จากโปรกอล์ฟดาวรุ่ง เปรม เล่าจุดเปลี่ยนว่าทำไมเขาถึงเลือกหันหน้าเข้าสู่วงการบันเทิง

21 ส.ค. 64 15:56 น. / ดู 1,354 ครั้ง / 0 ความเห็น / 0 ชอบจัง / แชร์
ได้ยินและรับรู้กิตติศัพท์ของความน่ารักความแก้มก้อนเป็นซาลาเปาของ เปรม วรุศ กันไปเยอะแล้ว
ล่าสุดก็ได้มาพูดคุยถึงเรื่องราวในการเข้าสู่วงการบันเทิง และความชื่นชอบหลงใหลในการตีกอล์ฟ จนถึงขั้นเคยไปลงแข่งขัน
และมีดีกรีเป็นแชมป์กอล์ฟระดับภาคแมตช์ TGA เยาวชนอายุไม่เกิน 18 ปี มาแล้วกับทางรายการ Sport Zabb



จุดเริ่มต้นในการเป็นนักกีฬากอล์ฟดาวรุ่งของเปรมนั้นอย่างที่แฟนๆ หลายคนทราบกันคือคุณแม่ของเขาพาไป
สนามกอล์ฟเพราะตอนนั้นเจ้าตัวกำลังติดเกม PangYa พอได้ไปแล้ว เปรมบอกว่า ตอนแรกผมชอบเลยนะ เราได้ไปเจอเพื่อน มีสังคมกอล์ฟ จนตีไปเรื่อยๆ กลายเป็นเราติดกีฬากอล์ฟ จากตอนแรกตีเล่นๆ เป็นงานอดิเรกก็เริ่มจริงจัง เริ่มไปแข่ง ยึดเป็นอาชีพ ตอนแรกที่ผมไปตีเป็นโปรประจำสนาม หลังจากนั้นรู้สึกความรู้ไม่เพิ่มแล้ว ก็เดินทางไปต่างจังหวัดทุกอาทิตย์ ไปซ้อมกับโปรอีกคน ส่วนใหญ่ที่ได้ไปแข่งเป็นรายการเยาวชน TGA สมาคมกอล์ฟเยาวชนแห่งประเทศไทย ซึ่งกว่าจะตีจนเริ่มไปแข่งได้ ก็ใช้เวลาประมาณปีได้ เพราะต้องซ้อมตีให้มันไม่เละมาก ไปแข่งครั้งแรก ตีไม่ดีเลย แต่อยากลองแข่ง อยากได้ฟีลบรรยากาศ




เล่าพาร์ทของการซ้อมให้ฟังด้วยว่า แต่ก่อนเคยไปอยู่แคมป์ไปกินนอน 1 เดือน ตี 4 ครึ่ง ตื่นมาวิ่ง วิ่งเสร็จ ว่ายน้ำ
พักช่วงก่อนถึงเที่ยง ซ้อม 5 ถาด พักกินข้าวซ้อม 5 ถาด เป็น 10 ถาดต่อวันใช้ชีวิตอยู่อย่างนั้น พูดแล้วก็รู้สึกไม่น่ากลับไปแล้ว แต่ชีวิตนึงได้ลองก็รู้สึกดี ซึ่งชีวิตวัยรุ่นตอนนั้นก็แทบจะไม่มีเลย ตอนที่ซ้อมหนักๆ ผมจะได้ดูหนังคือช่วงที่สอบเสร็จ
ชีวิตคือจันทร์ถึงศุกร์ เลิกเรียนเพื่อนไปเรียนพิเศษ ผมอยู่สนามกอล์ฟสนามไดร์ฟทุกวัน เสาร์อาทิตย์เดินทางไปต่างจังหวัด
เช่าโรงแรมอยู่ แต่ก็ไม่เคยรู้สึกเสียดาย
ในการฝึกฝนตอนนั้นเปรมก็ยอมรับว่ามี ท้อ เหนื่อย เคยร้องไห้ บางครั้งกีฬากอล์ฟผมรู้สึกไม่พัฒนาสักที ซ้อมเท่าไรก็ไม่เก่งขึ้นเลย ต้องพยายามอย่าเครียดปล่อยโฟลวไปกับมัน ซึ่งเป็นเสน่ห์ของกีฬาที่อยู่กับตัวเองสูง มันไม่ใช่กีฬาที่เป็นทีม ทำอะไรต้องมีสมาธิสูง ผมรู้สึกว่ากีฬากอล์ฟมันเชือดเฉือนกันที่ความนิ่ง ใจล่อกแล่กนิดหน่อย ตีไม่ได้แล้ว แต่นอกจากกอล์ฟแล้วเปรมก็เล่นทั้ง ทั้งบาส ทั้งฟุตบอล เป็นนักวิ่งด้วย เล่นทุกอย่าง แต่ว่ามีกีฬากอล์ฟที่จริงจังที่สุดครับ จริงๆ เป็นคนที่ชอบกีฬาอยู่แล้ว แต่ก่อนผมเตะบอลทุกวัน




แต่ถึงจุดหนึ่งเปรมก็รู้สึกว่า แต่ก่อนเราอาจจะหลอกตัวเองก็ได้ว่าเราอยากเป็นนักกีฬากอล์ฟ เลยลองหยุดดู ผมรู้สึกว่าโลกนี้มีอะไรอีกเยอะแยะที่ผมยังไม่ได้ทำ เลยตัดสินใจบอกพ่อแม่ว่าผมขอเลิกนะ ตอนนั้นเขาก็เครียดจริงๆ ก็ไม่อยากไปว่าที่เขาคาดหวังมันก็เป็นเรื่องปกติเพราะเขาก็จ่ายตังค์ค่าสอน แต่เขาก็เข้าใจสุดท้ายชีวิตมันเป็นของผม เขาให้ผมเลือกเอง ที่ตัดสินใจบอกไปแบบนั้นเพราะผมรู้สึกว่า ผมไม่ได้รักกีฬานี้ขนาดนั้น ผมไม่สามารถเอากีฬากอล์ฟมาเป็นอาชีพได้ สำหรับผม
การจะทำอะไรถึงขั้นเป็นอาชีพได้ผมต้องรักมัน





ก่อนจะมาเป็นหนุ่มแก้มซาลาเปาที่พวกเรารู้จักกันทุกวันนี้ อดีตโปรกอล์ฟดาวรุ่งก็โดนถามว่ามาเข้าสู่วงการบันเทิงได้ยังไง?
เปรม: ผมเคยประกวดหนุ่ม Pop Davance เป็นสถานที่เรียนพิเศษ แล้วผมได้ที่ 1 ตอนนั้น อยู่ๆ มีพี่เขามาชวนไปแคสต์งาน ด้วยความที่ตอนนั้นผมกำลังเข้ามหาลัย ไม่มีอะไรทำ ตอนนั้นก็เลิกเล่นกอล์ฟไปแล้ว ผมเลยอยากหาอะไรทำใหม่ๆ ก็ได้ไปแคสต์โปรเจ็กต์เพลงเป็นบอยแบนด์ แล้วมันไม่ประสบความสำเร็จ ก็กลับมาใช้ชีวิตนักศึกษาธรรมดา จนวันหนึ่งมีพี่เรียกไปแคสต์ซีรีส์ ด้วยความอยากลองเล่นอยากแสดง ก็ไปแคสต์คือ ด้ายแดง เป็นเรื่องแรกที่เล่น และเป็นซีรีส์ที่ทำให้ผมมาถึงทุกวันนี้ จริงๆ ตอนนี้ยังไม่รู้สึกว่าตัวเองประสบความสำเร็จ แค่อยู่ในระหว่างการเดินทาง ผมก็ไม่รู้ว่าจุดสิ้นสุดของผมมันคือตรงไหนเหมือนกัน




วินัยการดูแลตัวเองระหว่างเป็นนักแสดงกับนักกีฬา ความต่างเป็นยังไง?
เปรม: ตอนเป็นนักกีฬามีเยอะกว่านี้ ตอนนี้มันเหมือนเราคลำทาง ถ้าเรารู้สึกตรงนี้ทำงานพลาดไป ก็เก็บมาคิด มาเปลี่ยน มาทำให้ดีขึ้น ตอนนี้อยู่ในช่วงปรับตัวเรื่องระเบียบวินัยต่างๆ ค่อยๆ เรียนรู้เรื่อยๆ ตอนเข้ามาทำงานแรกๆ ผมไปสายไม่ตรงเวลาทำงานไม่ตั้งใจ จนตอนนี้ก็รู้ว่าต้องทำอะไรก่อนออกรายการต้องทำแบบนี้ มันกลายเป็นระเบียบวินัยโดยที่เราก็ไม่รู้ตัวเหมือนกัน แต่นักกีฬาส่วนใหญ่คือ routine ทำอะไรเหมือนเดิมแทบทุกวัน แต่วงการบันเทิงคือไม่เหมือนเดิมสักวัน ผมชอบวงการเพราะตรงนี้ด้วย บางวันดีก็ดีไปเลย บางวันแย่ก็แย่ไปเลย ผมชอบมันได้ทำสิ่งใหม่ๆ ตลอดเวลา




และการมาอยู่จุดนี้เปรมก็กลายเป็นอีกหนึ่งหนุ่มที่มีแฟนๆ ติดตามและให้การซัปพอร์ตอย่างเหนียวแน่น
กิจกรรมดีดีที่ทำร่วมกับแฟนคลับก็มี อาทิ การที่แฟนคลับรับโดเนท ไปสร้างห้องสมุดให้โรงเรียนที่เขาไม่มีห้องสมุด ตอนนี้สร้างเสร็จแล้วครับ อยู่จังหวัดบ้านเกิดผมจังหวัดอุบลฯ และสิ่งที่เปรมอยากทำหลังจากนี้ คือไปในเส้นทางการแสดงให้ถึงที่สุด อยากลองรับบทคนเอ๋อ เป็นคนออทิสติก บทที่ยากๆ ไปเลย




พร้อมพูดให้กำลังใจกับทุกคนที่ประสบกับปัญหาโควิดในตอนนี้ว่า มันไม่ได้กระทบแค่กลุ่มคนหนึ่ง มันทั่วทุกคน
ก็อยากเอาใจช่วยทุกคน ถึงแฟนคลับ พี่ๆ หรือคนที่ดูอยู่ตอนนี้  มันเป็นอะไรที่ผ่านไปได้ยาก แต่ผมคิดว่ามันก็ต้องผ่านไปได้
สิ่งสำคัญคือกำลังใจและวัคซีนครับ
ก่อนจะฝากผลงานว่าเดี๋ยวจะมี 7 Project ครับที่ไม่รู้จะออนแอร์เมื่อไร เร็วๆ นี้
แล้วก็โปรเจ็กต์ใหญ่ของผมก็คือ เชือกป่าน ได้ดูแน่นอน แต่ไม่รู้เมื่อไร ยังไงก็ฝากด้วยนะครับผม เร็วๆ นี้เหมือนกัน




#เปรมวรุศ

ขอบคุณภาพและคลิปจาก
True Vision
@Prem_space
แก้ไขล่าสุด 22 ส.ค. 64 00:24 | เลขไอพี : ไม่แสดง | ตั้งกระทู้โดย Windows 10

อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)

ความคิดเห็น

ยังไม่มีความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google