คิ้ม เปิดใจถึงความสนิทสนม ซานิ ยกให้เป็นลูกสาวในอุดมคติ

ไอดอลหญิงคู่ทะเล้น ซานิ นิภาภรณ์ และ เจนนิเฟอร์ คิ้ม ล่าสุดควงกันเปิดใจผ่านรายการ คุยแซ่บ Show ถึงความสนิทสนม จนคิ้มออกปากว่าซานิคือลูกสาวในอุดมคติ เผยการรับมือคนชอบโชว์ของลับ พร้อมเคลียร์ข่าวเมาท์ ชอบเปย์ผู้ชายรุ่นน้อง อยู่ๆ มาสนิทกันได้ยังไง
คิ้ม : ทำงานด้วยกัน เวลาเราทำงานกับใครจะเห็นตัวตนจริงๆ ของเขา สิ่งที่เห็นไม่ใช่แค่ตอนคุย จะเห็นเวลาที่พูดคุยกับทีมงานรอบข้าง เป็นคนเกรงใจทุกคน พูดจาดีกับทุกคน หายากที่คนเราจะให้เกียรติทุกๆ คน ไม่ได้มองว่าตัวเองเป็นคนมีชื่อเสียง อย่างเวลาเราทำงาน เวลาเราจะตอบอะไร เขาจะรู้ว่ารายการจะเอาอะไร เขาจะไปทางนั้น แล้วมันสนุก

คาแรคเตอร์คนอื่นที่มองเข้ามาซานิแตกต่างไหม เพราะพี่คิ้มพูดเหมือนซานิเป็นคนเรียบร้อย
คิ้ม : เป็นคาแร็คเตอร์ที่คุยกับเพื่อน เพราะกลุ่มเป้าหมายคือกลุ่มคนวัยเดียวกัน หรืออายุน้อยกว่า ถ้ามาฟังคนอย่างเราคงเบื่อขี้เกียจฟัง แต่ถ้าใช้คำใต้สะดือ คุยเล่นกัน เหมือนเพื่อนคุยกัน เหมือนเป็นเพื่อนกันกับคนดู ซานิอยู่ในโหมดนั้น

ซานิเจอพี่คิ้มครั้งแรกเป็นยังไง
ซานิ : เมื่อก่อนซานิทำงานในผับ หยิบเพลงพี่คิ้มมาร้องตลอด ไปเรียนการแสดงพี่คิ้มก็ถูกพูดถึงตลอด ตอนที่ยังไม่เคยเจอเรารู้สึกว่า ทำไมเราเหมือนเดินรอยตามผู้หญิงคนนี้จัง ทุกอย่างคล้ายกันหมด รู้สึกว่าน่ารักจังเลย เจอตัวจริงจากที่เคยคิดว่าพี่คิ้มเป็นคนดุ มีมาดขรึม พอทำงานด้วยจริงๆ พี่คิ้มเป็นคนสนุก เป็นคนเต็มที่แบบคุยมาก่อนเลย ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมคนรอบข้างถึงพูดว่านิเป็นเหมือนพี่คิ้ม เป็นอย่างพี่คิ้มให้ได้นะ

พี่คิ้มยกให้ซานิเป็นลูกสาวในอุดมคติ
คิ้ม : จริง เป็นลูกสาวในอุดมคติ อยู่ข้างนอกรู้สึกว่าขายได้ ให้บริการได้ มองทุกคนเป็นลูกค้า ความก๋ากั่นต้านผู้ชายได้ เอาตัวรอดเก่ง คนที่พูดจาทรงนี้เอาตัวรอดเก่ง ไม่มีผู้ชายคนไหนหลอกได้หรอก ชีวิตไม่ช้ำอกช้ำใจ ถึงแม้ข้างในเป็นคนอ่อนโยนรักแม่ พูดจากับแม่เพราะทุกครั้งเลย แม่ซานิจะบอกว่าตัวเองโชคดีมากที่ลูกสาวรักขนาดนี้ เราอยากได้ลูกสาวแบบนี้ ชอบเด็กแบบนี้

ความทะลึ่งตึงตังทำให้สนิทกันเร็วขึ้นจริงไหม
ซานิ : จริงค่ะ จริงในที่นี้หมายถึงเราคุยเรารู้ว่าลิมิตแค่ไหน เวลาเราเล่นเหมือนเราอยู่ในคณะเดียวกัน คนบอกว่าคนคล้ายกันมักจะได้อยู่ด้วยกัน 

พี่คิ้มเปย์รุ่นน้องผู้ชายจริงไหม
คิ้ม : อย่าเรียกรุ่นน้อง เรียกรุ่นลูก ต้องเรียกเปย์เปล่า เวลาไปกับเพื่อนฝูงเราแก่กว่ามัน เราก็เลี้ยงมัน

เลี้ยงเป็นกลุ่มหรือคนเดียว
คิ้ม : อย่าเจาะจงจำนวน เรียกเป็นซีซันดีกว่า มาเร็วไปเร็ว ไม่ได้เลี้ยงอย่างอื่นเลย เดี๋ยวมันจะเรียกเราว่าแม่ ช่วงไหนอยากเจอใครก็ว่าไป ไม่ได้กินก็มี ไม่ได้ส่งเงินให้เป็นเดือนๆ เจอกันเราก็เลี้ยงข้าว อันไหนเหมาะก็ซื้อให้ เราอยากให้ชีวิตเขาดีขึ้น ผู้ชายยังเปย์ผู้หญิงได้ ทำไมเราจะเปย์ผู้ชายไม่ได้

ความยาวซีซันนึงเท่าไร
คิ้ม : ส่วนใหญ่ไม่เคยเกิน 3 เดือน เพราะหมดงบ คุยไม่รู้เรื่อง มีแฟนแล้ว ก็หายไปเฉยๆ

ซานิเจริญรอยตามพี่คิ้มไหม
ซานิ : ด้วยความซานิรุ่นเด็ก ความเปย์ของซานิ แม่ซานิเป็นคนเก็บเงินหมด คนชอบถามเราเปย์ผู้ชายไหม เราไม่รู้จะเอาเงินที่ไหนมาเปย์ เพราะเราให้แม่หมด เราเปย์อย่างเดียวคือเรื่องหน้า การดูแลตัวเอง ต้องยอมรับว่าเราอายุ 36 แล้ว ถือว่าอายุเยอะ เพื่อนหลายคนแต่งงานไปหมดแล้ว ณ วันนี้เราทำงานเราเปย์ในสิ่งที่เราอยากได้ ถ้าเราดีขึ้นเดี๋ยวอะไรต่างๆ ก็ตามมา

สวยขนาดนี้มีคนขอเลี้ยงไหม
ซานิ : แต่ก่อนตอนหน้ายังไม่เปลี่ยนมี ตอนนี้หน้าเปลี่ยนไม่มีคนมาขอเลย ตอนนั้นบอกว่าขอดูแลได้ไหม แต่ไม่ได้พูดจำนวนเงิน นัดที่แรกขอไปกินข้าวที่ห้าง และอยากซื้ออะไรไปซื้อได้เลย เดี๋ยวรูดบัตรให้ แล้วถ้าหลังจากนั้นโอเคก็ไปต่อ ถามว่าวันนั้นเราอยากไหม เราอยากมาก แต่ไม่ได้ไปอายหน้าเก่า นึกในใจว่าจริงจังกับเราหรือเปล่า เพราะเราเคยโดนคนอื่นบูลลี่ เล่นตลกกับเราแน่เลย คาแร็คเตอร์เราไม่ใช่แบบนั้น เราดูแลตัวเองได้

ซานิอยากทำหน้าอะไรเพิ่มอีก
ซานิ : อยากทำคาง เพราะโหงวเฮ้งเราหน้าสั้น กลัวตายไว เลยอยากทำคาง

ซานิความรักเป็นยังไง มีแฟนเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง
ซานิ : เรายังอยู่ในกลุ่ม lgbtq ยังแฮปปี้ที่จะมองผู้หญิงสวย เราไม่ได้ชอบผู้หญิงหรือผู้ชายไปเลย ยังตอบไม่ได้ คุยกับใครรู้สึกดี ไม่มีภาระทางจิตใจต่อกัน นั่นคือโอเค และยังตอบอนาคตไม่ได้ เพราะอาจลงเอยกับผู้หญิง ก็ไม่มีใครรู้ ตอบยากมาก

ณ วันนี้มีคนคุยไหม
ซานิ : ณ วันนี้ก็มี อายุ 36 แล้ว ถ้าอยากพูดก็จะพูดเอง เรื่องบางเรื่องก็เป็นเรื่องส่วนตัวเก็บไว้ก็ดี เมื่อไรที่มีคนรู้เรื่องเยอะ ดีกัน ทะเลาะกัน ลบรูปกัน คือไม่ลงเองเพราะกลัวลูกค้าจะหาย

ผู้หญิงหรือผู้ชาย
ซานิ : ตอนนี้คุยกับผู้ชาย แต่ก็มีผู้หญิงมาคุยด้วยเยอะมาก คือผู้หญิงก็ไม่ซีเรียสถ้าไปทั้ง 3 คน ซึ่งตนก็ไม่ติด เพราะไม่ผิดในกาม คือคุยและให้เกียรติ

จริงไหมในชีวิตไม่เคยอกหัก
ซานิ : จริงค่ะ เคยเสียน้ำตาให้ความรักไม่ใช่เสียเพราะอกหัก แต่เสียเพราะเสียดายเวลา เสียดายสิ่งที่พ่อแม่เตือนเราว่าคนนี้ไม่ดี เสียใจที่ไม่เชื่อพ่อแม่ เราไม่เคยอกหักไม่เคยจมทุกข์เพราะเราทำดีที่สุดแล้ว

คิ้มเคยรับบทเรียนอะไรจากความรัก
คิ้ม : ความรักเราอย่าไปยึดติดมัน ทำไมต้องเอาความสุขไปผูกกับขาใครคนนึง ทำไมไม่สร้างความสุขด้วยตัวเอง ก็ลองผิดลองถูก อยู่ที่ความเข้าใจ

เห็นเคยหลงแสงสีวงการ
ซานิ : ไม่เคย เพราะไม่มีเพลงดังเลย ไม่มีสิทธิ์จะหลงตัวเองว่าฉันคือนักร้องที่โด่งดังไม่เคยเลย แต่คนที่มีสิทธิ์คือพี่คิ้ม พูดไปคนก็รู้จัก

คิ้ม : ยุคสมัยนั้นเป็นนักร้องกลางคืนเราจะถูกกด พอถึงจุดที่มีวอให้ขึ้น เราก็จะนิดนึงกับเรื่องเงิน กับเรื่องคนไม่เป็น แบบค่าตัวจะต้องได้เท่านี้ แต่พอถึงจุดนึงเรื่องค่าตัวก็พอคุยกันได้บ้าง ทุกอย่างมีความยืดยุ่นถึงจะอยู่ได้ นักร้องดังก็เหมือนถูกหวย นักร้องกลางคืนจะเห็นหมดเพราะเจอย่ำยีอะไรมาเยอะ พอถึงวันที่เหลิงมันก็เหลิงไม่ได้

เห็นว่าโดนโรคจิตส่งของลับ
ซานิ : ส่งว่ากำลังทำกิจทุกเวลา เช้า กลางวัน เย็น เป็นรูป เราก็คิดว่าเป็นแฟนคลับส่งรูปเรา มีหลากหลายมีต่างชาติเยอะ อินโดนีเซียบ้าง เวียดนามบ้าง มีนายแบบอินโดนีเซียก็จะพิมพ์ดีๆ ทักทาย พอเราไม่ตอบ ก็เริ่มส่งช่วงบนมาแล้วก็เริ่มส่งช่วงล่างมา บางทีขอให้เราส่งรูปกลับเราก็ส่งรูปเหวไป เป็นการตอกกลับบ้าง บางทีก็พูดตอกกลับไปในรายการของตัวเองบ้าง