ขับกระบะขึ้นทางด่วนต้องระวัง

เชื่อว่าในเวลาเร่งรีบหลายคนก็มักจะเลือกใช่การขับรถขึ้นทาด่วนเพิ่มย่นระยะเวลา แต่!! การขับรถกระบะขึ้นทางด่วนต้องระวัง เพราะมีกฎหมายเกี่ยวกับการขับรถกระบะที่มีของบรรทุกอยู่ท้ายรถ หากคุณไม่ศึกษาให้ดีอาจทำให้คุณต้องเสียค่าใช่จ่ายโดยไม่จำเป็น มาดูกันว่าหากคุณขับรถกระบะแล้วต้องบรรทุกของสามารถขึ้นทางด่วนได้ไหม แล้วคุณต้องระวังอะไรบ้าง

บรรทุกของหลังรถกระบะขึ้นทางด่วนได้หรือไม่

รถกระบะเป็นรถที่คนไทยนิยมใช้เพราะเป็นรถที่เหมาะกับทั้งการโดยสารและงานบรรทุก การใช้รถกระบะเพื่อขึ้นทางด่วนนั้นตามกฎหมายสามารถทำได้แต่ต้องปฎิบัติตามกฎระเบียบของจราจรทางบก ไม่ว่าจะเป็นน้ำหนักที่กฎหมายกำหนดให้เราสามารถเคลื่อนย้านใส่รถกระบะ ขนาดของสิ่งของที่บรรทุก เพื่อเป็นการป้องกันความเสี่ยงที่และอุบัติเหตุทั้งก่อตัวเองและผู้อื่นๆ ได้
ข้อควรระวังของคนขับรถกระบะ

ขนของหลังรถกระบะต้องติดธง
หากมีการขนของบนรถกระบะต้องมีการติดธง หรือติดสัญญาณไว้บริเวณปลายสุดของสิ่งของที่บรรทุก โดยธงนั้นต้องมีขนาดอยู่ที่ความกว้างประมาณ 30 ซม. และความยาว 45 ซม. ไว้บริเวณปลายสุดของสิ่งของที่บรรทุก และควรมีการมัดให้แน่นคลุมเอาไว้ เพราะการบรรทุกสิ่งของโดยไม่มีการผูกมัดให้มีความแข็งแรงมั่นคงจะทำให้สิ่งของที่บรรทุกต่างๆ เกิดอันตรายต่อผู้อื่น เช่น มีการตกหล่นของสิ่งของ หรือมีบางส่วนที่ปลิวออกไปและไปทำอันตรายต่อรถคันหลัง

ติดไฟสัญญาณสีแดง
หากในช่วงกลางคืนควรคิดเป็นไฟสัญญาณสีแดงเพื่อให้รถคันอื่นสามารถมองเห็นได้ในระยะ 150 เมตรเพื่อป้องกันและเพื่อให้รถคันหลังได้ระวัง อีกทั้งรถกระบะที่ต้องบรรทุกสิ่งของที่เกินออกมาจากตัวรถ กฎหมายกำหนดไว้ว่า ด้านหน้าจะต้องไม่ยื่นเกินหม้อหรือกันชน ส่วนด้านหลังยื่นได้ไม่เกิน 2.50 เมตร หากเป็นรถพ่วงด้านหลังต้องยื่นไม่เกิน 2.50 เมตร สำหรับ ความกว้าง บรรทุกได้ไม่เกินความกว้างของรถ ความสูง กรณีที่รถมีความกว้างเกิน 2.30 เมตร บรรทุกสิ่งของสูงไม่เกิน 3.80 เมตร พร้อมกับติดธงสีแดงให้เห็นชัด

เพียงคุณปฎิบัติตามข้อกำหนดข้างต้นคุณก็สามาถขับรถขึ้นทางด่วนได้อย่างสบายใจไร้กังวลว่าหากจะต้องขึ้นทางด่วน ทั้งนี้หากคุณกำลังมองหารถกระบะที่ทนงานบรรทุกและใช้ในงานโดยสาร นิสสันนาวาร่า กระบะพันธ์แกร่งที่พร้อมลุยกับคุณไปในทุกที่หากคุณสนใจสามารถเข้าไปติดต่อขอทดลองขับได้ที่ศูนย์นิสันทุกสาขาทั่วประเทศ