มิว กับ 11 ปีในวงการ กว่าจะมีวันนี้ เส้นทางไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ และมีครูเป็นตัวเองในอดีต

หลังเคยไปแจกความสดใสในรายการวาไรตี้เม้าท์มอยอย่าง Lady Plaza มาแล้วเมื่อช่วงเดือนเมษายน
ล่าสุด มิว ศุภศิษฏ์ ก็กลับไปเยือนรายการนี้อีกครั้ง พร้อมพูดคุยถึงไลฟ์สไตล์ส่วนตัวต่างๆ เป็น Fun fact
ฉบับอัปเดตที่เหล่ามิวเลี่ยนส์ต้องรู้


โดนพิธีกรทักว่าหุ่นเป๊ะปังตลอด เลยถูกถามว่ามีช่วงที่เคยกินจนหุ่นพังไหม
คุณเขาบอก ก็มีเป็นบางช่วง อย่างช่วงโควิดที่ผ่านมาน้ำหนักขึ้นมา 7 โล จากตอนแรก 70 เป็น 77
แบบเวลายิ้มแก้มก็จะเยอะ แต่ก็กลับมาออกกำลังกายคุมอาหารคุมแคลอรี่ ก็ลงมาเยอะ




แล้ว 3 สาว พิธีกร ตั๊ก ชมพู่ ลำไย เขาบอกเวลาแขกรับเชิญชายมาต้องขอดู six pack เลยตั้งชาเลนจ์กัน
ถ้าทำสำเร็จจะได้ดู six pack คุณมิว แล้วพิธีกรคือมากความสามารถมาก โดนท้าให้เลียข้อศอก ให้ซ่อนตาดำ
ก็คือทำได้หมดเลย XD




แต่ของตั๊กยากสุด ให้เอามือไขว้หลังแล้วอ้อมมาจับสะดือตัวเองให้ได้ ขนาดเจ้าตัวรีเควสแท้ๆ ยังทำไม่ได้เลย
สรุป 3 พธก.รวมถึงคนดูอย่างพวกเรา นกอดดู six pack คุณเขาค่าาา




จากนั้นถูกถามถึงประเด็นดราม่าที่ต้องเจอและวิธีการรับมือ
มิว: เพราะว่าเราก็มีผลงานการแสดงด้วย เรื่องงานเพลง เรื่องงานศิลปะต่างๆ ด้วยครับ ซึ่งพวกงานศิลปะอะไรพวกนี้มันแล้วแต่รสนิยมคนอยู่แล้ว มันจะเกิดคอมเมนต์บางครั้งเราทำไม่ถูกใจเขานี้ ก็จะเจอคอมเมนต์ว่านู่นว่านี้ เคยเจอเหมือนว่าครอบครัว ว่าไปยันอาจารย์ที่ปรึกษาก็มี ต้องบอกว่าช่วงแรกๆ ก็เครียดอยู่แล้ว เจออะไรนี้มันค่อนข้างจะกระทบจิตใจเราอยู่แล้ว แต่พอไปเรื่อยๆ เวลาผ่านไปเรารู้สึกว่าเหมือนพอเราเอาใจมาอยู่กับคนที่เกลียดเรา มันกลายเป็นว่าคนที่รักเราล่ะ ทำไมไม่เอาเวลาส่วนนี้ไปให้คนที่เรารักเราดีกว่า ก็เลยรู้สึกว่าช่วงหลังมา เราเลยกลับมาย้อนคิดแล้วก็ เหมือนโฟกัสกับคนที่รักเราดีกว่าครับ




ได้ทำมาหมดทุกอย่างแล้วในวงการ อะไรอีกที่อยากจะทำ
มิว: ตั้งแต่เด็กแล้ว อยากเป็นนักบินอวกาศ คงเท่ดี ได้มีโอกาสดูโลกจากอวกาศในอีกมุมมองนึง
และเป็นคนเชื่อเรื่องสิ่งที่อยู่นอกโลก ว่าต้องมีดาวที่คล้ายๆ โลกในจักรวาล เลยรู้สึกว่าคงจะเป็นไปได้ที่มีเอเลี่ยน
แต่ถ้าได้มีโอกาสขึ้นยานอวกาศจริงๆ ก็น่าจะเสียวเพราะผมเป็นคนกลัวความสูง ถ้าไปเล่นรถไฟเหาะก็เสียวท้อง
ถ้าพูดเรื่องกลัวความสูงของมิวมิว คลิปนี้เป็นอีกหนึ่งตำนานเลย XD

https://twitter.com/TAOFAII/status/1391391112477122568


และกิตติศัพท์ที่เป็นคนที่ชอบสะสมฟิกเกอร์ตัวการ์ตูนมาถึงรายการนี้เลย ส่วนที่สะสมมาถ้านับเป็นจำนวน
ก็เป็นพันชิ้น เพราะสะสมมาตั้งแต่ประถม พอพูดถึงตัวการ์ตูนที่ชอบคือ วันพีซ
ขำแม่ตั๊กบอก มิวจะสะสมชุดวายน้ำทำไม 55555555




พูดถึงเรื่องที่ชอบแล้ว ถ้าเรื่องที่ไม่ชอบแน่นอน มิวไม่ชอบจิ้งจกตุ๊กแก เคยเจอตอนขับรถแล้วจิ้งจกตกมาจากต้นไม้
เราก็จะเห็นท้องใสๆ เลย แล้วด้วยความตกใจก็เลยเปิดที่ปัดน้ำฝน ซึ่งอันนี้คุณเขาเล่าบ่อยว่าตอนเปิดที่อัดน้ำฝน
แล้วท้องมันก็แตกไส้ไหลงี้เลยกลัว แต่มารายการนี้เล่าไม่จบ เพราะโดนพิธีกรแกล้งเอาตุ๊กแกปลอมมาแกล้ง แต่เป็นการตกใจ
ที่สุภาพมาก ไม่มีสบถสักคำ XD




ก่อนจะเล่าในเคสของตุ๊กแก ก็คือเคยมีโอกาสไปค้างที่บ้านสวนเพื่อน แล้วตุ๊กแกที่บ้านเพื่อนเยอะมากๆ
แล้วเคยเจอน้องเกาะที่หน้าต่าง แบบยืดตัวแล้วค่อยๆ หดตัวก็จะกระโดดพุ่งมา ตุ๊กแกกระโดดไกลมาก
ถ้าอยู่ข้างนอกผมตายไปแล้ว
โดนแกล้งให้สะดุ้งอีกรอบไปอี๊ก เอ็นดู

https://twitter.com/Inn_nn16/status/1454305648489889794


เรื่องความเพียรพยายาม และการไม่ยอมแพ้ของคุณกับเส้นทางในวงการบันเทิงของคุณเขา
ก็ถูกพูดถึงให้แฟนๆ ภูมิใจอีกครั้ง ที่แต่ก่อนแคสต์งานหลัก 100 ผ่านหลัก 10 จากช่วงแรกที่คิดว่าแบบนี้คือได้ลองงาน
ได้อยู่หน้ากล้อง แต่พอไม่ไ่ด้เรื่อยๆ ก็ท้อมากๆ ช่วงนึงเลยรู้สึกว่าเป็นที่เราเองรึเปล่าที่ไม่เก่งพอ ก็เลยหายไปเรียนแอคติ้ง 2 ปี
และใช้เวลากว่า 11 ปี กว่าจะมีชื่อเสียงจนทุกวันนี้ แต่ก่อนก็มีงาน ถ่ายแบบ ถ่าย MV เล่นหนังสั้น รับเชิญละคร แล้วค่อยมา
เล่นซีรีส์ จนทำงานเพลง




แถมยังเล่าเรื่องที่ชอบเล่นกีฬาในสมัยเด็กให้ฟังด้วยว่า ตอน ป.1 ทั้ง วิ่ง ว่ายน้ำ ตีแบต แต่เล่นบ่อยสุดคือ รักบี้
แต่ตอนนั้นผอมมากๆ เพราะอาหารที่โรงเรียนไม่อร่อย เลยกินข้าวน้อยตัวแห้งๆ ถึงปะทะแล้วปลิว ก็วิ่งเร็วๆ แทน
พร้อมเล่าถึงตอนไปแข่งรักบี้ที่ญี่ปุ่นแล้วโดนรองเท้าสตั๊ดเหยียบน่องเป็นหลุม เลยกลับมาสร้างความแข็งแรงด้วยการดื่มนม
ตอนพักเที่ยงที่โรงเรียนอาหารจะเป็นถาดหลุมคือเลือกกินไม่ไ่ด้  อาจารย์จะชอบมาตรวจว่าได้เกรดเท่าไร ผมได้เกรดหนึ่งตลอด แต่ชอบเอาเงินที่ได้จากคุณแม่ไปซื้อนมกินเอา
และที่ตัวยืดมาถึงขนาดนี้ได้ คุณเขาเคยบอกว่า กินนมวันละแพ็คเลยแต่ก่อน




และการเล่นกีฬาหรือทำกิจกรรมตอนเด็กๆ เจ้าตัวก็คิดว่าได้หล่อหลอมให้เขาเป็นอย่างทุกวันนี้
เพราะว่าการเล่นกีฬามีทั้งชนะและแพ้ด้วยได้ฝึกทั้งกายทั้งใจ การที่เราแพ้ทำให้แข็งแกร่งมากขึ้น
เวลาที่เราล้มและลุกขึ้นมาใหม่มันได้พัฒนาและเป็นแบบทดสอบในการพุ่งชนอุปสรรคต่างๆ ในวันพรุ่งนี้
และวันต่อๆ ไปด้วย ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะแพ้ แต่ว่าเราเอาการล้มของเราความผิดพลาดของเรามาทำอะไรกับชีวิต
ของเราได้บ้าง เพราะผมรู้สึกว่า ครูที่สำคัญที่สุดคือตัวเราเอง ตัวเราในเมื่อวานในเมื่อก่อน เราเอาข้อผิดพลาด
มาปรับปรุงตัวเอง ยิ่งลุกได้เร็วเท่าไรโอกาสที่จะเกิดขึ้นกับตัวเองก็มีมากเท่านั้น




แม่ตั๊กยังบอกว่าชอบความคิดมิว แถมยังชมอีกว่า คนบ้าอะไรเจอกี่ทีก็ยิ้ม ลำไยบอกมันก็เป็นพลังให้เรา
ชมพู่เองเลยถามว่า มีบ้างไหมที่เหนื่อยมากแต่วันนี้ไม่สบายแต่ต้องแจกยิ้ม
มิว: มีครับ แต่ว่ามันอยู่ที่จุดประสงค์ของเราด้วย เรามาเพื่อสร้างความสุขให้กับคนดู
เรามาเพื่อตอบแทนความรักให้กับแฟนๆ เขามีความสุขเราก็มีความสุข สุดท้ายเราเอาสิ่งนี้มาเป็นพลังซึ่งกันและกัน



#มิวศุภศิษฏ์