จากวันที่ประมูลสัมปทานดิวตี้ฟรีของไทย จนถึงวันที่ต้องปรับทัพขายออนไลน์เพื่อรับมือวิกฤติโควิ 19 อีกครั้ง
9 พ.ค. 64 23:58 น. /
ดู 405 ครั้ง /
1 ความเห็น /
0 ชอบจัง
/
แชร์
สัมปทาน คือการที่รัฐให้เอกชนการที่รัฐอนุญาตให้เอกชนจัดทําบริการสาธารณะหรือจัดทําประโยชน์เกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติ "สัมปทานดิวตี้ฟรีไทย" (Duty Free) ก็มีลักษณะการจัดการแบบ สัมปทานเช่นกัน คือให้เอกชนเข้ามาดำเนินงาน โดยมีสัญญาว่าจะต้องจ่ายค่าผลประโยชน์ที่ดำเนินได้ให้กับรัฐ โดยที่ใครจะได้สัมปทานดิวตี้ฟรีไปนั้น ก็จะมีการเปิดประมูล โดยเปิดโอกาสให้หน่วยงานที่มีศักยภาพเข้ามาแข่งขัน ว่าใครจะสามารถให้ผลประโยชน์กลับมาที่รัฐได้สูงสุด ก็จะเป็นผู้ชนะสัมปทานนั้นไป
ในเมื่อมีการประมูลสัมปทานมีหลายเจ้าแล้วคิงเพาเวอร์คือผู้ได้รับชัยชนะมาก็ยังถูกมองว่า คิงเพาเวอร์ผูกขาด เป็นเพราะว่าคิงเพาเวอร์คือดิวตี้ฟรีสัญชาติไทยที่ประกอบธุรกิจนี้มานาน แล้วสัญญาในแต่ละรอบก็กินระยะเวลายาวนาน เข้าใจว่ามันง่ายมากที่จะทำให้คนอื่นมองผิวเผินเป็นแบบนั้น แต่สุดท้ายถ้าการได้สัมปทานดิวตี้ฟรีมา มีการแข่งขัน มีผู้เข้าร่วมประมูลหลายราย ยังไงก็ไม่ใช่การผูกขาดหรอก เพราะมันมีคู่แข่ง ทั้งมองเห็นและมองไม่เห็น
ในเมื่อเราคนไทยมีความคุ้นชินกับคิงเพาเวอร์แล้ว เราลองมาย้อนดูกันหน่อยดีกว่าว่าที่ผ่านมาคิงเพาเวอร์ทำผลงานไว้อย่างไรบ้าง
จากภาพที่นำมาประกอบ ก็จะเห็นว่าเมื่อปี 2562 และ 2563 คาดการณ์ว่าคิงเพาเวอร์จ่ายผลตอบแทนอยู่ที่ เกือบหมื่นล้านบาท https://stock2morrow.com/discuss/room/1/topic/14781
และสืบเนื่องจากการแข่งขันประมูลสัมปทานดิวตี้ฟรีที่ดุเดือด คิงเพาเวอร์จึงยื่นข้อเสนอให้กับ ทอท. ว่าจะจ่ายผลตอบแทนอยู่ที่ 2x,xxx ล้านบาทต่อปี อายุสัญญาเป็นระยะเวลา 10 ปี ทอท. ก็จะได้ผลตอบแทนจากคิงเพาเวอร์อยู่ที่ประมาณ 2xx,xxx ล้านบาท นั่นคือสิ่งที่รัฐจะได้โดยที่ทาง ทอท. ก็ออกมาบอกว่านับเป็นมูลค่าที่สูงมาก ๆ
ทุกอย่างเหมือนกำลังจะสวยงามโดยแท้ถ้าไม่มีวิกฤติไวรัสโคโรน่า หรือ โควิด-19 ย่างกรายเข้ามาในประเทศ ด่านแรกที่ได้รับผลกระทบคือสนามบิน เป็นจุดที่โดนไวรัสเล่นงานแรกๆ ของประเทศ ทอท. จึงต้องออกมาตรการเยียวยาเพื่อยังต้องคงสภาพให้มันไปได้รอด แต่สุดท้ายก็ต้านทานไม่ได้เมื่อประกาศล็อคดาวน์เมือง คิงเพาเวอร์ที่เป็นหัวหอกสำคัญในการทำผลตอบแทนแสนงามก็เหมือนจะไวต่อเหตุการณ์ ปรับรูปแบบการขายให้เข้ากับยุคสมัยที่เดลิเวอรี่กำลังมา คิงเพาเวอร์จึงปรับกลยุทธ์เปลี่ยนแผนการขาย ให้พนักงานทุกคนกลายเป็นพนักงานขายของออนไลน์ วิธีการขายก็คือจะมีโค้ดส่วนลดที่ได้ราคาพิเศษให้กับลูกค้าเข้าไปซื้อของในเว็บไซต์คิงเพาเวอร์ ของที่ขายก็เป็นพวกของแบรนด์เนม น้ำหอม เครื่องสำอางค์ เครื่องใช้เครื่องประดับต่างๆ https://thestandard.co/king-power-f.........online-sellers/
ที่รู้กันดีว่าถ้าซื้อจากดิวตี้ฟรีแล้วจะได้ราคาดีกว่าซื้อข้างนอก การใช้วิธีนี้รับมือกับวิกฤติอาจจะไม่ได้ยอดขายเป็นกอบกำ แต่ที่สำคัญคือได้ใจของพนักงานเพราะไม่มีการเลิกจ้าง ได้ใจคู่ค้าเพราะของก็ขายได้ ด้วยวิธีการนี้จึงทำให้ทุกอย่างยังคงไปต่อได้เรื่อยๆ ประคองกันไป ไม่มีการหยุดชะงัก ในเมื่อสิ่งที่ดูเหมือนกำลังจะไปได้ดี แต่กลัวถูกเจ้าโควิดมาขัดขาเอาไว้ ปุถุชนอย่างเราก็ต้องเอาใจช่วยให้รวมถึงตัวผู้เขียนเองด้วยว่าวิกฤตินี้ "ต้องรอด" !! อดทนจนกว่าทุกอย่างจะกลับเข้าสู่สถานการณ์ปกติให้ไวโดยเร็วพลัน
ในเมื่อเราคนไทยมีความคุ้นชินกับคิงเพาเวอร์แล้ว เราลองมาย้อนดูกันหน่อยดีกว่าว่าที่ผ่านมาคิงเพาเวอร์ทำผลงานไว้อย่างไรบ้าง
จากภาพที่นำมาประกอบ ก็จะเห็นว่าเมื่อปี 2562 และ 2563 คาดการณ์ว่าคิงเพาเวอร์จ่ายผลตอบแทนอยู่ที่ เกือบหมื่นล้านบาท https://stock2morrow.com/discuss/room/1/topic/14781
และสืบเนื่องจากการแข่งขันประมูลสัมปทานดิวตี้ฟรีที่ดุเดือด คิงเพาเวอร์จึงยื่นข้อเสนอให้กับ ทอท. ว่าจะจ่ายผลตอบแทนอยู่ที่ 2x,xxx ล้านบาทต่อปี อายุสัญญาเป็นระยะเวลา 10 ปี ทอท. ก็จะได้ผลตอบแทนจากคิงเพาเวอร์อยู่ที่ประมาณ 2xx,xxx ล้านบาท นั่นคือสิ่งที่รัฐจะได้โดยที่ทาง ทอท. ก็ออกมาบอกว่านับเป็นมูลค่าที่สูงมาก ๆ
ทุกอย่างเหมือนกำลังจะสวยงามโดยแท้ถ้าไม่มีวิกฤติไวรัสโคโรน่า หรือ โควิด-19 ย่างกรายเข้ามาในประเทศ ด่านแรกที่ได้รับผลกระทบคือสนามบิน เป็นจุดที่โดนไวรัสเล่นงานแรกๆ ของประเทศ ทอท. จึงต้องออกมาตรการเยียวยาเพื่อยังต้องคงสภาพให้มันไปได้รอด แต่สุดท้ายก็ต้านทานไม่ได้เมื่อประกาศล็อคดาวน์เมือง คิงเพาเวอร์ที่เป็นหัวหอกสำคัญในการทำผลตอบแทนแสนงามก็เหมือนจะไวต่อเหตุการณ์ ปรับรูปแบบการขายให้เข้ากับยุคสมัยที่เดลิเวอรี่กำลังมา คิงเพาเวอร์จึงปรับกลยุทธ์เปลี่ยนแผนการขาย ให้พนักงานทุกคนกลายเป็นพนักงานขายของออนไลน์ วิธีการขายก็คือจะมีโค้ดส่วนลดที่ได้ราคาพิเศษให้กับลูกค้าเข้าไปซื้อของในเว็บไซต์คิงเพาเวอร์ ของที่ขายก็เป็นพวกของแบรนด์เนม น้ำหอม เครื่องสำอางค์ เครื่องใช้เครื่องประดับต่างๆ https://thestandard.co/king-power-f.........online-sellers/
ที่รู้กันดีว่าถ้าซื้อจากดิวตี้ฟรีแล้วจะได้ราคาดีกว่าซื้อข้างนอก การใช้วิธีนี้รับมือกับวิกฤติอาจจะไม่ได้ยอดขายเป็นกอบกำ แต่ที่สำคัญคือได้ใจของพนักงานเพราะไม่มีการเลิกจ้าง ได้ใจคู่ค้าเพราะของก็ขายได้ ด้วยวิธีการนี้จึงทำให้ทุกอย่างยังคงไปต่อได้เรื่อยๆ ประคองกันไป ไม่มีการหยุดชะงัก ในเมื่อสิ่งที่ดูเหมือนกำลังจะไปได้ดี แต่กลัวถูกเจ้าโควิดมาขัดขาเอาไว้ ปุถุชนอย่างเราก็ต้องเอาใจช่วยให้รวมถึงตัวผู้เขียนเองด้วยว่าวิกฤตินี้ "ต้องรอด" !! อดทนจนกว่าทุกอย่างจะกลับเข้าสู่สถานการณ์ปกติให้ไวโดยเร็วพลัน
เลขไอพี : ไม่แสดง
| ตั้งกระทู้โดย Windows 10
อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)
ความคิดเห็น
จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google