โตมาอย่างดีและไม่ลืมคุณคน! บาส เล่าเรื่องราวความลำบากในอดีต จนก้าวมาถึงวันที่ซื้อรถให้ครูได้

18 ส.ค. 64 18:32 น. / ดู 1,342 ครั้ง / 0 ความเห็น / 0 ชอบจัง / แชร์
หลังจากเคยมาโปรโมต เพื่อนรัก แล้วล่าสุดทาง Maya Chanel ก็เพิ่งปล่อยคลิปที่มีบทสัมภาษณ์เพิ่มเติม
พูดถึงการเติบโตและเส้นทางในวงการของ บาส สุรเดช ที่ไม่หยุดพัฒนาตัวเอง ให้แมะๆ ได้ชื่นใจกับความ
พยายามของลูกชายจนกลายมาเป็น บาสเด็กอ้วน ที่ทุกคนรักอย่างทุกวันนี้
เปิดมาโดนถามถึงความรู้สึกตอนเข้าวงการว่าตอนนั้นเป็นยังไงบ้าง
บาส: ตอนนั้นก็หล่อครับ ตอนนี้ก็ยังหล่อเหมือนเดิม เพราะความหล่อมันไม่หนีเราไปไหน ตอนนั้นก็ 17 เด็กน้อยไม่รู้อะไรเลย ตอนนี้ก็เหมือนเดิม แต่จริงๆ ก็โตขึ้นได้อยู่ในวงการทำงาน ตอนเข้ามาใหม่ๆ ก็งงมากว่าเข้ามาทำอะไรแต่ใจเรารู้ว่ามาทำงานหาเงินเลี้ยงครอบครัว แต่ภาพที่ออกมาเราดูงง เวลาโดนถามชื่อเล่นก็ตอบงงอ๊องจนแฟนๆ เอ็นดู




แต่สิ่งที่ทำให้บาสมีความกล้าที่จะยืนในจุดๆ นี้ก็คือ ครอบครัว ผมมาจากครอบครัวที่ไม่ได้มีฐานะ ได้ค่าขนมวันละ 10 บาทมันลำบากมาก และเราเป็นนักกีฬาปิงปอง ก็มีต้องเปลี่ยนยางเราขอแม่ไม่เคยได้เลย
เราไม่มีจริงๆ จนวันนึงผมอยากหาอะไรทำดูแลทุกคนได้จะได้ไม่ต้องลำบากไม่รบกวนใคร มาจนตอนนี้ก็รู้สึกว่า
โตขึ้นเป็นตัวเองมากขึ้นมีความกล้าอยู่กับแฟนๆ เราก็คุยกันเหมือนแม่ลูกจริงๆ





เรื่องการพัฒนาตัวเอง บาสบอกว่า ทุกคนชอบอวยผมเลยไม่รู้ว่าจะเชื่อได้ไหม เพราะฉะนั้นผมเลยต้องพัฒนาตัวเอง
ไปก่อนไม่ได้รอใครให้เข้ามาชม และคิดว่าตัวเองพัฒนาขึ้นจากวันแรกเยอะมาก ทุกคนลองไปฟังเพลงแรกที่อัดได้เลย
คนธรรมดา ตอนนั้นร้องเพลงยังไม่ได้เลย มาจากเชียงใหม่พูดร้องเพลงใช้จมูกหมดเลยกว่าจะแก้หาย เราฝึกเราซ้อม
มาเยอะจนดีขึ้นมาก และเป็นคนเต้นไม่เป็นด้วย เคยบอกไว้หลายทีว่าเราแอนตี้การเต้นมาก เราเป็นเด็กอ้วนมีห่วงยาง
กลัวว่าทำท่านี้หลังจะโผล่เปล่าเนี้ย ผมเป็นคนขี้อายมาก แรกๆ เวลาอยู่บนเวทีคือผมขี้อายมากไม่กล้าสู้คน คนเชียงใหม่อะตอนยอน เมื่อก่อนมองพื้น ตอนนี้มองฟ้าแทน





ถ้าให้กลับชมเด็กคนนั้น บาสจะบอกว่า ดีใจด้วยทำได้แล้ว เพราะเขาสู้เนาะไอ้เด็กคนนั้น มันสู้มาก
มันไม่มีตังค์กินข้าว ที่อยู่ก็ไม่มี ตอนได้เงินมาครั้งนึงผมซื้อบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปไว้เป็นแพ็ก ตอนนี้มีตังค์กินข้าวแล้ว
ก็ดีใจด้วย เพราะตอนนั้นเป้าหมายได้เป็น Extra ยืนอยู่หน้ากล้องก็แฮปปี้แล้ว และเราเป็น Extra U-Prince
และก็อีกเรื่องนึง Love Songs Love Series แค่นั้นคือแฮปปี้ได้เงินมาด้วยตัวเอง และก็มาโชคดีแคสต์ติด เดื้อนเกี้ยวเดือน จากนั้นเป้าหมายมันก็งอกขึ้นเรื่อยๆ คนเราถ้าเป้าหมายอยู่ที่เดิมแสดงว่าคุณไม่ได้เดินไปข้างหน้าเลย อย่างตอนนี้
เป้าหมายผมก็งอกมาอีกแบบนึง ผมรู้สึกว่า T-Pop กำลังมาแต่ผมไม่ได้คิดถึง แต่ผมคิดถึงเมทัลซึ่งผมว่าคนไทยไม่ฟัง
อยู่แล้วแต่ผมอยากไปต่างประเทศดู ผมฟอร์มวงชวนเพื่อนทั้งในและนอกวงการมา ผมฝึกว้ากอยู่ ต้องโทรหาครูว่าถ้า
เราทำเสียงจะพังไหม คือเราอยากโตในสิ่งที่เราลองสร้างด้วยตัวเอง มันคือสิ่งที่ชอบ คนอาจจะคิดว่าเมทัลหนักฟังไม่ได้
อย่าง One OK Rock ผมชอบมากมันฟังสบาย ดูแล้วชีวิตครั้งนึง Success ที่สุดอยากยืนในอิมแพ็ค และเป็นคอนวงเรามันก็แฮปปี้แล้ว และถ้าไปต่างประเทศได้ผมก็จะไป ร็อคแอนด์โรลล์ เมทัล บัลลาด ผมจะลองลุยดู





โมเมนต์วันแรกเกี่ยวกับแฟนคลับที่บาสจำได้ ตอนแรกมีกันอยู่ 4 คนถือดอกไม้ใบเตยมาให้ผม
ตอนนั้นยังเป็นนักแสดงสมทบอยู่เลย ผมดีใจมากมีคนมาชอบเรา เพราะอยู่โรงเรียนเราเป็นเด็กอ้วน
เพราะไม่เคยมีใครมาชอบผม แต่ตอนม.ปลายก็มีสาวมากรี๊ดเพราะผมหล่ออยู่ ตอนนั้นก็แปลกใจด้วยที่มีแฟนๆ
เอาดอกไม้มาให้ และเขาก็บอกว่าถ้าวันไหนพี่เลิกตามเอาอันนี้มาคืนด้วย ทุกวันนี้เขาก็ยังอยู่ 5 ปี ยังจำเขาได้ แต่ว่า
ดอกไม้กรอบไปแล้ว งั้นก็เลิกตามไม่ได้แล้วนะ ไม่รู้จะคืนยังไง เพราะดอกไม้มันกรอบแล้ว ส่วนตอนนี้ผมก็เป็น
ผู้ให้เหมือนเดิม ล่าสุดผมก็เพิ่งให้รถกับครูไป คือเรามีครูที่เชียงใหม่ที่คอยสอนดูแลเราแต่เขาเสียไปแล้วเรายังไม่ทันได้ทำอะไรให้เขา เลยรู้สึกว่าถ้าครูอีกคนถ้าเราไม่รีบทำอะไรให้กลัวจะสายไป ครูคนนี้เป็นครูสอนปิงปองที่ขับมอเตอร์ไซต์ทุกวัน ถ้าล้มก็กลัวจะสอนไม่ได้และเคยเกิดเหตุการณ์นั้นจริง เลยรู้สึกว่าถ้าครูมีรถยนต์น่าจะสอนได้รายได้ครู
จะได้ไม่หาย เลยซื้อรถยนต์ให้แต่มันแลกกับหลายอย่างที่เขาคอยดูแลสั่งสอนให้เราเกเรอยู่ในกรอบเกณฑ์
เวลาเดินทางไปแข่งปิงปองที่ต่างจังหวัดครูก็สอนซื้อตั๋วรถยังไง เลยตอบแทนเขาตอนที่เรายังทำได้





พูดถึงแฮชแท็ก บาสเด็กอ้วนที่แท้จริง ว่ามีความผูกพันยังไงบ้าง
บาสบอก ก็อยู่กับผมมาหลายปีแล้ว ก็ควรจะอยู่กับผมตลอดไป ใครจะมาเป็นเด็กอ้วนที่แท้จริงไม่ได้
เพราะวงการนี้เขาไม่มีคนอ้วนมีแต่คนหุ่นดีแต่ผมก็น่ารัก ผมก็พยายามผอมจริงๆ นะ กินคลีนงดขนม
พอมาดีละ แม่แม่ก็เอาละไม่เอาลูกผอม ซื้อขนมซื้อข้าวเต็มออฟฟิศ บางทีคิดว่าโรงทาน เห็นแล้วก็ต้องกิน
ผมมีความสุขที่ได้กิน คนอื่นนักแสดงในวัยเขาผอมมี six pack กันมีผม Chubby ไม่เหมือนใคร เป็น
คาแร็กเตอร์ไปแล้ว และทุกคนเปลี่ยนให้ความไม่มั่นใจนี้เป็นการชอบในตัวตนของเรา บางคนบูลลี่อ้วน
คุณเอาอะไรมาตัดสินว่าคนอ้วนดูไม่ดี ทุกคนมีดีมีคุณค่าในตัวเองอยู่แล้ว






แล้วทีมงานย้อนถามว่าตอนซื้อรถให้ครู ครูพูดว่าไงบ้าง
บาสก็เล่าให้ฟังว่า ครูบอกพูดเล่นพูดจริงเนี่ย ครูตกใจมาก ลูกศิษย์ครูที่มีฐานะไม่เคยทำให้ครูขนาดนี้เลย
เราก็บอกผมไม่ได้มีฐานะอะไร ผมไม่อยากให้ครูลำบากเสียรายได้ ไม่อยากให้ตากแดดตากลมอยากให้ครูสบาย
ผมก็ภูมิใจ เพราะตอนเด็กผมไม่มีเงิน เวลาปีใหม่คนอื่นก็จะมีของให้ครูแต่ผมได้แค่มองเราไม่มี แค่ตังค์ซื้อน้ำเอาไว้ซ้อมเรายังซื้อน้ำขวดละ 5 บาทอยู่เลย พอโตมาเรามีอะไรที่พอจะทำให้เขามีความสุขสบายได้เราก็ต้องทำ

ความกตัญญูเอื้อเฟื้อนี้ โตมาอย่างมีคุณภาพจริงๆ 





#บาสสุรเดช

ขอบคุณภาพและคลิปจาก
YT: MAYA CHANNEL
@CholChun  @ArmTaen9 @Sushikontolove2
FB: ปิงปองสนชัยเชียงใหม่
แก้ไขล่าสุด 19 ส.ค. 64 09:32 | เลขไอพี : ไม่แสดง | ตั้งกระทู้โดย Windows 10

อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)

ความคิดเห็น

ยังไม่มีความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google