รีวิว เที่ยวหมู่บ้านมังกรสวรรค์ ศาลหลักเมือง สุพรรณบุรี
10 ก.พ. 65 11:47 น. /
ดู 11,960 ครั้ง /
2 ความเห็น /
1 ชอบจัง
/
แชร์
เริ่มต้นปีใหม่ด้วยสิ่งดีๆ ประชาชนส่วนใหญ่ เลือกที่จะเข้าวัด ทำบุญทำทาน บริจาค เพื่อความเป็นศิริมงคลในชีวิต และเชื่อว่าบุญทั้งหลายจะหนุนนำให้ประสบแต่ความโชคดีตลอดทั้งปี ต้องบอกว่าในประเทศไทยมีจำนวนประชากรกว่า 72 ล้านคน ซึ่งจะแตกต่างกันออกไปทั้งเชื้อสาย ศาสนา หนึ่งในเชื้อสายที่พบส่วนใหญ่ นั่นคือ คนไทยเชื้อสายจีน โดยมีความเชื่อที่คล้ายคลึงกัน แต่วันปีใหม่ของคนไทยเชื้อสายจีนนั้น เรียกว่า วันตรุษจีน ซึ่งในปี 65 นี้ ตรงกับวันที่ 1 ก.พ. นั่นเอง

หนึ่งในสถานที่ที่อยากแนะนำสำหรับคนไทยเชื้อสายจีน หากมีโอกาสอยากให้ลองมาเยี่ยมชม ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสุพรรณบุรี-มังกรสวรรค์ เดิมเรียกกันว่า ศาลเทพารักษ์หลักเมือง สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของชาวจังหวัดสุพรรณบุรี
ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองฯ เป็นพุทธปฎิมากรรมสลักบนแผ่นหินแบบนูนต่ำ (Relief) ในพุทธศาสนาลัทธิมหายาน ซึ่งเป็นศาสนาที่ชาวจีน ญี่ปุ่น เกาหลี ทิเบต ญวน เขมร ให้ความเคารพนับถือ และเป็นศิลปะแบบขอม รูปพระวิษณุกรรมสวมหมวกแขก ในศิลปะไพรกเม็ง อายุประมาณ 1300-1400 ปีมาแล้ว มีพระนามว่า "พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร หรือ พระนารายณ์สี่กร" ซึ่งมีหน้าที่ปกปักรักษาช่วยเหลือมนุษย์และเหล่าสรรพสัตว์ทั้งหลายให้พ้นทุกข์ ประสบแต่ความสุข ความเจริญก้าวหน้า เช่นเดียวกับพระโพธิสัตว์ เจ้าแม่กวนอิม ตามคำบอกเล่าต่อๆกันมา เมื่อประมาณ 150 ปีมาแล้ว มีผู้พบพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร จมดินอยู่ตรงริมศาลเจ้าพ่อ ชาวบ้านจึงช่วยกันอัญเชิญขึ้นข้างบน พร้อมกับสร้างศาลใหม่ให้เป็นที่ประทับ มีคนจีนชื่อ เฮียกงเป็นผู้ดูแลรักษาเรื่อยมา เมื่อครั้งโบราณจึงมีคำกล่าวว่า "ห้ามเจ้าไปเมืองสุพรรณจะทำให้มีอันเป็นไป"

ต่อมาในปี พ.ศ. 2435 สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ เสด็จตรวจราชการเมืองสุพรรณ ได้ทรงสักการะเจ้าพ่อหลักเมือง ได้ประทานทรัพย์ส่วนพระองค์สร้างศาลเพิ่มขึ้น พร้อมวางแผนให้พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จประพาสเมืองสุพรรณ พระพุทธเจ้าหลวงทรงพระดำรัสว่า "เข้าทีดีหนักหนา แต่เขาไม่ให้เจ้าไปเมืองสุพรรณ ว่าถ้าขืนไปจะเป็นบ้าไม่ใช่หรือ"

ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองฯ จึงกลายเป็นสถานที่ที่ยอดนิยมของคนไทยเชื้อสายจีนและชาวสุพรรณ ที่ทุกปีจะต้องมากราบสักการะ ขอพรและเพื่อความเป็นสิริมงคลในชีวิต รวทั้งชื่นชนในความงดงาม ความประณีตของการออกแบบและการก่อสร้าง พร้อมทั้งเที่ยวชมหมู่บ้านมังกรสวรรค์ และอุทยานลูกหลานพันธุ์มังกรที่อยู่บริเวณใต้ท้องมังกรอีกด้วย นอกจากจะช่วยเสริมบารีแล้วยังเป็นการเรียนรู้วิถีชีวิตของชาวจีนอีกด้วย สำหรับในปีนี้มีการเปิดให้เข้าสักการะและเยี่ยมชม ตั้งแต่วันที่ 1 - 15 ก.พ.65 นี้ ภายใต้มาตรการป้องกันโควิด ของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด มีเจ้าหน้าที่ (อสม.) ตั้งจุดคัดกรองวัดอุณหภูมิ พร้อมเจลแอลกอฮอล์ ฆ่าเชื้อ ใครที่มีโอกาสอย่าลืมแวะเวียยนกันไปนะ

หนึ่งในสถานที่ที่อยากแนะนำสำหรับคนไทยเชื้อสายจีน หากมีโอกาสอยากให้ลองมาเยี่ยมชม ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสุพรรณบุรี-มังกรสวรรค์ เดิมเรียกกันว่า ศาลเทพารักษ์หลักเมือง สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของชาวจังหวัดสุพรรณบุรี
ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองฯ เป็นพุทธปฎิมากรรมสลักบนแผ่นหินแบบนูนต่ำ (Relief) ในพุทธศาสนาลัทธิมหายาน ซึ่งเป็นศาสนาที่ชาวจีน ญี่ปุ่น เกาหลี ทิเบต ญวน เขมร ให้ความเคารพนับถือ และเป็นศิลปะแบบขอม รูปพระวิษณุกรรมสวมหมวกแขก ในศิลปะไพรกเม็ง อายุประมาณ 1300-1400 ปีมาแล้ว มีพระนามว่า "พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร หรือ พระนารายณ์สี่กร" ซึ่งมีหน้าที่ปกปักรักษาช่วยเหลือมนุษย์และเหล่าสรรพสัตว์ทั้งหลายให้พ้นทุกข์ ประสบแต่ความสุข ความเจริญก้าวหน้า เช่นเดียวกับพระโพธิสัตว์ เจ้าแม่กวนอิม ตามคำบอกเล่าต่อๆกันมา เมื่อประมาณ 150 ปีมาแล้ว มีผู้พบพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร จมดินอยู่ตรงริมศาลเจ้าพ่อ ชาวบ้านจึงช่วยกันอัญเชิญขึ้นข้างบน พร้อมกับสร้างศาลใหม่ให้เป็นที่ประทับ มีคนจีนชื่อ เฮียกงเป็นผู้ดูแลรักษาเรื่อยมา เมื่อครั้งโบราณจึงมีคำกล่าวว่า "ห้ามเจ้าไปเมืองสุพรรณจะทำให้มีอันเป็นไป"

ต่อมาในปี พ.ศ. 2435 สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ เสด็จตรวจราชการเมืองสุพรรณ ได้ทรงสักการะเจ้าพ่อหลักเมือง ได้ประทานทรัพย์ส่วนพระองค์สร้างศาลเพิ่มขึ้น พร้อมวางแผนให้พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จประพาสเมืองสุพรรณ พระพุทธเจ้าหลวงทรงพระดำรัสว่า "เข้าทีดีหนักหนา แต่เขาไม่ให้เจ้าไปเมืองสุพรรณ ว่าถ้าขืนไปจะเป็นบ้าไม่ใช่หรือ"

ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองฯ จึงกลายเป็นสถานที่ที่ยอดนิยมของคนไทยเชื้อสายจีนและชาวสุพรรณ ที่ทุกปีจะต้องมากราบสักการะ ขอพรและเพื่อความเป็นสิริมงคลในชีวิต รวทั้งชื่นชนในความงดงาม ความประณีตของการออกแบบและการก่อสร้าง พร้อมทั้งเที่ยวชมหมู่บ้านมังกรสวรรค์ และอุทยานลูกหลานพันธุ์มังกรที่อยู่บริเวณใต้ท้องมังกรอีกด้วย นอกจากจะช่วยเสริมบารีแล้วยังเป็นการเรียนรู้วิถีชีวิตของชาวจีนอีกด้วย สำหรับในปีนี้มีการเปิดให้เข้าสักการะและเยี่ยมชม ตั้งแต่วันที่ 1 - 15 ก.พ.65 นี้ ภายใต้มาตรการป้องกันโควิด ของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด มีเจ้าหน้าที่ (อสม.) ตั้งจุดคัดกรองวัดอุณหภูมิ พร้อมเจลแอลกอฮอล์ ฆ่าเชื้อ ใครที่มีโอกาสอย่าลืมแวะเวียยนกันไปนะ

เลขไอพี : ไม่แสดง
| ตั้งกระทู้โดย MacOS
อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)
ความคิดเห็น
จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google