น้องๆเคยสงสัยไหมครับ "ภาคปกติ - ภาคพิเศษ -นานาชาติ" รวมอยู่แน่ๆ ถ้าอยากรู้ความหมายตามพี่มาเลยครับ
15 เม.ย. 65 20:37 น. /
ดู 10,517 ครั้ง /
1 ความเห็น /
0 ชอบจัง
/
แชร์

����
���สวัสดีครับแฟนคลับรายการ ที่รักทุกท่าน และผู้ติดตามรายการที่น่ารักกันทุกคนเฉพาะที่เดี่ยวเลยครับ ช่วงเวลาจากนี้ไป จากคำขมๆ ที่รักแฟนรายการทุกท่าน ผมเปิดอ่านปฎิทินประจำวันที่ 15เมษายน 2565 ของเวลาประมาณ ตี3-4 ของวันรุ่งขึ้นตื่นมาจัดรายการพบกับ #พัชรพลแน่นกระโทก ผู้ดำเนินรายการ ฝากคนที่ทำงานอยู่ประจำ ไม่ว่า กะเช้า หรือ กะเย็น ก็เป็นความสุขของใครอีกหลายท่านโดยเฉพาะกับแฟนคลับรายการของผม บางท่านชอบ และหลายๆท่านก็คงชังขี้หน้าของผม นานๆต่อไปแล้ว แฟนๆ ติดตามก็จะพากันชินกันเอง ขาดท่านใดท่านไม่ได้เลย เฉพาะทางแม่ยก ทางพ่อยก ที่ท่านก็อุสาห์ให้สนับสนุนรายการของเราเป็นอย่างดี ผมต้องขอกราบขอบพระคุณอย่างยิ่ง แฟนคลับรายการที่ร่วมสนับสนุน เป็นสเปอร์สให้ผลิตรายการของเรา แด่แฟนคลับรายการกันทุกท่าน ขอขอบคุณ สำหรับทางแม่ยก ทางพ่อยก รอฟังรายการของผม ในช่วงเย็นๆ จะเป็น ตี 2-3 ของทุกวัน ครับ ผมก็ขอบอกแฟนๆรายการต่อไป คืนนี้ ผู้ดำเนินการราย ไปหาข้อมูลจากแหล่งต่างๆ ซึ่งก็พอที่จะเชื่อถือได้ คำว่า "ภาคปกติ - ภาคพิเศษ - นานาชาติ" รวมอยู่แน่ๆ ถ้าอยากรู้ความหมายตามพี่มาเลยครับ
�
"ภาคปกติ" คืออะไร?
�
��������� ภาคปกติก็คือ "การจัดการเรียนการสอนตามหลักสูตรปกติ" ในเวลาราชการน เวลาเรียนโดยทั่วไปคือจันทร์ถึงศุกร์ เริ่มประมาณ 8.30 - 16.30 น. ของทุกวัน (เวลาอาจปรับเปลี่ยนตามแต่ละมหาวิทยาลัยคิดว่าเหมาะสม)�
"ภาคพิเศษ" คืออะไร?
�
��������� ภาคพิเศษเกิดขึ้นมาจากการที่บางมหาวิทยาลัยเล็งเห็นว่าปริมาณการรับนิสิต/นักศึกษาเข้าเรียนในแต่ละปีเริ่มเพิ่มมากขึ้น จำนวนห้องเรียนอาจจะไม่เพียงพอต่อการรับเด็กๆ เข้าเรียนในแต่ละคลาส และอาจารย์ก็อาจจะดูแลนิสิต/นักศึกษาไม่ทั่วถึง เลยมีการแบ่งภาคพิเศษออกมาเพื่อให้มีห้องเรียน เครื่องมือ อุปกรณ์ที่ใช้ในการเรียนเพียงพอ และควบคุมคุณภาพการเรียนการสอนให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
��������� ภาคพิเศษของหลายมหาวิทยาลัยเลยเป็นการจัดการเรียนการสอนนอกเวลาราชการ (คนละช่วงกับภาคปกติ) ถ้าภาคปกติเริ่มเช้า - เย็น ภาคพิเศษก็จะเป็นช่วงบ่าย - ค่ำ บางทีอาจมีนัดเรียนเพิ่มเสาร์-อาทิตย์ หรือบางทีถ้าภาคปกติเรียน 8.30 - 10.30 น. ภาคพิเศษก็ใช้ห้องต่อเลยคือ 10.30-12.30 น. บางกรณีก็จะใช้วิธีการเรียนแบบทางไกลหรือการเรียนแบบระบบ Online ขึ้นอยู่กับสถาบันที่มีความพร้อมด้านอุปกรณ์ และ ช่วงการแพร่ระบาดของโรคโคโคไวรัสครับ ส่วนตารางเรียนอาจปรับเปลี่ยนได้ตามการจัดการของแต่ละสถาบันครับ
��������� แต่ถึงจะเรียนกันคนละเวลา เนื้อหาหลักสูตรก็ไม่ได้แตกต่างไปจากภาคปกตินะคะ บางมหา'ลัยอาจารย์คนเดียวกันสอนควบเลยทั้งภาคปกติและภาคพิเศษ ชีทเรียนเหมือนกัน ตอนสอบตัดเกรดร่วมกัน ใบปริญญาก็ไม่ได้ระบุว่าจบจากภาคพิเศษแต่อย่างใด
แล้วภาคพิเศษมีความพิเศษยังไง?
��������� บางทีมีเมคอัพคลาสก็จะมีอาจารย์พิเศษ บุคลากรภายนอก หรือวิทยากรที่ทำงานในสายการเรียนเดียวกันกับเราเข้ามาบรรยายให้ความรู้เพิ่มเติมค่ะ ถ้าเป็นคณะบริหารก็อาจจะได้เจอผู้บริหารระดับสูงลงมาเทรนด้วยตัวเองเลย หรือเด็กภาคพิเศษของบางมหา'ลัย ไม่ต้องไปแย่งกันลงทะเบียนเรียนเหมือนเพื่อนภาคปกติค่ะ ทางคณะจะจัดการให้เองเลย เวลาเด็กภาคพิเศษไปดำเนินเรื่องทางการศึกษาก็ค่อนข้างรวดเร็วกว่าภาคปกติ แล้วสิ่งที่ทุกคนชอบมากก็คือเวลาค่ะ หลายคนนำเวลาช่วงเช้าที่ว่างๆ ไปเรียนภาษา ทำกิจกรรมที่ชอบ หรือเคลียร์การบ้านเพลินๆ ก็มีความสุขไปอีกแบบ
"นานาชาติ" คืออะไร?
�
��������� นานาชาติก็คือการจัดการเรียนการสอนในทุกคลาสเป็นภาษาอังกฤษค่ะ อาจเจอทั้งอาจารย์ไทยสอนเป็นภาษาอังกฤษและอาจารย์ชาวต่างชาติ ถ้าน้องๆ เป็นเด็กไทยที่อยากเพิ่มทักษะและความสามารถทางภาษา บอกเลยว่าหลักสูตรนานาชาติช่วยได้แน่นอน! เริ่มตั้งแต่ปรับพื้นฐานให้ได้ฝึกใช้ภาษาทั้งฟัง พูด อ่าน เขียน และเมื่อเจออาจารย์สอนเป็นภาษาอังกฤษทุกวัน ได้คุยกับเพื่อนๆ ที่ใช้ภาษาอังกฤษ บรรยากาศการเรียนจะค่อยๆ ทำให้เราคุ้นเคยกับภาษาอังกฤษไปเอง
��������� ปัจจุบันจุดแข็งของหลักสูตรนานาชาติหลายแห่ง ก็ไม่ใช่แค่มุ่งเน้นให้เด็กเก่งภาษาอังกฤษอย่างเดียวแล้ว แต่ยังมีวิชาภาษาต่างประเทศให้เลือกอีกมากมาย บางมหาวิทยาลัยมีโครงการส่งนิสิต/นักศึกษาไปร่วมโครงการแลกเปลี่ยน ประชุมวิชาการ และร่วมการแข่งขันระดับนานาชาติด้วย เรียกว่าประสบการณ์มาเต็มตั้งแต่ตอนเรียน หลังเรียนจบไปทำงานที่มีการใช้ภาษาเข้ามาเกี่ยวข้องได้คล่องเลย แถมยังมีความเชี่ยวชาญในวิชาชีพของเราด้วย
�
รู้จัก "ภาคปกติ - ภาคพิเศษ - นานาชาติ" ในระเบียบการ �
��������� สำหรับภาคปกติ ถ้าเปิดระเบียบการแอดมิชชั่นของ ม.เกษตรศาสตร์ ขึ้นมาดู น้องๆ จะพบเลยว่ามีคำในวงเล็บต่อท้าย "ชื่อคณะ/สาขา" ว่า "ภาคปกติ" ชัดเจน! แต่ใช่ว่ามหาวิทยาลัยอื่นๆ ที่ไม่ได้ระบุคำว่าภาคปกติในระเบียบการ จะไม่มีภาคปกตินะคะ เพราะบางที่ก็ไม่ได้มีวงเล็บไว้ค่ะ ให้รู้ไว้ว่านั่นแหละภาคปกติ
��������� มาดูอันนี้ดีกว่า "ภาคพิเศษ" มีระบุไว้
ในระเบียบการแน่นอน! เพียงแต่ชื่อหลักสูตรในแต่ละมหาวิทยาลัยมีการเรียกแตกต่างกันไป เช่น�
"ภาคปกติ" คืออะไร?
�
��������� ภาคปกติก็คือ "การจัดการเรียนการสอนตามหลักสูตรปกติ" ในเวลาราชการน เวลาเรียนโดยทั่วไปคือจันทร์ถึงศุกร์ เริ่มประมาณ 8.30 - 16.30 น. ของทุกวัน (เวลาอาจปรับเปลี่ยนตามแต่ละมหาวิทยาลัยคิดว่าเหมาะสม)�
"ภาคพิเศษ" คืออะไร?
�
��������� ภาคพิเศษเกิดขึ้นมาจากการที่บางมหาวิทยาลัยเล็งเห็นว่าปริมาณการรับนิสิต/นักศึกษาเข้าเรียนในแต่ละปีเริ่มเพิ่มมากขึ้น จำนวนห้องเรียนอาจจะไม่เพียงพอต่อการรับเด็กๆ เข้าเรียนในแต่ละคลาส และอาจารย์ก็อาจจะดูแลนิสิต/นักศึกษาไม่ทั่วถึง เลยมีการแบ่งภาคพิเศษออกมาเพื่อให้มีห้องเรียน เครื่องมือ อุปกรณ์ที่ใช้ในการเรียนเพียงพอ และควบคุมคุณภาพการเรียนการสอนให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
��������� ภาคพิเศษของหลายมหาวิทยาลัยเลยเป็นการจัดการเรียนการสอนนอกเวลาราชการ (คนละช่วงกับภาคปกติ) ถ้าภาคปกติเริ่มเช้า - เย็น ภาคพิเศษก็จะเป็นช่วงบ่าย - ค่ำ บางทีอาจมีนัดเรียนเพิ่มเสาร์-อาทิตย์ หรือบางทีถ้าภาคปกติเรียน 8.30 - 10.30 น. ภาคพิเศษก็ใช้ห้องต่อเลยคือ 10.30-12.30 น. บางกรณีก็จะใช้วิธีการเรียนแบบทางไกลหรือการเรียนแบบระบบ Online ขึ้นอยู่กับสถาบันที่มีความพร้อมด้านอุปกรณ์ และ ช่วงการแพร่ระบาดของโรคโคโคไวรัสครับ ส่วนตารางเรียนอาจปรับเปลี่ยนได้ตามการจัดการของแต่ละสถาบันครับ
��������� แต่ถึงจะเรียนกันคนละเวลา เนื้อหาหลักสูตรก็ไม่ได้แตกต่างไปจากภาคปกตินะคะ บางมหา'ลัยอาจารย์คนเดียวกันสอนควบเลยทั้งภาคปกติและภาคพิเศษ ชีทเรียนเหมือนกัน ตอนสอบตัดเกรดร่วมกัน ใบปริญญาก็ไม่ได้ระบุว่าจบจากภาคพิเศษแต่อย่างใด
แล้วภาคพิเศษมีความพิเศษยังไง?
��������� บางทีมีเมคอัพคลาสก็จะมีอาจารย์พิเศษ บุคลากรภายนอก หรือวิทยากรที่ทำงานในสายการเรียนเดียวกันกับเราเข้ามาบรรยายให้ความรู้เพิ่มเติมค่ะ ถ้าเป็นคณะบริหารก็อาจจะได้เจอผู้บริหารระดับสูงลงมาเทรนด้วยตัวเองเลย หรือเด็กภาคพิเศษของบางมหา'ลัย ไม่ต้องไปแย่งกันลงทะเบียนเรียนเหมือนเพื่อนภาคปกติค่ะ ทางคณะจะจัดการให้เองเลย เวลาเด็กภาคพิเศษไปดำเนินเรื่องทางการศึกษาก็ค่อนข้างรวดเร็วกว่าภาคปกติ แล้วสิ่งที่ทุกคนชอบมากก็คือเวลาค่ะ หลายคนนำเวลาช่วงเช้าที่ว่างๆ ไปเรียนภาษา ทำกิจกรรมที่ชอบ หรือเคลียร์การบ้านเพลินๆ ก็มีความสุขไปอีกแบบ
"นานาชาติ" คืออะไร?
�
��������� นานาชาติก็คือการจัดการเรียนการสอนในทุกคลาสเป็นภาษาอังกฤษค่ะ อาจเจอทั้งอาจารย์ไทยสอนเป็นภาษาอังกฤษและอาจารย์ชาวต่างชาติ ถ้าน้องๆ เป็นเด็กไทยที่อยากเพิ่มทักษะและความสามารถทางภาษา บอกเลยว่าหลักสูตรนานาชาติช่วยได้แน่นอน! เริ่มตั้งแต่ปรับพื้นฐานให้ได้ฝึกใช้ภาษาทั้งฟัง พูด อ่าน เขียน และเมื่อเจออาจารย์สอนเป็นภาษาอังกฤษทุกวัน ได้คุยกับเพื่อนๆ ที่ใช้ภาษาอังกฤษ บรรยากาศการเรียนจะค่อยๆ ทำให้เราคุ้นเคยกับภาษาอังกฤษไปเอง
��������� ปัจจุบันจุดแข็งของหลักสูตรนานาชาติหลายแห่ง ก็ไม่ใช่แค่มุ่งเน้นให้เด็กเก่งภาษาอังกฤษอย่างเดียวแล้ว แต่ยังมีวิชาภาษาต่างประเทศให้เลือกอีกมากมาย บางมหาวิทยาลัยมีโครงการส่งนิสิต/นักศึกษาไปร่วมโครงการแลกเปลี่ยน ประชุมวิชาการ และร่วมการแข่งขันระดับนานาชาติด้วย เรียกว่าประสบการณ์มาเต็มตั้งแต่ตอนเรียน หลังเรียนจบไปทำงานที่มีการใช้ภาษาเข้ามาเกี่ยวข้องได้คล่องเลย แถมยังมีความเชี่ยวชาญในวิชาชีพของเราด้วย
�
รู้จัก "ภาคปกติ - ภาคพิเศษ - นานาชาติ" ในระเบียบการ �
��������� สำหรับภาคปกติ ถ้าเปิดระเบียบการแอดมิชชั่นของ ม.เกษตรศาสตร์ ขึ้นมาดู น้องๆ จะพบเลยว่ามีคำในวงเล็บต่อท้าย "ชื่อคณะ/สาขา" ว่า "ภาคปกติ" ชัดเจน! แต่ใช่ว่ามหาวิทยาลัยอื่นๆ ที่ไม่ได้ระบุคำว่าภาคปกติในระเบียบการ จะไม่มีภาคปกตินะคะ เพราะบางที่ก็ไม่ได้มีวงเล็บไว้ค่ะ ให้รู้ไว้ว่านั่นแหละภาคปกติ
��������� มาดูอันนี้ดีกว่า "ภาคพิเศษ" มีระบุไว้
��������� โครงการสมทบพิเศษ - ม.พระจอมเกล้าพระนครเหนือ
��������� ภาคพิเศษ - ม.เกษตรศาสตร์ ม.เชียงใหม่ ม.บูรพา
��������� โครงการ ป.ตรี ภาคพิเศษ - ม.ธรรมศาสตร์
��������� โครงการเพิ่มพิเศษ - ม.ศิลปากร
��������� ภาคสมทบ - ม.สงขลานครินทร์
��������� โครงการพิเศษ - ม.ขอนแก่น
��������� หลักสูตรนานาชาติ ก็มีหลายมหาวิทยาลัยเปิดรับเช่นกันค่ะ ทั้งสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าลาดกระบัง ม.มหิดล ม.เกษตรศาสตร์ ม.เชียงใหม่ ม.ศรีนครินทรวิโรฒ ม.ธรรมศาสตร์ ม.ขอนแก่น ม.นเรศวร ม.สงขลานครินทร์ ม.วลัยลักษณ์ ม.เทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี� ม.พระจอมเกล้าพระนครเหนือ ม.เทคโนโลยีสุรนารี ม.ราชภัฏบ้านสมเด็จ
ภาคพิเศษ - นานาชาติ เข้าง่ายจริงหรือ?
��������� น้องๆ อาจจะเคยได้ยินคนบอกมาว่าภาคพิเศษกับนานาชาติเข้าง่ายมาก ถ้าไม่ไหวจะเคลียร์กับแอดมิชชั่นที่เข้มข้นขึ้นทุกปี + มีเงินจ่ายค่าเทอม ก็ให้เข้าหลักสูตรนี้?�อยากจะบอกให้น้องๆ ระมัดระวังกันอีกนิดว่าก็ไม่ได้เข้าง่ายขนาดนั้น
��������� แต่ละที่ก็มีการคัดเลือกตามเกณฑ์มาตรฐานของคณะ/สาขานั้นเลย เพื่อให้มั่นใจว่าน้องๆ มีคุณสมบัติครบ ความสามารถเหมาะสมกับการเรียนในสาขานั้นจริงๆ ไม่โบกมือลากลางคันเพราะเรียนไม่ไหว อีกอย่างบางที่ภาคพิเศษก็เป็นที่นิยมไม่แพ้ภาคปกติค่ะ (โดยเฉพาะคณะยอดนิยม) มีกำหนดเกณฑ์ขั้นต่ำด้วย เช่น
��������� ม.ธรรมศาสตร์ คณะศิลปศาสตร์ สาขาอังกฤษ-อเมริกันศึกษา (นานาชาติ) กำหนด O-NET อังกฤษ ไม่น้อยกว่า 75 คะแนน
��������� หลักสูตรนานาชาติก็ต้องเช็กสัดส่วนคะแนน จำนวนรับ และคุณสมบัติพิเศษให้รอบคอบเช่นกัน �
��������� ม.มหิดล คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมเคมี (นานาชาติ) O-NET อังกฤษ ไม่น้อยกว่า 65 คะแนน
��������� ม.เกษตรศาสตร์ คณะอุตสาหกรรมเกษตร สาขานวัตกรรมและเทคโนโลยีอุตสาหกรรมเกษตร (นานาชาติ) กำหนดแผนการเรียนวิทย์-คณิต ใช้ภาษาอังกฤษเพื่อสื่อสารได้ กำหนดขั้นต่ำ O-NET อังกฤษ ไม่น้อยกว่า 31 คะแนน
สำหรับ ค่าเทอมของแต่ละพื้นที่ ก็สามารถโทรสอบถามกันไปได้เลย ครับ หมายเลขโทรศัพท์หรืออีกเมล์ หรือ ฝ่ายทะเบียนแต่ละสถาบันครับ
"ภาคปกติ - ภาคพิเศษ - นานาชาติ" ไปแล้ว ถ้าสนใจอยากจะเรียนจริงๆ แนะนำให้รีบศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมด่วนๆ เลยค่ะ ถ้ากังวลเรื่องค่าใช้จ่าย ด้านท้ายระเบียบการของบางมหาวิทยาลัยมีบอกอัตราค่าธรรมเนียมการศึกษานะคะ ลองบวก ลบ คูณ หารได้ แต่พี่เมก้าคิดว่าแต่ละหลักสูตรก็มีความคุ้มค่าในแบบของตัวเองค่ะ ลงทุนเพื่อการศึกษามีแต่ได้กับได้ ปล.อย่าลืมอ่านระเบียบการให้ดีก่อนตัดสินใจสมัครนะ
อย่างไรก็ตาม เรียนให้น้องๆ หรือ ผู้สนใจในการเข้าสมัครเป็นนักเรียน นิสิต หรือเข้ารับการศึกษา ของหลักสูตรนั่นของ แต่ละภาคการศึกษา ที่สถาบันเขาได้จัดโครงการขึ้น โดยคำนึงถึงค่าใช่จ่าย ค่าที่พัก และค่ากินค่าอยู่ ค่าครองชีพ เพื่อจะได้ในการคำนวณค่าเราจะต้องใช้อะไร
พี่เองต้องขอบคุณข้อมูล จาก สถาบันการต่างๆ. หรือ เว็บไซต์เพื่อการศึกษา
จากใจ พี่พัชรพลแน่นกระโทก
สำหรับเนื้อหาบางตอนหรือคลิปวีดีโอหรือภาพต่างๆที่นำมา มิใดจำหน่ายเพื่อการค้าขายแสวงหาผลกำไรแต่ประการใด หากท่านใดหรือแฟนคลับรายการมิตรรักท่านใดจะร่วมสเปอร์สเซอร์สนับสนุนรายการสามารถร่วมใดทางอินบ๊อกได้เลย หรือ จัดรายการกับผมใดเลย ซึ่งทางผู้จัดมิใช่เจ้าลิขสิทธิ์ วีดีโอและภาพเหล่านี้ ทางผู้จัดทำมิใดมีอุดมคติละเมิดใดๆ ทางนี้ผู้จัดทำจึงขออภัยเจ้าของลิขสิทธิ์หลายท่าน มา ณที่นี้ และ ประการหนึ่ง ผู้จัดทำขอขอบคุณพระคุณท่าน แม้จะไม่ได้ขอเจ้าของลิขสิทธิ์อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ทั้งภาพและเสียงหลายท่าน และ หวังว่าที่จะได้รับความอนุเคราะห์จากท่าน ด้วยความยินดี ในจัดทำคลิปต่างหรือบทความต่างในครั้งนี้
#สำหรับแฟนคลับรายการท่านใด ที่จะติดชมรายการ ก็สมารถติชมรายการมาได้เลย หรือเข้ามาพูดกันในไลน์ หรือ ในอินบ๊อก ได้เลยนะครับ ท่าน
#วันนี้ ขอขอบคุณ ทุกท่าน ที่ติดตามอ่านและรับชมกันทุกท่าน ครับ วันนี้ สวัสดีครับ
#พัชรพลแน่นกระโทก
เลขไอพี : ไม่แสดง
| ตั้งกระทู้โดย iPhone
อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)
ความคิดเห็น
จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google