ออฟกัน มาเม้าท์มอยถึงหลายซีนในซีรีส์ Not Me และเล่าย้อนถึงความเป็นพาร์ทเนอร์ ที่เป็นห่วงกันไม่เคยเปลี่ยน!

หลังจากทำเบบี๋และหลายๆ คนเป็นห่วงกันยกใหญ่ ล่าสุด กัน อรรถพันธ์ ก็หายจากโควิด-19
กลับมาทำงานเคียงข้างป่าปี๊ของเขาได้แล้ว อย่างล่าสุดพวกเขาก็มี Not Me Virtual Hangout เป็นงานไลฟ์
กับทางฝั่งฟิลิปปินส์มาพูดคุยให้เหล่าเบบี๋ได้หายคิดถึงกัน


และแน่นอนพิธรกรไม่พลาดที่จะถาม ATP ว่า How are you feeling, are you feeling okay now ?
เจ้าตัวสปีกและยิ้มแฉ่งเลยว่า OK I'm Okey I'm good




ส่วนจุมพิธีกรก็เบิร์ธเดย์ย้อนหลังให้ เจ้าตัวก็ยกมือและบอก Thank you, I'm older น่าร้ากก




พูดถึงวันเกิด คนน้องก็ถูกถามว่าให้อะไรเป็นของขวัญป่าปี๊
กัน: ยังไม่ได้ให้เลยครับ กำลังคิดอยู่ เกือบลืมแล้วนะเนี่ยถ้าพี่เขาไม่ทัก
เพราะเราเพิ่งออกมาจากการกักตัว
พิธีกรเลยบอกว่าให้ควบรวมกับของขวัญวันวาเลนไทน์ไปเล้ยยย




ออฟยังได้พูด ขอบคุณถึงการซัปพอร์ตของแฟนๆ ชาวฟิลิปปินส์ที่ชื่นชอบซีรีส์ Not Me จนมียอดคนดู
ติดอันดับ 6 ของประเทศ ก็ดีใจมากๆ อยากให้สนับสนุนต่อไป แต่กันก็อ้อน ขอก่อนจบ EP 14 ขอให้ไปที่ 1 ได้ไหมครับด้วย




และสิ่งที่ทำให้ออฟกันเข้ากันได้ดี จุมพลบอกว่า เพราะมีนิสัยไลฟ์สไตล์เหมือนกัน เวลาเราเกิดปัญหาเราคุยกันเลย
สมมติถ่ายดึกๆ กันเหนื่อยผมก็จะพูดว่าอย่าเพิ่ง พอผมเหนื่อยกันก็จะคอยซัปพอร์ตผมอีกที มันเลยไปด้วยกันได้
ถ้าถามถึงความเป็นพาร์ทเนอร์จากวันแรกจนถึงวันนี้เปลี่ยนไปยังไงบ้าง
กัน: มีความเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น เปลี่ยนแค่ความโตขึ้น  แต่ที่ไม่เปลี่ยนเลยเขาจะชอบเป็นห่วงกันตลอด คอยถามว่าเป็นไง เก็บเงินบ้างนะ
ออฟ:ไม่มีนิสัยอะไรเลยที่เปลี่ยนไป นอกจากการช้อปที่เก่งขึ้น เขาก็เป็น Best Partner ที่ดีที่สุดของ ผมก็ยังรู้สึกว่าเป็นอย่างนั้นอยู่ เราไว้ใจเราพูดคุยกัน มันเลยทำให้เราไปได้เรื่อยๆ




สัมๆ อยู่มีคนดื้อ หาสายอะไรมาเล่นพันคอตัวเองเฉย โอ๊ยน่าให้น้องดุสักที 555555555




และความทุ่มเทของเหล่านักแสดงในเรื่อง Not Me ก็เป็นที่เลื่องลือ
จนจุมอยากบอกให้พิธีกรและแฟนๆ ทุกคนรู้ว่า เขาทั้งไปเรียนขับมอเตอร์ไซ เรียน Free running
เรียนมวย ไหนจะออกกำลังกาย น้ำหนักหายไป 7 กิโล




พิธีกรบอกชอบซีนที่ไปเรียกร้องประเด็นสมรสเท่าเทียมใต้ผืนธง Pride เพราะมันสวยงาม
และทัชใจมาก กันเองก็บอกว่า ชอบ ซีนนั้นดีมาก วันถ่ายก็สนุกมาก เหมือนเราไปม็อบกันจริงๆ

https://twitter.com/offguning/status/1487791957586104321


ส่วนต่อจากนี้ ใน EP ต่อไปคนดูจะได้เห็นอะไร
ออฟ:มันจะมีความเข้มข้นขึ้นแน่นอนครับ แล้วก็มีความน่ารักของตัวละครที่มากขึ้น กุ๊กกิ๊กขึ้น
กัน: แต่พอแบล็คกลับมาก็จะมีเรื่องให้ตื่นเต้น
ออฟ:ดูจูบแล้วอย่าเพิ่งตายใจคิดว่า แฮปปี้เอนดิ้ง โน




แล้วเรียลมากเผิงทำงานอยู่แต่ เต ตะวัน โทรมากลางไลฟ์เลย จุมต้องขอรับสาย
เกลียดการเมมชื่อ 'อีเตตะวัน' 555555555




แบบนี้แฟนปินส์รักตาย เพราะทั้งคู่เขายังจำสถานที่สุดท้ายตอนไปเยือนมะนิลาด้วยกันได้ด้วย
ไปที่โบสถ์แห่งนึงจำได้ว่าสวยมากกก




ช่วงเรียนรู้คำศัพท์ตากาล็อก พิธีกรมีคำว่า Jowa ที่แปลว่า แฟน มาให้ลองพูด
แล้วอยู่ดีดีจุมพลจ้าชี้ไปที่น้องแล้วพูดว่า Jowa เฉย แต่ก็รีบพูดคำว่า Chalot ที่แปลว่า ล้อเล่น ตามหลังเลย
แต่ไม่รู้ๆๆ เชื่อไปแล้ว >< 




บอกรักกันเป็นภาษาตากาล็อกก็มาแล้วหนึ่ง ~

https://twitter.com/JJUNYALEE_/status/1493881653340811266


พิธีกรเหมือนอยากให้ทั้งคู่เต้น TikTok ออฟกันก็นึก ชุดโกโกวา เพลงแรกเลย XD




มีแฟนๆ ส่งคำถามเข้ามาด้วยว่า ตอนถ่ายซีนที่ฌอห์ณเข้าไปล็อกคอแบล็คยากไหม
ออฟ: ยากเพราะมันเป็น Long Take ตั้งแต่วิ่ง และก็ไปล็อกคอ เอาหมวกกันน็อกฟาดก่อน
คือไอ้ฉากหมวกกันน็อก ตอนแรกไม่มีในบทแต่เราเพิ่มเข้ามาเอง เพราะเหมือนเป็นการทะเลาะกันที่หนักที่สุดในชีวิตเรา เพราะเขาไม่ไว้ใจเรา เราเลยต้องแสดงให้เขารู้ ว่าเป็นความคิดเราเขาควรเคารพการตัดสินใจของเรา ยากไหมไม่ยากหรอก เพราะเราช่วยกัน




ตอนเข้าฉากและต้องจ้องตากันมีหลุดขำบ้างไหม
ทั้งคู่บอก ถ้าซีนเล่นๆ ก็ไม่ค่อยหลุด แต่ถ้าเลิฟซีนหนักๆ ก็จะมีบ้างที่จะหลุดขำ
แต่ถ้าถึงเวลาจริงๆ ที่ต้องทำให้ได้ก็ไม่มีเวลามานั่งขำกัน




จากนั้นปิดท้ายพิธีกรเลยให้ทั้งคู่แข่งกันจ้องตา ใครหลุดยิ้มก่อนแพ้ กันก็คือสู้มาก เข้าไปประชิดจนป่าปี๊เสียอาการและทำพูดใส่กันว่า ให้guยิ้มป่ะ แพ้ความน่ารักก็ยอมรับมาเหอะ




#ออฟจุมพล #กันอรรถพันธ์