น้องๆเคยสงสัยไหมครับ "ภาคปกติ - ภาคพิเศษ -นานาชาติ" รวมอยู่แน่ๆ ถ้าอยากรู้ความหมายตามพี่มาเลยครับ

15 เม.ย. 65 20:37 น. / ดู 10,741 ครั้ง / 1 ความเห็น / 0 ชอบจัง / แชร์
 
   
  ����
���สวัสดีครับแฟนคลับรายการ ที่รักทุกท่าน และผู้ติดตามรายการที่น่ารักกันทุกคนเฉพาะที่เดี่ยวเลยครับ  ช่วงเวลาจากนี้ไป  จากคำขมๆ ที่รักแฟนรายการทุกท่าน  ผมเปิดอ่านปฎิทินประจำวันที่ 15เมษายน 2565 ของเวลาประมาณ  ตี3-4 ของวันรุ่งขึ้นตื่นมาจัดรายการพบกับ #พัชรพลแน่นกระโทก ผู้ดำเนินรายการ ฝากคนที่ทำงานอยู่ประจำ ไม่ว่า กะเช้า หรือ กะเย็น ก็เป็นความสุขของใครอีกหลายท่านโดยเฉพาะกับแฟนคลับรายการของผม บางท่านชอบ และหลายๆท่านก็คงชังขี้หน้าของผม นานๆต่อไปแล้ว แฟนๆ ติดตามก็จะพากันชินกันเอง  ขาดท่านใดท่านไม่ได้เลย เฉพาะทางแม่ยก  ทางพ่อยก ที่ท่านก็อุสาห์ให้สนับสนุนรายการของเราเป็นอย่างดี ผมต้องขอกราบขอบพระคุณอย่างยิ่ง แฟนคลับรายการที่ร่วมสนับสนุน เป็นสเปอร์สให้ผลิตรายการของเรา  แด่แฟนคลับรายการกันทุกท่าน ขอขอบคุณ สำหรับทางแม่ยก ทางพ่อยก รอฟังรายการของผม ในช่วงเย็นๆ จะเป็น ตี 2-3  ของทุกวัน ครับ  ผมก็ขอบอกแฟนๆรายการต่อไป  คืนนี้ ผู้ดำเนินการราย ไปหาข้อมูลจากแหล่งต่างๆ ซึ่งก็พอที่จะเชื่อถือได้ คำว่า "ภาคปกติ - ภาคพิเศษ - นานาชาติ" รวมอยู่แน่ๆ ถ้าอยากรู้ความหมายตามพี่มาเลยครับ



"ภาคปกติ" คืออะไร?



��������� ภาคปกติก็คือ "การจัดการเรียนการสอนตามหลักสูตรปกติ" ในเวลาราชการน  เวลาเรียนโดยทั่วไปคือจันทร์ถึงศุกร์ เริ่มประมาณ 8.30 - 16.30 น. ของทุกวัน (เวลาอาจปรับเปลี่ยนตามแต่ละมหาวิทยาลัยคิดว่าเหมาะสม)�

"ภาคพิเศษ" คืออะไร?



��������� ภาคพิเศษเกิดขึ้นมาจากการที่บางมหาวิทยาลัยเล็งเห็นว่าปริมาณการรับนิสิต/นักศึกษาเข้าเรียนในแต่ละปีเริ่มเพิ่มมากขึ้น จำนวนห้องเรียนอาจจะไม่เพียงพอต่อการรับเด็กๆ เข้าเรียนในแต่ละคลาส และอาจารย์ก็อาจจะดูแลนิสิต/นักศึกษาไม่ทั่วถึง เลยมีการแบ่งภาคพิเศษออกมาเพื่อให้มีห้องเรียน เครื่องมือ อุปกรณ์ที่ใช้ในการเรียนเพียงพอ และควบคุมคุณภาพการเรียนการสอนให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

��������� ภาคพิเศษของหลายมหาวิทยาลัยเลยเป็นการจัดการเรียนการสอนนอกเวลาราชการ (คนละช่วงกับภาคปกติ) ถ้าภาคปกติเริ่มเช้า - เย็น ภาคพิเศษก็จะเป็นช่วงบ่าย - ค่ำ บางทีอาจมีนัดเรียนเพิ่มเสาร์-อาทิตย์ หรือบางทีถ้าภาคปกติเรียน 8.30 - 10.30 น. ภาคพิเศษก็ใช้ห้องต่อเลยคือ 10.30-12.30 น. บางกรณีก็จะใช้วิธีการเรียนแบบทางไกลหรือการเรียนแบบระบบ Online  ขึ้นอยู่กับสถาบันที่มีความพร้อมด้านอุปกรณ์ และ ช่วงการแพร่ระบาดของโรคโคโคไวรัสครับ ส่วนตารางเรียนอาจปรับเปลี่ยนได้ตามการจัดการของแต่ละสถาบันครับ

��������� แต่ถึงจะเรียนกันคนละเวลา เนื้อหาหลักสูตรก็ไม่ได้แตกต่างไปจากภาคปกตินะคะ บางมหา'ลัยอาจารย์คนเดียวกันสอนควบเลยทั้งภาคปกติและภาคพิเศษ ชีทเรียนเหมือนกัน ตอนสอบตัดเกรดร่วมกัน ใบปริญญาก็ไม่ได้ระบุว่าจบจากภาคพิเศษแต่อย่างใด

แล้วภาคพิเศษมีความพิเศษยังไง?
��������� บางทีมีเมคอัพคลาสก็จะมีอาจารย์พิเศษ บุคลากรภายนอก หรือวิทยากรที่ทำงานในสายการเรียนเดียวกันกับเราเข้ามาบรรยายให้ความรู้เพิ่มเติมค่ะ ถ้าเป็นคณะบริหารก็อาจจะได้เจอผู้บริหารระดับสูงลงมาเทรนด้วยตัวเองเลย หรือเด็กภาคพิเศษของบางมหา'ลัย ไม่ต้องไปแย่งกันลงทะเบียนเรียนเหมือนเพื่อนภาคปกติค่ะ ทางคณะจะจัดการให้เองเลย เวลาเด็กภาคพิเศษไปดำเนินเรื่องทางการศึกษาก็ค่อนข้างรวดเร็วกว่าภาคปกติ แล้วสิ่งที่ทุกคนชอบมากก็คือเวลาค่ะ หลายคนนำเวลาช่วงเช้าที่ว่างๆ ไปเรียนภาษา ทำกิจกรรมที่ชอบ หรือเคลียร์การบ้านเพลินๆ ก็มีความสุขไปอีกแบบ

"นานาชาติ" คืออะไร?



��������� นานาชาติก็คือการจัดการเรียนการสอนในทุกคลาสเป็นภาษาอังกฤษค่ะ อาจเจอทั้งอาจารย์ไทยสอนเป็นภาษาอังกฤษและอาจารย์ชาวต่างชาติ ถ้าน้องๆ เป็นเด็กไทยที่อยากเพิ่มทักษะและความสามารถทางภาษา บอกเลยว่าหลักสูตรนานาชาติช่วยได้แน่นอน! เริ่มตั้งแต่ปรับพื้นฐานให้ได้ฝึกใช้ภาษาทั้งฟัง พูด อ่าน เขียน และเมื่อเจออาจารย์สอนเป็นภาษาอังกฤษทุกวัน ได้คุยกับเพื่อนๆ ที่ใช้ภาษาอังกฤษ บรรยากาศการเรียนจะค่อยๆ ทำให้เราคุ้นเคยกับภาษาอังกฤษไปเอง

��������� ปัจจุบันจุดแข็งของหลักสูตรนานาชาติหลายแห่ง ก็ไม่ใช่แค่มุ่งเน้นให้เด็กเก่งภาษาอังกฤษอย่างเดียวแล้ว แต่ยังมีวิชาภาษาต่างประเทศให้เลือกอีกมากมาย บางมหาวิทยาลัยมีโครงการส่งนิสิต/นักศึกษาไปร่วมโครงการแลกเปลี่ยน ประชุมวิชาการ และร่วมการแข่งขันระดับนานาชาติด้วย เรียกว่าประสบการณ์มาเต็มตั้งแต่ตอนเรียน หลังเรียนจบไปทำงานที่มีการใช้ภาษาเข้ามาเกี่ยวข้องได้คล่องเลย แถมยังมีความเชี่ยวชาญในวิชาชีพของเราด้วย

รู้จัก "ภาคปกติ - ภาคพิเศษ - นานาชาติ" ในระเบียบการ �
��������� สำหรับภาคปกติ ถ้าเปิดระเบียบการแอดมิชชั่นของ ม.เกษตรศาสตร์ ขึ้นมาดู น้องๆ จะพบเลยว่ามีคำในวงเล็บต่อท้าย "ชื่อคณะ/สาขา" ว่า "ภาคปกติ" ชัดเจน! แต่ใช่ว่ามหาวิทยาลัยอื่นๆ ที่ไม่ได้ระบุคำว่าภาคปกติในระเบียบการ จะไม่มีภาคปกตินะคะ เพราะบางที่ก็ไม่ได้มีวงเล็บไว้ค่ะ ให้รู้ไว้ว่านั่นแหละภาคปกติ

��������� มาดูอันนี้ดีกว่า "ภาคพิเศษ" มีระบุไว้
ในระเบียบการแน่นอน! เพียงแต่ชื่อหลักสูตรในแต่ละมหาวิทยาลัยมีการเรียกแตกต่างกันไป เช่น

��������� โครงการสมทบพิเศษ - ม.พระจอมเกล้าพระนครเหนือ
��������� ภาคพิเศษ - ม.เกษตรศาสตร์ ม.เชียงใหม่ ม.บูรพา
��������� โครงการ ป.ตรี ภาคพิเศษ - ม.ธรรมศาสตร์
��������� โครงการเพิ่มพิเศษ - ม.ศิลปากร
��������� ภาคสมทบ - ม.สงขลานครินทร์
��������� โครงการพิเศษ - ม.ขอนแก่น

��������� หลักสูตรนานาชาติ ก็มีหลายมหาวิทยาลัยเปิดรับเช่นกันค่ะ ทั้งสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าลาดกระบัง ม.มหิดล ม.เกษตรศาสตร์ ม.เชียงใหม่ ม.ศรีนครินทรวิโรฒ ม.ธรรมศาสตร์ ม.ขอนแก่น ม.นเรศวร ม.สงขลานครินทร์ ม.วลัยลักษณ์ ม.เทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี� ม.พระจอมเกล้าพระนครเหนือ ม.เทคโนโลยีสุรนารี ม.ราชภัฏบ้านสมเด็จ

ภาคพิเศษ - นานาชาติ เข้าง่ายจริงหรือ?
��������� น้องๆ อาจจะเคยได้ยินคนบอกมาว่าภาคพิเศษกับนานาชาติเข้าง่ายมาก ถ้าไม่ไหวจะเคลียร์กับแอดมิชชั่นที่เข้มข้นขึ้นทุกปี + มีเงินจ่ายค่าเทอม ก็ให้เข้าหลักสูตรนี้?�อยากจะบอกให้น้องๆ ระมัดระวังกันอีกนิดว่าก็ไม่ได้เข้าง่ายขนาดนั้น

��������� แต่ละที่ก็มีการคัดเลือกตามเกณฑ์มาตรฐานของคณะ/สาขานั้นเลย เพื่อให้มั่นใจว่าน้องๆ มีคุณสมบัติครบ ความสามารถเหมาะสมกับการเรียนในสาขานั้นจริงๆ ไม่โบกมือลากลางคันเพราะเรียนไม่ไหว อีกอย่างบางที่ภาคพิเศษก็เป็นที่นิยมไม่แพ้ภาคปกติค่ะ (โดยเฉพาะคณะยอดนิยม) มีกำหนดเกณฑ์ขั้นต่ำด้วย เช่น

��������� ม.ธรรมศาสตร์ คณะศิลปศาสตร์ สาขาอังกฤษ-อเมริกันศึกษา (นานาชาติ) กำหนด O-NET อังกฤษ ไม่น้อยกว่า 75 คะแนน

��������� หลักสูตรนานาชาติก็ต้องเช็กสัดส่วนคะแนน จำนวนรับ และคุณสมบัติพิเศษให้รอบคอบเช่นกัน �

��������� ม.มหิดล คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมเคมี (นานาชาติ) O-NET อังกฤษ ไม่น้อยกว่า 65 คะแนน
��������� ม.เกษตรศาสตร์ คณะอุตสาหกรรมเกษตร สาขานวัตกรรมและเทคโนโลยีอุตสาหกรรมเกษตร (นานาชาติ) กำหนดแผนการเรียนวิทย์-คณิต ใช้ภาษาอังกฤษเพื่อสื่อสารได้ กำหนดขั้นต่ำ O-NET อังกฤษ ไม่น้อยกว่า 31 คะแนน

สำหรับ ค่าเทอมของแต่ละพื้นที่ ก็สามารถโทรสอบถามกันไปได้เลย ครับ หมายเลขโทรศัพท์หรืออีกเมล์ หรือ ฝ่ายทะเบียนแต่ละสถาบันครับ

"ภาคปกติ - ภาคพิเศษ - นานาชาติ" ไปแล้ว ถ้าสนใจอยากจะเรียนจริงๆ แนะนำให้รีบศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมด่วนๆ เลยค่ะ ถ้ากังวลเรื่องค่าใช้จ่าย ด้านท้ายระเบียบการของบางมหาวิทยาลัยมีบอกอัตราค่าธรรมเนียมการศึกษานะคะ ลองบวก ลบ คูณ หารได้ แต่พี่เมก้าคิดว่าแต่ละหลักสูตรก็มีความคุ้มค่าในแบบของตัวเองค่ะ ลงทุนเพื่อการศึกษามีแต่ได้กับได้ ปล.อย่าลืมอ่านระเบียบการให้ดีก่อนตัดสินใจสมัครนะ

อย่างไรก็ตาม เรียนให้น้องๆ หรือ ผู้สนใจในการเข้าสมัครเป็นนักเรียน นิสิต หรือเข้ารับการศึกษา ของหลักสูตรนั่นของ แต่ละภาคการศึกษา ที่สถาบันเขาได้จัดโครงการขึ้น โดยคำนึงถึงค่าใช่จ่าย ค่าที่พัก และค่ากินค่าอยู่ ค่าครองชีพ เพื่อจะได้ในการคำนวณค่าเราจะต้องใช้อะไร

พี่เองต้องขอบคุณข้อมูล จาก สถาบันการต่างๆ. หรือ เว็บไซต์เพื่อการศึกษา
จากใจ พี่พัชรพลแน่นกระโทก
สำหรับเนื้อหาบางตอนหรือคลิปวีดีโอหรือภาพต่างๆที่นำมา มิใดจำหน่ายเพื่อการค้าขายแสวงหาผลกำไรแต่ประการใด หากท่านใดหรือแฟนคลับรายการมิตรรักท่านใดจะร่วมสเปอร์สเซอร์สนับสนุนรายการสามารถร่วมใดทางอินบ๊อกได้เลย หรือ จัดรายการกับผมใดเลย ซึ่งทางผู้จัดมิใช่เจ้าลิขสิทธิ์ วีดีโอและภาพเหล่านี้ ทางผู้จัดทำมิใดมีอุดมคติละเมิดใดๆ  ทางนี้ผู้จัดทำจึงขออภัยเจ้าของลิขสิทธิ์หลายท่าน มา ณที่นี้ และ ประการหนึ่ง ผู้จัดทำขอขอบคุณพระคุณท่าน แม้จะไม่ได้ขอเจ้าของลิขสิทธิ์อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ทั้งภาพและเสียงหลายท่าน และ หวังว่าที่จะได้รับความอนุเคราะห์จากท่าน ด้วยความยินดี ในจัดทำคลิปต่างหรือบทความต่างในครั้งนี้ 
#สำหรับแฟนคลับรายการท่านใด ที่จะติดชมรายการ ก็สมารถติชมรายการมาได้เลย หรือเข้ามาพูดกันในไลน์  หรือ ในอินบ๊อก ได้เลยนะครับ ท่าน
#วันนี้ ขอขอบคุณ ทุกท่าน ที่ติดตามอ่านและรับชมกันทุกท่าน ครับ วันนี้ สวัสดีครับ
#พัชรพลแน่นกระโทก
เลขไอพี : ไม่แสดง | ตั้งกระทู้โดย iPhone

อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)

ความคิดเห็น

#1 | sz425885 | 11 ก.ย. 65 11:01 น.

ไอพี: ไม่แสดง | โดย Windows 10

แสดงความคิดเห็น

จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google