ต่าย อรทัย เจอโควิดพ่นพิษ ผันตัวเป็นแม่ค้าออนไลน์

28 ก.ค. 64 21:35 น. / ดู 1,077 ครั้ง / 0 ความเห็น / 0 ชอบจัง / แชร์
นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง ต่าย อรทัย เปิดใจครั้งแรกถึงความรักสุดช้ำ
พร้อมเผยวิกฤตโควิด-19 ทำพิษต้องผันตัวเองมาเป็นแม่ค้าขายของออนไลน์

ผ่านทางรายการ คุยแซ่บ Show
ช่วงโควิดลำบากไหม
ตอบได้ตรงๆ เหมือนทุกคนเลย ลำบาก เพราะว่าตั้งแต่รอบแรกแล้ว เราก็หวังว่าปลายปี ต้นปีเราจะเริ่มมาลุยงานกันต่อ ลุยต้อได้แค่ 2 เดือน ก็กลับมาเหมือนเดิม ยังไม่ได้เก็บค่าทำบ้านคืนเลย

ทำบ้านด้วย
เมื่อต้นปีก่อนที่โควิดจะมา เราเริ่มรีโนเวทบ้านไปแล้ว แล้วเราก็หยุดไม่ได้ เพราะสัญญาต่างๆ มันลงไปแล้ว

จุดนี้ถือว่าลำบากที่สุดในชีวิตเท่าที่เคยมีมาไหม
ลำบากไหม สุดๆ นะ เพราะว่าเราไม่รู้ว่ามันจะไปจบที่ตรงไหน เราไม่เห็นเลยว่าปลายอุโมงค์มันอยู่ที่ตรงไหน เรารู้ว่าเรามีเป้าหมายเดียวกัน ทุกคนทำทุกอย่างตามมาตรการ แล้วก็ทำมาจนสุดแล้ว จนตั้งคำถามกับตัวเองว่ามันมีอะไรอีกไหมที่เราต้องช่วยกัน ถ้าไปอีกสัก 1-2 ปี ถ้าเรายังไม่มีงานคิดว่าสายป่านที่เรามีมันต้องขาดแน่นอนเลย

ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ จะรีโนเวทบ้านไหม
ตอนนั้นหลังคารั่ว ทุกครั้งที่ฝนตกเราต้องวิ่งเอาถังไปรอง จริงๆ มันตัดสินใจมา 4-5 ปี ถือเป็นการตัดสินใจครั้งใหญ่ในชีวิตเลย ถึงได้ตัดสินใจทำ ทีนี้ถ้าเรารู้ว่ามีโควิดอาจจะคิดว่าเปลี่ยนแค่หลังคาก็พอ

ตอนนี้เปลี่ยนอาชีพขายของ ขายอะไรบ้าง
เริ่มแรกเลยขายเสื้อผ้าของตัวเองนี่แหละ เสื้อผ้าการทำงาน แล้วเสื้อผ้าที่เราใส่ ที่ไม่ค่อยได้ใส่แล้วก็รื้อออกมาไลฟ์แล้วเอาเงินเข้า

ตอนนี้มีอะไรบ้าง
ตอนแรกน้ำพริกกากหมูฝอย หยองกรอบ หยองนุ่ม ขายหมดเลย เราก็ขายแล้วดูตลาดไปเรื่อยๆ ว่าอะไรที่ขายดีที่สุด ก็เหลือแค่อย่างเดียว น้ำพริกกากหมูฝอย แล้วตอนนี้รับขนมปั้นขลิบปลากระพง อันนี้ก็จะตอบโจทย์คนไม่มีเวลา ก็จะไลฟ์ขายประมาณนี้

เพราะวิกฤตอันนี้ทำให้เรามีอีกหนึ่งความสามารถ
น่าจะได้เลย จนทำให้เรารู้สึกว่าอาชีพการร้องเพลง อาจจะเป็นอาชีพเสริมไปแล้วหรือเปล่าในอนาคต บางทีเราไม่รู้เลยโควิดทำให้เราเป็นอย่างนี้ คือคิดไว้ 2 ทางเลย อะไรก็เกิดขึ้นได้

แต่มันก็มีคำครหา ขายของแบบนี้ตกอับหรือเปล่า
เราห้ามไม่ได้เลย ความคิดของแต่ละคนมันเยอะกว่านี้ เราไม่อยากไปโฟกัสที่ตรงนั้น เพราะว่าชีวิตเราไม่ได้มีแค่เราคนเดียว เรามีพ่อ แม่ เพื่อนพ้อง น้องพี่ แล้วก็ครอบครัวของเราอีก ซึ่งถ้าเราลำบากใครจะช่วยเหลือเราถ้าเราไม่ช่วยเหลือตัวเองก่อน สู้ในทุกวันให้ได้

ให้กำลังใจคนที่ประสบปัญหาโควิดในช่วงนี้หน่อย
เป้าหมายเดียวกันเลยค่ะทุกคน ตอนนี้เราอาจจะพูดลำบาก แต่อยากให้ทุกคนที่ยังรอดปลอดภัยอยู่ ขอให้ทุกคนดูแลตัวเองให้แข็งแรง และเข้มแข็งในสถานการณ์นี้นะคะ เชื่อว่าสิ่งที่เรามองจุดเดียวกันจะต้องไปถึงวันนั้นให้ได้ แต่ว่าวันนี้ทุกคนต้องแข็งแรงไว้ก่อน ขอเป็นกำลังใจให้สำหรับทุกครอบครัวเลย


ต้นปีโพสต์ภาพกระต่ายมีน้ำตาเกิดอะไรขึ้น
ก็เป็นอะไรที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน ก็คือเลิกกับแฟน ตรงๆ เลย เราก็รู้สึกว่าคนนี้แหละ เราก็คิดว่าเราดูดีแล้ว รู้สึกมั่นใจ เข้าใจมุมความรู้สึกทุกอย่าง เราไม่คิดว่าเราจะไปเห็นในสิ่งที่เราไม่คาดคิดมาก่อน

เกิดอะไรขึ้น
เราคิดว่าเราดูดีแล้ว แต่ด้วยความที่เราไม่ตาม ไม่ไปสืบดูหรืออะไรให้รู้ มุมนี้ไม่อยากจะโทษใคร เพราะคิดว่าต่างคนต่างต้องมีเหตุผลของใครของมัน ของต่ายเองคิดว่าเราไม่ไปยุ่งเรื่องส่วนตัวอะไรมากมาย เราคิดว่ามันดีที่สุดแล้วสำหรับคนเป็นแฟน แต่ว่าการที่เราสบายเกินไป เราอาจจะไม่ได้เห็นข้อเท็จจริง

สิ่งที่เรารู้มาคืออะไร
ก็เห็นในสื่อ คือปีใหม่พอดี แฟนของเขาโพสต์ว่าตื่นได้แล้ว กินเยอะแล้ว ฉลองหนักไปอะไรอย่างนี้

แฟนของเขา แล้วเราก็แฟนไม่ใช่เหรอ
ใช่ค่ะ ก็เลยคิดว่าต่างคนต่างมีเหตุผล แต่ต่ายก็คิดว่าโอเค เราเห็นภาพนี้แล้ว มันแค่ไปต่อด้วยกันไม่ได้ เชื่อว่าหลายคู่ถ้าเราเจอเหตุการณ์แบบนี้เราน่าจะไปด้วยกันได้ยาก ก็เลยถอยดีกว่า ทำไมถึงโพสต์ เราอยากสร้างเดทไลน์ให้กับตัวเอง จบแล้วเราจะเริ่มต้นใหม่ เราจะต้องเข้มแข็งใหม่

แสดงว่าตลอด 2 ปีกว่าเราคิดว่าเราเป็นคนเดียวในชีวิตเขา
ประมาณนั้น เราก็รู้สึกมั่นใจ เราอาจจะมีเคลือบแคลงใจ แต่มันเป็นมุมของผู้ชายอาจจะมีเหตุผล เราก็คิดว่าคงเป็นเรื่องอื่น ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องนี้

ตอนนั้นความรู้สึกของเราเสียใจหรือเสียดาย
เสียใจสุดๆ เพราะเราคิดว่าใช่แล้ว เราไม่ใช่เด็กๆ เราก็คุยกันด้วยเหตุผลและความรู้สึกที่มันมีให้กัน มันไม่ได้ลุ่มหลง มันเป็นเรื่องที่เราวางอนาคต คือคุยกันไม่ใช่คุยกันเล่นๆ ค่อนข้างจริงจัง เราเสียใจ การให้กับการรับมันไม่เท่ากัน เลยมีความรู้สึกมันไปต่อด้วยกันยาก

จมกับตรงนั้นนานไหม
จมทุกวันนะ แต่เราอยากออกมาจากความรู้สึกที่มันทุกข์ให้ได้ คือรักตัวเองอยู่แล้ว ไม่เคยคิดที่จะทำร้ายตัวเองเลย มันแย่ก็คือแย่ ต้องนอนนะ ต้องกินข้าว ต้องตื่นมาแล้วต้องอาบน้ำ ต้องออกกำลังกาย ต้องดูแลตัวเอง ต้องหากิจกรรมทำ อย่างน้อยเราก็ไม่ได้จมกับความรู้สึกนั้นตลอดเวลา กลับมาตอนกลางคืนมีนอนร้องไห้ไหม ร้อง ก็เราจริงใจ จริงจัง ถ้ามันเจ็บแล้วไม่ร้องไห้ ฟูมฟาย คงไม่ใช่คน ก็บอกตัวเองแบบนี้ เอาให้มันสุดๆ ไปเลย

แสดงว่าจากวันนั้นที่เราตัดแล้ว ไม่เคยเจอเขาเลย
ไม่เคยเจอเลย ไม่เคยได้คุยเลย เพราะว่าตัวเองคือตัดเลย ไลน์บล็อก มือถืออะไรก็นี่หมดเลย แต่ถ้าจะติดต่อมาถามว่าในโลกใบนี้มันทำยากไหม มันไม่ยากหรอก แต่ว่าตั้งแต่วันนั้นมาก็ไม่ได้คุย

อะไรที่ทำให้ลุกขึ้นมาได้ไว แล้วเข้มแข็งได้ไว มีกำลังใจตรงไหน
คือตัวเองด้วย คือชีวิตเราก้าวมาถึงขนาดนี้ ความรักสำคัญไหม สำคัญ เพราะว่าเป็นแรงผลักให้ชีวิตเรา แล้วก็พ่อ แม่ พี่น้องทุกคน ไม่ว่าอะไรเลย ทุกคนถามทุกวันว่านอนหลับไหม เป็นไงบ้าง กินข้าวได้หรือเปล่า เขาก็เสียใจกับเรา แต่เขาไม่ได้มานั่งฟังเราทุกเรื่อง แต่ว่าเขาถาม ไม่ใช่แค่นี้นะ ยังมีอีกหลายคนที่รักเรา เราก็ต้องรักตัวเองอย่าทำให้จม

เขาให้บทเรียนอะไรเราบ้าง
ให้ค่ะ หวังว่าหลายๆ คนเจอความรักอยู่ อาจจะได้ประโยชน์อะไรจากสิ่งที่เล่าให้ฟัง เราคิดว่าดูดีแล้ว มันอาจจะยังดูไม่ดีมากพอ ถ้าโอกาสครั้งหน้าเราได้เจอใคร หรือเราอยากจะเรียนรู้ใคร มันอาจจะมี 5-10 เราอาจจะรู้แค่ 5 ก็ได้ เราไม่ไปถึง 10 ที่มันควรจะเป็น มันทำให้เราเจอใครที่มาทักเราหรือพูดกับเรา แล้วมันมีกลิ่นอายที่จะไปแบบนั้น เราก็จะดูให้ดีมากขึ้น ตั้งใจ ใส่ใจอารมณ์ความรู้สึกตรงนั้นมากขึ้น

#ต่ายอรทัย
แก้ไขล่าสุด 28 ก.ค. 64 21:35 | เลขไอพี : ไม่แสดง | ตั้งกระทู้โดย Windows 10

อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)

ความคิดเห็น

ยังไม่มีความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google