ออฟ กัน ได้รับคำชมว่าเป็นนักแสดงที่มีพรแสวงและพรสวรรค์ จากผู้กำกับคนเก่ง ในซีรีส์ที่ต้องทุ่มสุดตัว Not Me

กว่าจะมาเป็นซีรีส์ Not Me เขา...ไม่ใช่ผม ที่งานเนี้ยบงานคุณภาพสมการรอคอยนั้น
ไม่ง่ายเลยทั้งผู้กำกับ นุชชี่ ที่ไม่ปล่อยผ่านแต่ละซีนง่ายๆ รวมทั้งเหล่านักแสดงที่ก็ต้องทุ่มเท
แรงกายแรงใจแบบทะลุขีดจำกัดของตัวเอง จากที่ทีมนักแสดงนำของเรื่องอย่าง ออฟ จุมพล,
กัน อรรถพันธ์, เฟิร์ส คณพันธ์, ม่อน ธนัชชัย และ ปาแปง พรหมพิริยะ เขาได้มานั่งให้สัมภาษณ์
ใน Press Tour ตามสื่อต่างๆ  สถานีแรกกับทาง สุดสัปดาห์ วันสัมซีรีส์ออนไปแล้ว EP แรก เนื่องจากต้องเร่งถ่ายเพราะติดสถานการณ์โควิด
ทำให้ตอนนี้ต้องถ่ายไปออนไป ถ้าถามว่าเหนื่อยไหม กันบอกว่า พื้นฐานต้องเหนื่อยอยู่แล้ว เพราะมีทั้ง บู๊ แอคชั่น
ไม่ใช่นั่งคุยกันในมหาลัย เพราะต้องใช้พลังเยอะ ในแก๊งต้องฟรีรันนิ่งเป็น กระโดด ขับมอไซค์ ต่อยมวย มันก็เลยเหนื่อย
หน่อย พอได้ดู EP 1 หายเหนื่อย อีกอย่างชอบดูรีแอคช่องต่างๆ ในยูทูบ สิ่งที่พี่นุชชี่เขาตั้งใจผลตอบรับดีมากๆ เพราะพี่เขาเป็นคนตั้งใจในการทำงานมาก บางทีเราก็งอแงบ้างเพราะเหนื่อยแต่ก็เข้าใจเขา และถ่ายไปออนไปก็มีไฟ จะได้กลับไปทำคิวต่อไปให้ดีขึ้นกว่าเดิม 




และใกล้ช่วงปีใหม่หนุ่มๆ ไม่พลาดโดนถามว่าเป้าหมายในปีหน้าคืออะไร
เอ็นดูกัน เจอป่าปี๊ตอบแทนอีกแล้วว่า สำหรับกันต้องเก็บเงิน เจัาตัวก็ถึงกับบ่นคือ ตั้งแต่เข้าแกรมมี่มา 6-7 ปี ก็พูด
แต่เรื่องเดิม ก็จะพยายามทำให้ดีขึ้น XD




คาแร็กเตอร์ของแต่ละคนในเรื่อง
เฟิร์ส: หยก ใช้ความรู้สึกนำในการทำสิ่งต่างๆ
ม่อน: แกรม เป็นคนสดใสยิ้มง่าย เรียนเก่ง เด็กเนิร์ด
ออฟ: ฌอห์ณ โดนทำร้ายมาตอนเด็กๆ จากเจ้านายของพ่อเรา เลยอยาก
ล้างแค้นจากการที่พ่อโดนทำร้าย เลยอยากทวงสิทธิของตัวเองคืน ได้มาเจอกับเพื่อนๆ กับ กุมภา
ว่าเราจะเอายังไงกับชีวิตต่อไป
กัน: รับบทเป็นแบล็คกับไวท์ ตอนเด็กๆ เขาเป็นพี่น้องที่รักกันมาก
เวลามีไรแบล็คก็จะปกป้องน้องตลอด และมีเหตุการณ์ทำให้เราต้องแยกจากกัน ไวท์เขาไปอยู่รัสเซีย
พอได้กลับมาอยู่ที่ไทยและตามหาพี่ชายที่โดนทำร้าย ก็เลยปลอมตัวเข้ามาอยู่ในแก๊งของพี่ๆ และสืบว่า
ใครเป็นคนทำร้ายพี่ชาย และด้วยความที่ไวท์เป็นเด็กนอกพอได้กลับมาเขาก็จะไม่รู้ว่ามีเหตุการณ์แบบนี้
ในประเทศนี้ด้วย และการเล่นบทของแบล็คกับไวท์ก็ยากพอสมควรเพราะไกลตัว จะมีการใช้ศัพท์เฉพาะ
แต่ก็พยายาม ตอนถ่ายฉากรัสเซียคือเครียดมากเลย ครูที่สอนรัสเซียต้องมานั่งประกบ
ปาแปง: กุมภา จะเป็นผู้นำและรวมน้องๆ มาอยู่ในกลุ่ม แต่ละคนก็จะมีอุดมการณ์ไม่เหมือนกัน เราต้องคอยบอกคอยแนะนำ




และออฟกันการได้กลับมาเจอกันในเรื่องนี้ ได้เห็นพัฒนาการของกันและกันยังไงบ้าง
กัน:ที่เห็นได้ชัดป่าปี๊เขาตั้งใจมาก เขาอินมีการทำการบ้าน เขามีความเข้าใจมากขึ้นในการแสดง
ออฟ: ส่วนกันไม่ต้องพูดเลยครับ เรื่องการแสดงเขาดีมากๆ อยู่แล้ว แล้วเรื่องนี้ต้องมาเล่นเป็นฝาแฝด บางวันก็ถ่ายทั้งสองคาแร็กเตอร์เขาก็เปลี่ยนโหมดได้เร็วมาก ดูแค่สายตาก็รู้แล้วคนไหนเป็นแบล็คคนไหนเป็นไวท์




และเรื่องนี้ได้ทำอะไรที่ท้าทายหนุ่มๆ เขาหลายอย่างเลยอย่าง ออฟได้ฟรีรันนิ่ง ได้เรียนมวย กันได้พูดรัสเซีย
กระโดดตึกสูงหลายเมตร เฟิร์สได้กระโดดข้ามนั่นนี่ ม้วนหน้า ม่อนคือถึงกับบอกเลย พี่นุชชี่ชอบให้เราเล่นจริงด้วย
จากตอนแรกคิดว่ามีแสตนด์อินเราสบายละ จุมพลเลยเสริม ส่วนมากจ้างมานั่ง
และความละเอียดความเคี่ยวของผู้กำกับเคยมีแบบ 5 4 3 2 จะถ่ายปุ๊บ เธอฉันว่าบทไม่ใช่ ก็มานั่งประชุมแก้ใหม่หมดเลยก็เกิดขึ้นมาแล้ว ก่อนกันจะเสริมว่า บางวันในกองมีทีมเขียนบทไปนั่งข้างหลังพี่นุชชี่ด้วย




ถ้าถามถึงฉากพีกที่สุดในเรื่อง ของพระนายก็คือ
ออฟ: ฉากแอคชั่นที่ถ่ายกับเฟิร์สที่ต่อยมวยกัน คือถ่ายตั้งแต่ 7 โมงเช้าถึง 6 โมงเย็น ได้ซีนนึง
กัน:ของกันซีนลงไปในน้ำ มันเป็นแม่น้ำใหญ่แม่น้ำเจ้าพระยา กลัวมาก ลงตอนมืด
ตอนเช้าก็เห็นแล้วว่าในน้ำมีอะไรบ้าง วันนั้นเครียดอยู่เรื่องเดียวว่าไม่อยากโดดน้ำ ก็รู้ว่ามีคนเซฟให้ แต่เราก็ต้องกระโดดไปคนเดียวก็ไม่กล้า แต่โดดแบบมีสลิง






มีมูฟไปให้สัมภาษณ์กับ วันบันเทิง พอเดินไล่ๆ กันแบบนี้แล้วเท่มากชาวแก๊ง 






ถัดมาเป็นไลฟ์กับ Sanook Call From Nowhere นั่งสัมอยู่ดีดี
เหมือนจะมีคนเพลีย ขอซบหน่อยนะปี๊ ~




โดนถามถึงกระแส ม่อนกัน ด้วยจากซีนในห้องเรียน
ตอนม่อนบอกไม่คิดว่าจะเป็นไวรัล จุมพลก็คือเม้มปาก เอียงหัวไปมา คงมีร้อนๆ ในใจบ้างแหละ 




หนุ่มๆ เล่าว่าพี่นุชชี่จะไม่เรียกพวกเขาด้วยชื่อจริงๆ แต่จะเรียกสัตว์ต่างๆ เป็นหมีไรงี้
ก่อน ATP จะยกตัวอย่างกับป่าปี๊ว่า แมวไหวไหมแมว พร้อมหยุมพุง น่าร้ากกก




สถานีต่อไปกับ Pop Live ได้นุชชี่ผู้กำกับมาร่วมพูดคุยด้วย ถ้าถามว่าอะไรคือเหตุผลที่ทำให้ตัดสินใจมา
กำกับเรื่องนี้ก็คือ ตอนแรกก็ไม่ได้รู้จักซีรีส์วายมากนัก  สิ่งที่รู้สึกว่าอยากกำกับเพราะว่า เขาบอกว่าจะให้ กัน อรรถพันธ์มาเล่นเป็นแฝด เราก็อยากจะร่วมงานกับน้องกันอีกที เคยร่วมงานมาแล้วใน อนธการ เขาเป็นนักแสดงที่เก่ง ก็เป็นเหตุผลแรกเลยที่โอเคว่าจะลองกำกับงานชิ้นนี้ ถ้าถามกันรู้สึกยังไงที่ได้กลับมาร่วมงานกับพี่นุชชี่
เจ้าตัวบอก ก็ดีมากเลยครับ เมื่อก่อนเวลาไปบริษัทพี่นุชชี่ชอบเดินไปหาเขาถามว่ามีอะไรให้กันเล่นไหมอยากเล่น
พี่นุชชี่ก็จะบอกว่าฉันยังไม่มีบทแมวๆ ของเธอเลย ฉันยังไม่มีบทแบบนี้ ก็รอพอได้รู้พี่นุชชี่มากำกับก็ดีใจมากๆ ที่ได้ร่วมงานกันอีกครั้ง คำว่าบทของกัน เวลาพี่นุชชี่เขาทำหนังเขาจะมีภาพของเขาว่าคนไหนเหมาะกับอะไร พี่เขาจะมองกันเป็นแมวตัวเล็ก




ส่วนออฟเจอพี่นุชชี่ครั้งแรก ก็ตื่นเต้นและก็กลัวเพราะด้วยฝีมือสุพรรณหงส์ 2 ตัว เราก็ไม่ใช่นักแสดงที่เก่งอะไร ต้องเรียนรู้อีกเยอะ และการบ้านหลักที่ต้องทำเลยคือการออกกำลังกาย ผู้กำกับคนเก่งเลยเสริมว่า
ตอนเจอออฟครั้งแรกก็ ให้ถอดเสื้อสิ โอเคไปฟิตมา ตอนนี้ทำสำเร็จแล้วนะ 
แถมพี่นุชชี่ยังชมจุมพลด้วยว่า เมจิกโมเมนต์ของคุณเขาคือ มีการพัฒนาในด้านการแสดงดี บางซีนมากสามารถ over-power กันได้ กันเขาเป็นนักแสดงที่มีพรสวรรค์ส่วนออฟจะเป็นนักแสดงที่มีพรแสวง ตอนแรกร้องไห้ยากมาก ยิ่งเล่น
ยิ่งอินเข้าไปในตัวละคร




และเอ็นดูความที่พี่นุชชี่ให้กันลองฝึกคาแร็กเตอร์แบล็คที่มีความหยาบ ความโหด ด้วยการพูดกวนทีนพี่นุชชี่ตอนกินข้าว
จากตอนแรกไม่กล้า พอได้ลองพูดแล้วพี่นุชชี่ก็โทรไปบอกแอคติ้โค้ชเลยว่า ได้ละ ไม่ต้องห่วงละ XD




ด้วยความที่เป็นซีรีส์ที่พูดถึงความเหลื่อมล้ำและตีแผ่กฎหมายที่ไม่ยุติธรรม พี่นุชชี่ได้ส่งหนังสือเกี่ยวกับ
กฎหมายการปกครองอย่างปาฐกถาของ อาจารย์ธงชัย วินิจจะกูล อาจารย์ประจักษ์ ก้องกีรติ ให้บรรดานักแสดง
ได้อ่านทำความเข้าใจด้วย งานนี้ไม่เข้าใจถึงแก่นก็ให้มันรู้!




ไลฟ์ก่อนๆ มีเม้าท์ผู้กำกับไปแล้ว เจอผู้กำกับเผาคืนบ้าง เจ้าแมวนี่โดนหนักเลย
คือกันเล่าว่า พี่นุชชี่รู้มาว่ากันนี่โดนแดดแล้วจะยม ต้องให้คนกองดูแลหาร่มหาอะไรบังแดด ให้งี้ ผู้กำกับเลยบอก ก็คือไม่เข้าใจ นี่ถ่ายหน้าหนาวนะ แดดบ่ายสองบ่ายสาม ก็เริ่มเย็นแล้วไง ฉันแบบสลดเร็วมาก นี่ขนาดกันแดดให้หมดทุกทางแล้ว อะไรกันคะ ตอนเธอถ่ายอนธการเธอก็ไปถ่ายกองขยะ แดดก็เผาเหมือนกันทำไมไม่เห็นสลดเลย ตอนนี้หล่อนอะไรคะ และก็ชอบแอบไปเติมปาก เบื่อมาก กลัวแบบไม่น่ารักหรือไร 555555555




บรรดาสัตว์ตัวน้อยของพี่นุชชี่
กัน: แมวน้อย
ออฟ: แมวใหญ่
ปาแปง: หมี
เฟิร์ส: ก้าบน้อย
ม่อน: หนู





และด้วยความที่คาแร็กเตอร์ของไวท์มีความใกล้กับตัวกันอยู่แล้ว พอได้มาเห็นในพาร์ทของการเป็นแบล็ค
ออฟรู้สึกยังไงนั้น
ออฟ: รู้สึกอเมซิ่งครับ ว่าคนอย่างเขาเนี่ยนะจะมาดุ จะมาตาขวางใส่เรา จะมากระชากเรา หรือทำให้เรารู้สึกเกรงกลัวเขาได้ แต่พอมันไปอยู่ในบทจริงๆ มันมีฟีลอะไรหลายๆ อย่างที่ทำให้เราเกรงใจเขาเกรงกลัวเขา ไม่กล้าสู้




ถ้าถามผู้กำกับตอนนี้เหลืออะไรที่ยังกังวลอยู่บ้าง ผู้กำกับคนเก่งระบุว่า  ซีนที่เหลือคือซีนที่ยากหมดเลยค่ะ ส่วนอุปสรรคระหว่างถ่ายทำในสถานการณ์โควิด คิดว่าการทำงานมันโหดไปนิดนึง เนื่องจากโควิด ตารางออนทางช่องก็เลื่อนให้แล้ว ทุกอย่างมันต้องมาอัด ทำให้ทีมงานทำงานหนักเกินไปสักหน่อยในบางจุดที่เราไม่สามารถควบคุมได้ มันก็เหนื่อยแต่ตัว quality เราก็ไม่ compromise ในเรื่องนี้ เราต้องให้ผู้ชมดูและรู้สึกว่า เขากำลังชมผลงานที่มีคุณภาพอยู่
สุดยอดเลย ตอนนี้ออนมา 2 EP คนดูประจักษ์โดยทั่วกันแล้วว่าเป็นซีรีส์ที่มีคุณภาพคับแก้วจริงๆ 




#ออฟจุมพล #กันอรรถพันธ์