มิว กับโหมดนายแบบ ที่ถึงแม้จะพาน้องหมาตัวโปรดเข้าเซ็ตด้วย แต่ก็หยุดความฮอตปรอทแตกไม่ได้!

เข้าสู่โหมดนายแบบแล้วไม่อ่อนโยนเลยจริงๆ สำหรับหนุ่ม มิว ศุภศิษฏ์ ในการถ่ายแฟชั่นเซ็ตกับทาง
Pet Hipster ที่เซ็กซี่ฮอตปรอทแตกไม่ไหว แต่ยังดีที่ได้เจ้าช็อปเปอร์มาร่วมเซ็ตเพิ่มความคิ้วท์ทำให้
เหล่ามิวเลี่ยนส์หัวใจไม่ทำงานหนักจนเกินไปนัก


ก็ไม่ให้ลมจับยังไงไหวก่อน ดูการใส่เสื้อของคุณเขาสิ
ดีที่ทีมคอสตูมยังมีความปรานีใส่เสื้อกล้ามข้างในไว้ให้ เพราะที่นายแบบใส่จริงก็คือ 








เซ็ตเสื้อคอเต่าสีส้มกับสร้อยไข่มุกจริตการโพสต์ถึงแม้จะอุ้มช็อปเปอร์
ก็ไม่ได้ดร็อปความไฮแฟชั่นลงแต่อย่างใด






ที่ทำว้าวอีกคือมิวกับส้นสูง ก็เป็นอะไรที่กิ๊บเก๋ยูนีก






ความหันข้าง เบี่ยงหน้า อินเนอร์ท็อปโมเดล 




ชอปเปอร์ก็ใช่ย่อยนะ ยิ้มแฉ่งเข้าเซ็ตมาเลย 




แต่ช็อปเปอร์ต้องบอกพี่มิวเซ็ตนี้ให้เบาได้เบานะ ไม่งั้นโพมารดาจะไม่เหลือเอา ;-;








ซึ่งนอกจากจะมาถ่ายแบบด้วยกันแล้ว แน่นอนต้องมีบทสัมภาษณ์มาฝากชาวมิวเลี่ยนส์ทุกคนด้วย
มิวบอกว่า เขาถ่ายแบบกับช็อปเปอร์มาหลายรอบแล้วเขาเก่ง วันนี้ก็นิ่งดี
แล้วเห็นน่ารักสดใสแบบนี้เจ้าช็อปเปอร์มีอายุ 8 ขวบแล้ว และเป็นหมาที่มีฟังก์ชั่นน้อยมากๆ ขึ้นบันไดได้ขั้นเดียว
ทำให้เวลาตั้งไว้บนเก้าอี้หรือโซฟาก็จะไปไหนไม่ได้แล้ว แต่ว่าน่ารักมากๆ เวลาฉี่อึก็เป็นที่เป็นทาง




และถ้าให้มิวพูดถึงตัวเองว่าเขาเป็นคนยังไง
มิว: มีหลายมุมมากๆ ถ้าแฟนๆ ได้ติดตาม ผมก็เหมือนคนทั่วไปที่มีมุมมองหลากหลายในทุกๆ อย่าง บางครั้งก็จะเป็นคนที่จริงจัง ตลก บางครั้งพูดเยอะพูดน้อย สลับกันไปตามอารมณ์ ที่เห็นชัดสุดน่าจะเป็นความจริงจังตั้งใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการทำงาน หรือพักผ่อนก็ตั้งใจมากๆ เวลาใครกวนก็จะโมโห




สิ่งที่ไม่ชอบในตัวเอง
มิว: ค่อนข้างอารมณ์แปรปรวน พอเราได้มาศึกษาเรื่องการแสดง มันทำให้เรามีสติ
รู้เท่าทันอารมณ์ตัวเองได้เยอะขึ้นมากๆ และก็เก็บไอ้ตัวพวกเนี้ยมาใช้ในการแสดง หรือจำได้ว่าความรู้สึกเหล่านี้
ถ้าเราต้องการเรียกออกมามันเกิดจากสถานการณ์ไหนบ้าง




ในมุมคนรู้จักจะคิดว่ามิวเป็นคนแบบไหน
มิว: ถ้าคนรู้จักก็จะรู้ว่าผมติสต์ๆ หน่อยแล้วแต่อารมณ์ แต่ว่าคนที่ไม่ได้รู้จักเลย
ด้วยความที่หน้าผม มันจะมีฟีลนิ่งๆ บางคนอาจจะกลัวแต่ผมไม่น่ากลัวนะครับ




แล้วถ้าถามคุณเขาว่าอยากอยู่กับคนแบบไหน เจ้าตัวบอก อยากอยู่กับคนเปิดใจ ทุกคนมีความคิดของตัวเองแหละ
แต่สุดท้ายเขาจะยอมลดทิฐิตัวเองเพื่อทำความเข้าใจคนอื่นรึเปล่า สำหรับคนที่ผมอยู่ด้วยได้ต้องมีความเข้าใจตัวเอง
เข้าใจคนอื่นด้วย




การจัดการกับคำวิจารณ์ที่เข้ามา มิวก็มองว่า เขาแยกแยะได้เพราะคำวิจารณ์ทำให้เราพัฒนามากขึ้น
คำวิจารณ์จริงๆ จะเต็มไปด้วยเหตุผลไม่ได้แฝงด้วยอารมณ์ แต่ถ้ามีอารณ์หรือมีความไบแอสก็จะมองข้าม




ส่วนด้านที่คิดว่าคนยังมีไม่รู้จักเกี่ยวกับตัวตนของมิว
คุณเขาหยิบเรื่องที่ตัวเองเป็นคนกลัวสัตว์ตระกูลจิ้งจกตุ๊กแกมาเล่า เพราะตอนเด็กๆ เคยเห็นจิ้งจกเข้าไปในแอร์ แล้วไส้ไหลหัวขาดสยองมาก จากนั้นก็กลัวมาตลอด แต่ถ้าเรื่องใหม่ๆ ผมเป็นคนไม่เก่งภาษามากๆ
โตมาเลยต้องเรียนภาษาอังฤษอยู่เลย ช่วงหลังฝึกเยอะมากๆ กับอาจารย์ที่อยู่แอลเอวิดีโอคอล เพราะมีการสัมภาษณ์
กับต่างประเทศเยอะมากขึ้นทำให้เราต้องฝึกภาษา




คาดหวังอะไรตัวเองในอนาคตข้างหน้า
มิว: คาดหวังได้อยู่กับช็อปเปอร์ไปนานๆ และหวังว่าจะได้ไปเล่นหนังซีรีส์
และผลงานเพลงที่ต่างประเทศ
ดูจากความรักความมุ่งมั่นตั้งใจของคุณเขาทุกสิ่งไม่ไกลเกินเอื้อมเลย 



#มิวศุภศิษฏ์