เปิดประเทศแล้ว แต่ วิกฤตโควิด19 ยังส่งผลกระทบต่อธุรกิจสายการบินอย่างหนัก

21 พ.ย. 64 10:34 น. / ดู 13,907 ครั้ง / 2 ความเห็น / 0 ชอบจัง / แชร์
ได้อ่านข่าว จากเพจ กรุงเทพธุรกิจ 
ข่าว สายการบิน ไทยแอร์เอเชีย ประกาศปลดพนักงาน หลังจากยื้อรักษาการจ้างการเพื่อสู้กับโควิด-19 ร่วม 2 ปี ซึ่งมันก็เป็นแนวทางหนึ่ง เพื่อรักษาสภาพธุรกิจให้ดำเนินต่อไปได้  แต่เราในฐานะคนธรรมดา ก็ไม่อยากให้เกิดขึ้น
ทั้งที่ประเทศไทย เริ่ม เปิดประเทศ เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ และผลตอบรับค่อนข้างดี แต่จำนวนที่ต้องการยังไม่เท่ากับ จำนวนนักท่องเที่ยวในเวลาปกติ ซึ่งตามการคาดการณ์ อาจต้องใช้เวลา ประมาณ 2-3 ปี ถึงจะกลับมาเป็นปกติ  และในระหว่างนี้ กลุ่มธุรกิจการบิน กลุ่มการท่องเที่ยว โรงแรม  ยังต้องการความช่วยเหลืออย่างมาก ในการพยุงให้ธุรกิจยังคงอยู่ต่อไปได้ หวังว่า จะมี มาตราการต่างๆออกมาช่วยเหลือ  กลุ่มการท่องเที่ยว กลุ่มธุรกิจการบิน และโรงแรม ให้พยุงต่อไปได้
.
.

กรุงเทพธุรกิจ
19 พฤศจิกายน เวลา 11:15 น.  ·
"โจ-ธรรศพลฐ์" บิ๊กบอสแห่ง "ไทยแอร์เอเชีย" ไลฟ์สดคุยกับพนักงาน ชี้แจงการตัดสินใจครั้งสำคัญ จำเป็นต้องเอาพนักงานออกเป็นครั้งแรก! หลังยื้อรักษาการจ้างงานสู้โควิด-19 ร่วม 2 ปี เผยจำเป็นต้องลดบุคลากรสอดรับกับจำนวนฝูงบิน ให้พนักงานออก 350 คน จากปัจจุบันมีอยู่ 5,000 คน
.
เมื่อวันที่ 16 พ.ย.ที่ผ่านมา นายธรรศพลฐ์ เเบเลเว็ลด์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AAV และบริษัท ไทยแอร์เอเชีย จำกัด หรือ TAA และนายสันติสุข คล่องใช้ยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร AAV และ TAA ร่วมกันไลฟ์สดพูดคุยกับพนักงาน ชี้แจงเกี่ยวกับความจำเป็นที่ต้องตัดสินใจเอาพนักงานออกเป็นครั้งแรก!
.
หลังจากพยายามรักษาการจ้างงานมานานร่วม 2 ปีที่วิกฤติโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อธุรกิจสายการบินอย่างหนักหนาสาหัส
.
"กรุงเทพธุรกิจ" ถอดคำชี้แจงของ นายธรรศพลฐ์ ซึ่งกล่าวในไลฟ์ฯดังกล่าวไว้ว่า...
.
สำหรับการเตรียมความพร้อมที่จะบินต่างประเทศ เรายังต้องจ่ายค่าเช่า ซึ่งวันนี้เราได้มีการต่อรองเรื่องการจ่ายค่าเช่ากับซัพพลายเออร์ทุกเจ้า กับธนาคารที่เป็นเจ้าหนี้เราหลายๆ ธนาคาร ก็ได้มีการขอผ่อนผันไป แม้ว่าบริษัทจะมีงบแสดงฐานะการเงินของบริษัท (Balance Sheet) ที่แข็งแรงขึ้น แต่อนาคตยังไม่แน่นอน เพราะฉะนั้นการที่จะต้องหยุดงาน...ยังคงมีต่อ การที่จะต้องเฟอร์โลว์ (Furlough : เป็นวิธีการให้พนักงานแอคทีฟตามจำนวนเครื่องบินที่ใช้งาน)...ยังคงมีต่อ จนกระทั่งเรากลับมาทำการบินได้ในระดับหนึ่ง เราถึงจะยกเลิก
.
ถามว่าคำว่า "ระดับหนึ่ง" นั้นนานแค่ไหน ผมบอกเลยว่ายังตอบไม่ได้ ขึ้นอยู่กับว่าเราจะกลับมาทำการบินต่างประเทศได้มากขึ้นแค่ไหน และมีรายได้เข้ามามากน้อยขนาดไหน
.
"สิ่งที่จะพูดนี้ เป็นสิ่งที่เจ็บปวดที่สุดเลย แต่อย่างที่บอกว่าเราอยู่บนพื้นฐานความจริง เราจำเป็นที่จะต้องคืนเครื่องบินอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งทางคุณสันติสุข (ซีอีโอ AAV และ TAA) กำลังสรุปอยู่ว่าจะต้องคืนกี่ลำ จำนวน "เครื่องบินที่คืน" จะเป็นการ "คืนอย่างถาวร" นั่นหมายถึงว่าจะต้องมีพนักงานจำนวนหนึ่งที่เราจะต้องให้ออกจากการเป็นพนักงานบริษัท โดยให้ทางฝ่ายบุคคลเป็นผู้พิจารณา และอะไรที่เราช่วยได้ เราจะช่วยเต็มที่"
.
เราคงจะอยู่ด้วยจำนวนเครื่องบินที่น้อยลงไปอย่างน้อยๆ 1-2 ปีจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น และถ้าเรามีความต้องการเครื่องบินเพิ่ม มีความต้องการในการบินเพิ่ม เราถึงจะค่อยสั่งเครื่องบินเข้ามาใหม่ และทยอยรับคนเข้ามาใหม่
.
"ถ้าเราไม่คืนเครื่องบิน ต่อให้เรามีกระแสเงินสดใหม่เข้ามา เราก็แบกไม่ไหว มันจะพังกันหมด เราจึงจำเป็นที่จะต้องตัดเครื่องบินและพนักงานบางส่วนออก"
.
ถ้าเราทำตรงนี้แล้ว ผมเชื่อว่าสถานการณ์จะค่อยๆ ทยอยดีขึ้น โดยคิดว่าเราผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว
.
ส่วนพนักงานที่ยังอยู่ แน่นอนว่าจะมีการหมุนเวียน (Rotate) กันเข้ามาทำงาน มีการทำเฟอร์โลว์ต่อ และในเมื่อสถานการณ์ดีขึ้นในทุกๆ 2-3 เดือน เราจะมีการประเมิน โดยเราจะพยายามขยับเงินเดือนที่เราจ่ายเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ จนกระทั่งกลับมาอยู่ในจุดที่ควรจะรับจริง ก็น่าจะใช้เวลาอย่างน้อย 2-3 ไตรมาส เราก็จะคอยดูจุดนี้
.
แต่ถ้าธุรกิจกลับมาเร็ว เราก็จะปรับกลับให้มาอยู่ที่เดิมให้เร็วที่สุด ไม่อยากที่จะให้พนักงานรับเงินเหมือนอย่างปัจจุบันไปตลอด เพราะผมเข้าใจว่าเป็นเวลา 2 ปีแล้วนับตั้งแต่เจอวิกฤติโควิด-19 เป็นเรื่องค่อนข้างหนัก ถ้าเราเปิดประเทศได้อีกสักนิดหนึ่ง เราจะพยายามขยับขึ้นทีละ 5% , 10% หรือ 15% แล้วแต่สถานการณ์ เรื่องนี้เป็นสิ่งที่ผมกับคุณสันติสุขไม่ได้นิ่งนอนใจ และรู้สึกได้ถึงความเดือดร้อนของทุกคน
.
และเป็นอีกครั้งหนึ่งที่ต้องขอขอบคุณสำหรับที่ผ่านมา หวังว่าวันประชุมผู้ถือหุ้นวันที่ 26 พ.ย.2564 ทุกอย่างจะผ่านไปด้วยดี และทุกอย่างจะค่อยๆ ทยอยกลับมา
.
มีคนถามว่า...แล้วคุณโจคิดว่าสถานการณ์การบินจะเป็นอย่างไรบ้าง? ผมมองว่าตลาดการบินในประเทศจะกลับมาได้ 100% ก็ประมาณกลางปี 2565 ส่วนตลาดการบินระหว่างประเทศน่าจะกลับมา 20-30% กลางปีหน้า จนถึงปลายปีหน้าถ้าฟื้นได้สัก 50-60% ผมก็ว่าเก่งแล้ว แล้วในปี 2566 ค่อยมาดูกันว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง
.
"กรุงเทพธุรกิจ" ต่อสายโทรศัพท์ถึง นายธรรศพลฐ์ เพื่อสอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับกรณีลดจำนวนพนักงาน ได้รับคำตอบว่า...
.
"เรื่องของเรื่องคือ...เดิมไทยแอร์เอเชียคาดการณ์ว่าเส้นทางบินระหว่างประเทศน่าจะฟื้นตัวได้ราวเดือน ม.ค. หรือ ก.พ.2565 แต่ดูจากแนวโน้มสถานการณ์แล้ว ท่าจะยาว จำเป็นต้องคืนเครื่องบินไป 6 ลำภายในปีนี้ จากที่มีอยู่ 60 ลำ จะเหลือ 54 ลำ จึงจำเป็นต้องให้พนักงานส่วนที่เกี่ยวกับ 6 ลำนั้นออกจากการเป็นพนักงาน เพื่อให้เหมาะสมกับจำนวนเครื่องบินที่เหลืออยู่ 54 ลำ และเก็บพนักงานส่วนใหญ่ไว้ โดยจำเป็นต้องให้พนักงานออก 350 คน จากปัจจุบันที่มีพนักงานอยู่ 5,000 คน"
.
"ในช่วงที่ธุรกิจของไทยแอร์เอเชียได้รับผลกระทบอย่างหนักจากวิกฤติโควิด-19 เราได้ดูแลพนักงานมาร่วม 2 ปี แต่วันนี้มันต้องตัดแล้ว เราทำดีที่สุดแล้ว"
.
"สำหรับการให้พนักงานบางส่วน 350 คนออกจากการเป็นพนักงานนั้น จะมีการเปิดรับคนที่ยื่นสมัครใจลาออกก่อน ส่วนพนักงานที่ไม่ได้ยื่นสมัครใจลาออก เราก็จะพิจารณาจากผลการทำงาน (Performance) ของแต่ละคน โดยให้ฝ่ายบุคคลไปดูตรงนี้" นายธรรศพลฐ์กล่าว

ที่มา https://www.facebook.com/135182934814/posts/10163291813864815/

#เปิดประเทศ  #กลุ่มธุรกิจสายการบิน  #กลุ่มการท่องเที่ยว  #กลุ่มโรงแรม  #โควิด-19
แก้ไขล่าสุด 21 พ.ย. 64 10:37 | เลขไอพี : ไม่แสดง | ตั้งกระทู้โดย Windows 10

อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)

ความคิดเห็น

#1 | _uwu_ | 8 ม.ค. 65 13:37 น.

ไอพี: ไม่แสดง | โดย Windows 10

แสดงความคิดเห็น

จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google