้าบ้าบิ่นไม่ดูเรื่องของการป้องกัน การฉีดวัคซีนเลยก็ยังไม่ได้ เมื่อเห็นอัตราความก้าวหน้าในการฉีดวัคซีนในประเทศไทยก็แทบจะเป็นลม
ประเทศไทยได้รับวัคซีนตั้งแต่ 25 ก.พ. 64 ที่ผ่านมา และเริ่มฉีดตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ. 64 จนถึงปัจจุบันที่มีการเก็บข้อมูลอยู่ ณ วันที่ 31 มี.ค. 64
ผ่านไป 1 เดือน ฉีดไปได้ 180,447 โดส จากแผนการกระจายวัคซีน ในเดือน มี.ค. มีวัคซีน 300,000 โดส ก็เท่ากับว่าเป็นไปตามแผนการกระจายในเดือน มี.ค.อยู่ที่ 60%
โดยที่มีผู้ที่ได้รับการฉีดไปแล้ว 180,477 ราย และจากระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ. 31 มี.ค. คิดเป็น 32 วัน
เท่ากับว่าเฉลี่ยแล้วในระยะเวลาที่ผ่านมามีคนที่ได้รับการฉีดอยู่ที่ 5,640 ต่อวัน
เมื่อต้องฉีด 60% ของจำนวนประชากร ก็เท่ากับว่าต้องฉีดให้กับคนไทย 40,200,000 คน
ถ้าการทำงานยังคงประสิทธิภาพอยู่เท่านี้ ไม่มีการเปลี่ยนแผนหรือทำอะไร......ก็เท่ากับว่าต้องใช้ระยะเวลาถึง 19.6 ปี ถึงจะฉีดวัคซีนให้ครบ 60% ของจำนวนประชากร
ในขณะเดียวกันตัดภาพมาที่เรื่องของเศรษฐกิจที่จะต้องเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวให้เข้ามาเที่ยวให้เศรษฐกิจฟื้นตัวในเดือน เม.ย. 64 นี้ ดังนั้นหนทางเดียวคือ รัฐจะต้องเร่งฉีดวัคซีน ให้มากที่สุดและด่วนที่สุด
ซึ่งในตอนนี้ก็ได้มีข่าวว่าจะมีการปรับแผนแล้ว ประชาชนที่ไม่ได้อยู่ในแผนการกระจายวัคซีนในช่วงแรกก็ขอภาวนาให้การทำงานราบรื่น ไม่มีอุปสรรคใดๆ เพื่อจะให้การท่องเที่ยวของประเทศไทยมีมาตรการป้องกันที่เข้มแข็ง เข้มแข็งทั้งร่างกาย และเข้มแข็งทั้งเศรษฐกิจ ด้วยเถิด สาธุ
ที่มา https://pantip.com/topic/40618925
#เปิดประเทศ
#ภูเก็ต
#วัคซีนโควิด
#พาสปอร์ตวัคซีน
#ไม่กักตัว
เมื่อเป็นแบบนี้เราก็เลยมีความคิดว่า ถ้าอย่างนั้นก็ #เปิดประเทศ รับ #นักท่องเที่ยว เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจก่อนเหอะ จะเปิดหรือปิดยังไง ก็ยังติดเชื้อกันอยู่ดี
ส่วนตัวแล้วโอเคมาก ทีมีแผน #เปิดประเทศ โดยไม่ต้องกักตัว แต่ในรายละเอียดก็มีอยู่นะ เค้าจะให้แบ่งออกเป็น 4 ระยะ
1. ระยะแรกเริ่มวันที่ 1 เมษายนนี้ นักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเดินทางไปจังหวัดนำร่อง คือ ภูเก็ต กระบี่ พังงา เชียงใหม่และพัทยา จังหวัดชลบุรี ต้องได้รับการฉีดวัคซีนและมีใบรับรองการฉีดวัคซีน สามารถกักตัว 7 วันภายในโรงแรม
2.ระยะที่สอง ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมนี้เป็นต้นไป เฉพาะที่จังหวัดภูเก็ต นักท่องเที่ยวต่างชาติที่ได้รับวัคซีน 2 โดส ไม่จำเป็นต้องกักตัว แต่สำหรับพื้นที่อื่นยังต้องกักตัว 7 วัน
3.ระยะที่สาม ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมนี้เป็นต้นไป เฉพาะพื้นที่นำร่อง 5 แห่ง นักท่องเที่ยวต่างชาติไม่ต้องกักตัว หากรับการฉีดวัคซีนและมีใบรับรองการฉีดวัคซีน
4.ระยะที่สี่ เริ่มวันที่ 1 มกราคม 2565 เป็นต้นไป นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าไทย ไม่ต้องกักตัว หากมีใบรับรองการฉีดวัคซีนจากประเทศต้นทาง
ถึงแม้ว่าจะโอเคกับแผนเปิดประเทศ 4 ระยะ แต่ด้วยความที่ต้องเซฟตัวเองจะให้ใจกล้าบ้าบิ่นไม่ดูเรื่องของการป้องกัน การฉีดวัคซีนเลยก็ยังไม่ได้ เมื่อเห็นอัตราความก้าวหน้าในการฉีดวัคซีนในประเทศไทยก็แทบจะเป็นลม
ประเทศไทยได้รับวัคซีนตั้งแต่ 25 ก.พ. 64 ที่ผ่านมา และเริ่มฉีดตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ. 64 จนถึงปัจจุบันที่มีการเก็บข้อมูลอยู่ ณ วันที่ 31 มี.ค. 64
ผ่านไป 1 เดือน ฉีดไปได้ 180,447 โดส จากแผนการกระจายวัคซีน ในเดือน มี.ค. มีวัคซีน 300,000 โดส ก็เท่ากับว่าเป็นไปตามแผนการกระจายในเดือน มี.ค.อยู่ที่ 60%
โดยที่มีผู้ที่ได้รับการฉีดไปแล้ว 180,477 ราย และจากระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ. 31 มี.ค. คิดเป็น 32 วัน
เท่ากับว่าเฉลี่ยแล้วในระยะเวลาที่ผ่านมามีคนที่ได้รับการฉีดอยู่ที่ 5,640 ต่อวัน
เมื่อต้องฉีด 60% ของจำนวนประชากร ก็เท่ากับว่าต้องฉีดให้กับคนไทย 40,200,000 คน
ถ้าการทำงานยังคงประสิทธิภาพอยู่เท่านี้ ไม่มีการเปลี่ยนแผนหรือทำอะไร......ก็เท่ากับว่าต้องใช้ระยะเวลาถึง 19.6 ปี ถึงจะฉีดวัคซีนให้ครบ 60% ของจำนวนประชากร
ในขณะเดียวกันตัดภาพมาที่เรื่องของเศรษฐกิจที่จะต้องเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวให้เข้ามาเที่ยวให้เศรษฐกิจฟื้นตัวในเดือน เม.ย. 64 นี้ ดังนั้นหนทางเดียวคือ รัฐจะต้องเร่งฉีดวัคซีน ให้มากที่สุดและด่วนที่สุด
ซึ่งในตอนนี้ก็ได้มีข่าวว่าจะมีการปรับแผนแล้ว ประชาชนที่ไม่ได้อยู่ในแผนการกระจายวัคซีนในช่วงแรกก็ขอภาวนาให้การทำงานราบรื่น ไม่มีอุปสรรคใดๆ เพื่อจะให้การท่องเที่ยวของประเทศไทยมีมาตรการป้องกันที่เข้มแข็ง เข้มแข็งทั้งร่างกาย และเข้มแข็งทั้งเศรษฐกิจ ด้วยเถิด สาธุ
ที่มา https://pantip.com/topic/40618925
#เปิดประเทศ
#ภูเก็ต
#วัคซีนโควิด
#พาสปอร์ตวัคซีน
#ไม่กักตัว
เลขไอพี : ไม่แสดง
| ตั้งกระทู้โดย Windows 10
อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)
ความคิดเห็น
จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google