ได้ทั้งอาหารตาและอาหารสมอง มิว กับการเป็นหนึ่งในวิทยากรของโครงการ หยุดเหยียดไม่เกลียดกัน

ตอนแรกก็ว่าจะมาฟังข้อคิดดีดีจากคุณ มิว ศุภศิษฏ์ ในไลฟ์ของโครงการ หยุดเหยียดไม่เกลียดกัน
แต่พอเห็นลุคของคุณเขาเท่านั้นแหละ เหมือนสมอง blank ไปเลย หล่อทะลุแมสก์ทะลุจอมากกกก
งานนี้ชาว mewlion ทุกคนก็ได้หวีดทั้งรูปลักษณ์และได้รับฟังทัศนคติความคิดของผู้ชายคนนี้ ในฐานะ
หนึ่งในวิทยากร


เรื่องนี้เชื่อว่าชาวมิวเลี่ยนน่าจะเคยฟังที่คุณเขาเล่าประสบการณ์การโดนอาจารย์บูลลี่มาบ้างแล้ว
เพราะสมัยมหาลัยตัดสินจากรูปลักษณ์ภายนอกที่คุณเขาทำผมไถข้างและเจาะหูว่าสภาพนี้น่าจะเรียนไม่จบ
แต่สุดท้ายก็ได้ A วิชาของอาจารย์คนนี้ and now กำลังจะเป็นว่าที่ด็อกเตอร์ เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ตัดสินคนจากภาย
นอกไม่ได้จริงๆ 




ส่วนเรื่องวิธีการรับมือกับถูก bully คุณศุภศิษฏ์บอกว่า เราจะไม่ตอบโต้เขา มันจะไม่จบสักที เขาว่าเราเราว่าเขาคืน กลายเป็นว่าเราก็ ไป bully เขาเหมือนกัน ควรจะหยุดไม่ตอบโต้และตัดขาดออกจากตรงนั้นที่จะเป็นภัยที่ทำให้เรา toxic การที่จะทำได้ก็ตือหยุด และให้คนเข้าใจตระหนักถึงเรื่องนี้มากขึ้นเรื่อยๆ




มาให้ความรู้แชร์ประสบการณ์แล้วเหมือนคุณเขาได้มาเลกเชอร์ด้วย






และการที่เจ้าตัวอยู่ในจุดๆ นี้ เรื่องถูก Cyberbully ก็หนีไม่พ้น แต่ก็มีประโยคนึงของศิลปินต่างชาติ
ที่มิวจำขึ้นใจว่าแบบ เวลาเจอคนมาวิจารณ์เรา มากดดันเรา นั่นแปลว่าเรากำลังทำสิ่งใหม่ๆ อยู่ แบบมัน
แปลกจากตัวเขามากๆ และไม่เข้าใจกับสิ่งนี้ แต่เขาลืมไปว่าสิ่งแรกที่เขาควรทำคือทำความเข้าใจ ว่าทำไมไม่ทำตามวัฒนธรรมประเพณี ทำไมเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้อย่างเวลาเราจะทำ กะเพราหมู เราอาจจะอยากลองใส่อะไรลงไปใหม่ๆ บ้าง แต่บางคนอาจจะคิดว่ามันแปลก เลยไปพูดว่าแบบนี้มันแปลกนะ ปกติเขาไม่กินแบบนี้ และเราเป็นคนนึงที่สร้างสรรค์ผลงาน เลยมีอะไรที่แปลกใหม่ของต่างชาติที่ไทยยังไม่เคยใช้เลยมาลองทำดู และก็จะโดนว่ามาเรื่อยๆ โดนมาประจำ




มิวยังขอเพิ่มเติมในส่วนที่ อยากให้ทุกคนมีความการเคารพซึ่งกันและกัน อยู่บนพื้นฐานของความแตกต่าง การจะคอมเมนต์อะไรหรือโพสต์อะไร มันต้องคิดก่อนที่จะพูดออกมา สเต็ปแรกถ้าตัวเองได้รับสิ่งเหล่านี้จะรู้สึกโอเคไหม นี่คือการเคารพตัวเอง และถ้าเราโพสต์ไปคนที่เราโพสต์ถึงหรือคนที่เขามาอ่านเขาโอเคหรือเปล่า ให้ไตร่ตรองสองข้อนี้ให้สังคมออนไลน์มันน่าอยู่มากขึ้น




ทิ้งท้ายคุณเขายังฝากให้ ทุกคนมีสติ สติสำคัญมากๆ มันคือการดึงตัวเองกลับมาสู่ปัจจุบัน ว่าเราเจอเรื่องนี้รู้สึกยังไง
ว่าอะไรที่ทำให้เราสุขทุกข์เศร้า พอเราเข้าใจตัวเอง มันจะทำให้เราเข้าใจคนอื่นมากขึ้น และการมีโซเชียลทำให้โลกมันแคบลงความเป็นอัตลักษณ์ของตัวเอง เข้าใจและยอมรับในความแตกต่างเพราะเรามีรูปลักษณ์และเติบโตมาเป็นตัวของตัวเอง




และจากวิทยากรก็กลับคืนสู่ร่างนักร้องจับไมค์ทองคำมาร้องเพลง ธานอส / Season Of You (ทุกฤดู)
ปิดไลฟ์ไปแบบสร้างสรรค์จรรโลงใจ ~









#มิวศุภศิษฏ์