จากรุ่นพ่อสู่รุ่นลูก ปณิธานการ "ให้" ไม่เคยเปลี่ยนแปลง วิชัย ศรีวัฒนประภา

นับเป็นเวลากว่า 12 ปีแล้ว ที่ "คิง เพาเวอร์" เข้ามาเป็นเจ้าของสโมสร เลสเตอร์ ซิตี้ และสร้างสิ่งดีๆ ไว้มากมาย ไม่เพียงในแง่ของกีฬาฟุตบอล แต่ยังรวมไปถึงการช่วยเหลือ และพัฒนาชีวิตของคนในชุมชนด้วย
    คุณวิชัย ศรีวัฒนประภา คือผู้ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จทุกอย่าง     ตำแหน่งแชมป์พรีเมียร์ลีกซีซั่น 2015/16 จะถูกเล่าขานไปอีกตราบนานเท่านาน ในฐานะความสำเร็จที่พลิกล็อกช็อกโลกที่สุด เมื่อ เลสเตอร์ สามารถแหวกฝูงยักษ์ใหญ่นามกระเดื่อง ผงาดขึ้นเถลิงบัลลังก์แชมป์ลีกสูงสุดเมืองผู้ดีได้สำเร็จเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ก่อตั้งสโมสรเมื่อปี 1884 หรือ 132 ปีที่แล้ว

ไม่มีใครคาดคิดว่า เลสเตอร์ จะทำได้ อัตราต่อรองการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ก่อนเริ่มฤดูกาลของพวกเขาถูกหยันสุดกู่ถึง 5000/1 (แทง 1 ได้ 5000 ไม่รวมทุน)

    แต่ เลสเตอร์ ภายใต้การบริหารของคุณวิชัยก็ทำได้ ชนิดปากกาเซียนทุกสำนักหักสะบั้น



เลสเตอร์ จารึกชื่อตัวเองบนแผนที่ลูกหนังโลกอย่างสง่าผ่าเผย สร้างความยินดีปรีดาให้ชาวเมืองเล็กๆ แถบ อีสต์ มิดแลนด์ส ของอังกฤษ เป็นอย่างมาก

    หากมองย้อนกลับไปเมื่อปี 2553 การเข้าเทกโอเวอร์สโมสร "จิ้งจอกสีน้ำเงิน" ของคุณวิชัย ดูผิวเผินก็คงเป็นเพียงเรื่องธุรกิจ ทว่าระยะเวลาได้พิสูจน์ให้เห็นทุกอย่างชัดเจน ถึงความตั้งใจทำงาน ตลอดความทุ่มเทที่ผู้บริหารชาวไทยมีให้กับสโมสร และเมืองเลสเตอร์

    คุณวิชัย กลายเป็นที่เคารพรักของทุกคน ไม่เฉพาะแต่บรรดานักเตะ และทีมงานสโมสร แต่ยังรวมไปถึงชาวเมือง เลสเตอร์ อีกด้วย

    ทุกคนยินดีที่จะเรียกเขาว่า "THE BOSS" อย่างเต็มปาก

    ในช่วงปี 2553-2561 ที่คุณวิชัย ดำรงตำแหน่งประธานสโมสร เลสเตอร์ ซิตี้ เขายังได้มีส่วนรวมในการสนับสนุนองค์กรต่างๆและพัฒนาชุมชนหลายด้านในเมืองเลสเตอร์



ไม่ว่าจะเป็น ด้านศาสนา ผ่านการบูรณะและฟื้นฟูวิหารของเมืองเลสเตอร์, การบูรณะหลุมศพของกษัตริย์ริชาร์ดที่ 3 ด้วยการสร้างศูนย์เฮอร์ริเทจเซ็นเตอร์แห่งใหม่เพื่อใช้เป็นสาธารณประโยชน์
    หรือด้านสาธารณสุข โดยการสนับสนุนโรงพยาบาลเลสเตอร์เพื่อยกระดับการบริการทางการแพทย์ให้ดียิ่งขึ้น และสมทบทุนสร้างหออภิบาลผู้ป่วยวิกฤติเด็ก รวมถึงการสนับสนุนทุนวิจัยด้านสุขภาพเด็กโรงพยาบาลในเขต เลสเตอร์ และมหาวิทยาลัยเลสเตอร์

    ด้านคุณภาพชีวิต ซึ่งมูลนิธิวิชัย ศรีวัฒนประภา ได้จัดตั้งโครงการ "กิฟท์ ออฟ อะ วิช" (Gift Of A Wish)
ของขวัญแห่งความปรารถนา เพื่อสนับสนุนและช่วยเหลือหน่วยต่างๆ ในเมืองเลสเตอร์



และด้านกีฬา คุณวิชัยได้ก่อตั้ง "มูลนิธิ แอลซีเอฟซี ฟ็อกซ์ ฟาวน์เดชั่น" (LCFC Foxes Foundation) เพื่อช่วยเหลือผู้ที่ขาดแคลน ซึ่งต่อมา เพื่อรำลึกและสานต่อเจตนารมณ์ของการเป็นผู้ให้ที่ไม่หวังสิ่งใดตอบแทนของคุณวิชัย ทางครอบครัวศรีวัฒนประภา ได้เปลี่ยนชื่อเป็น "มูลนิธิวิชัย ศรีวัฒนประภา" (Vichai Srivaddhanaprabha Foundation) ในปัจจุบัน



  ล่าสุดกับรางวัล "บุคคลยอดเยี่ยมแห่งเมืองเลสเตอร์" (The City of Leicester Award) นับเป็นเกียรติยศสูงสุดรางวัลใหม่ที่สภาเมืองเลสเตอร์ได้พิจารณามอบให้กับบุคคลที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับชาวเมือง และให้ความช่วยเหลือสนับสนุนเมืองเลสเตอร์ด้วยดีเสมอมา



โดยผู้รับรางวัลคนแรกคือ คุณวิชัย ศรีวัฒนประภา อดีตประธานสโมสร และคุณอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานสโมสรคนปัจจุบัน

    นอกจากนี้ สภาเมืองเลสเตอร์ ยังได้มอบรางวัลกิตติมศักดิ์แห่งเสรีภาพของเมือง "Honorary Freedom of the City" ให้กับสโมสรฟุตบอล เลสเตอร์ ซิตี้ เพื่อเป็นการเชิดชูเกียรติสโมสรที่มีผลงานความสำเร็จด้านกีฬาและความมุ่งมั่นที่มีต่อชุมชนเลสเตอร์ โดยมอบรางวัลนี้ให้กับ แกรี่ ลินิเกอร์ ตำนานแข้ง เลสเตอร์ ซิตี้, อลัน เบิร์ชแนล "เดอะ เบิร์ช" รวมถึง เดวิด และ ริชาร์ด เดวิด แอทเทนโบโรห์

    โดยสภาเมืองเลสเตอร์ได้จัดพิธีมอบรางวัลอันทรงคุณค่านี้ ในวันเปิดอนุสาวรีย์คุณวิชัย ศรีวัฒนประภา เมื่อวันจันทร์ ที่ 4 เมษายน 2565 ที่ผ่านมา ณ คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม เมืองเลสเตอร์ ประเทศอังกฤษ



คุณซูซาน วีแลน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเลสเตอร์ กล่าวว่า "ทุกคนที่สโมสรเลสเตอร์รู้สึกดีใจ และเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่สามารถนำพาความสำเร็จ และความภาคภูมิใจมาสู่เมืองเลสเตอร์ สิ่งเหล่านี้ ถูกปลูกฝังอยู่ในใจของชาวเลสเตอร์มาอย่างยาวนาน ขอขอบคุณนักเตะทีมงาน และผู้สนับสนุนทุกคนในความทุ่มเท มุ่งมั่น จนได้รับรางวัลเกียรติยศนี้ เราจะทำให้ดีที่สุดเพื่อเมืองของเราให้สมกับประวัติศาสตร์ที่ทรงคุณค่ากว่า 138 ปี ของสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้"

    "และแน่นอนว่า เรื่องราวของเลสเตอร์ ซิตี้ จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากขาดคุณวิชัย คุณอัยยวัฒน์ และครอบครัวศรีวัฒนประภา ที่นำวิสัยทัศน์มาสู่สโมสรและเมืองแห่งนี้ รวมถึงการอุทิศตนอย่างไม่ย่อท้อในการทำความฝันให้เป็นความจริง"

    ความสำเร็จอันรุ่งโรจน์ของ เลสเตอร์ ซิตี้ และจิตวิญญาณของชุมชนได้รับการเฉลิมฉลองในพิธีมอบรางวัลอันทรงเกียรติทั้งสองรางวัลโดยนายกเทศมนตรีเมืองเลสเตอร์ ดีพัค บาจาญ กล่าวว่า "เราภูมิใจอย่างมากกับความสำเร็จของเลสเตอร์ ซิตี้ ทั้งในและนอกสนาม และรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งกับความสำเร็จของสโมสรในวันนี้ จึงได้มอบรางวัลกิตติมศักดิ์แห่งเสรีภาพของเมืองให้กับพวกเขา ซึ่งผลงานของสโมสรที่ทุกคนร่วมกันสร้างขึ้นมาทั้งนักเตะ ผู้ฝึกสอน โค้ช และทีมงานทุกคนจากจุดเริ่มต้นจนถึงปัจจุบัน ผลงานเหล่านี้ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง เรารับรู้ถึงการสนับสนุนและสานต่อวิสัยทัศน์และปณิธานในการลงทุนของคุณวิชัยอย่างต่อเนื่องในสโมสรและชุมชนเลสเตอร์ โดยคุณอัยยวัฒน์ ลูกชาย ประธานสโมสรปัจจุบัน"

    "พวกเรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะยกย่องให้ทั้งสองท่าน เป็นคนแรกที่ได้รับรางวัลบุคคลยอดเยี่ยมแห่งเมืองเลสเตอร์นี้ กีฬาเป็นจุดศูนย์รวมให้ทุกคนมารวมกัน และครอบครัวศรีวัฒนประภาได้สร้างความแข็งแกร่งและผลักดันให้ชุมชนเลสเตอร์เจริญรุ่งเรืองมากยิ่งขึ้น"

รางวัลอันทรงเกียรติที่ได้รับจากชาวเลสเตอร์ในวันนี้ เป็นเครื่องแสดงถึงความรัก และความเคารพยิ่งของชาวเลสเตอร์ ที่มีให้จิตวิญญาณของผู้ชายที่ได้รับการยกย่องว่า เป็น "ผู้ให้" เสมอมา

    ถึงแม้ว่า คุณวิชัยจะจากไปแล้ว แต่ปณิธานการให้ของอดีตประธานสโมสร ยังคงถูกสืบสานโดยคุณอัยยวัฒน์ ผู้ที่เข้ามาสืบทอดตำแหน่งประธานสโมสรในปี 2562

    เลสเตอร์ ภายใต้การบริหารของคุณอัยยวัฒน์ สร้างความสุขให้ชาวเมืองเลสเตอร์ ด้วยตำแหน่งแชมป์ เอฟเอ คัพ หนแรกนับตั้งแต่ก่อตั้งสโมสรหรือในรอบ 137 ปี



น้ำใจเล็กๆ น้อยๆ แบบไทยๆ อย่างอาหารว่าง หรือเครื่องดื่ม อุปกรณ์การเชียร์ กระทั่งรถรับส่งเพื่อไปชมเกมนัดเยือนที่เคยทำให้แฟนบอล เลสเตอร์ ประทับใจในสมัยคุณวิชัย ทุกวันนี้ สาวก "จิ้งจอกสีน้ำเงิน" ก็ยังคงได้รับความประทับใจจากเรื่องเล็กๆ น้อยๆ แต่ยิ่งใหญ่ในความรู้สึกเหล่านี้

    พวกเขามีรอยยิ้มเปี่ยมสุขทุกครั้งที่ได้หอบลูกจูงหลานเข้ามาชมเกมที่ คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม

    คุณอัยยวัฒน์ ได้เข้ามาสืบสานวิสัยทัศน์ของบิดา จนก้าวเข้าไปนั่งอยู่ในหัวใจแฟนๆ "จิ้งจอกสีน้ำเงิน" ทุกดวงเรียบร้อย
 
    เมื่อเร็วๆ นี้ สำนักข่าวต่างประเทศเพิ่งลงภาพประทับใจที่เขา เดินเคียงบ่าเคียงไหล่ไปเชียร์ทีมรักในเกมเยือนถ้วยยุโรปพร้อมกับแฟนๆ โดยไม่ถือตัว ท่ามกลางเสียงปรบมือด้วยความประทับใจจากเหล่าสาวก "จิ้งจอกสีน้ำเงิน"

    เป็นภาพที่หาดูได้ยากยิ่ง เพราะ เลสเตอร์ เป็นเพียงไม่กี่สโมสรในโลกลูกหนังที่ผู้บริหาร มีความสัมพันธ์อันดี และมัดแน่นกับแฟนบอล

    ทุกครั้งที่มีการทำโพลล์สำรวจความเห็นแฟนบอลในหัวข้อประธานสโมสรฟุตบอลที่ดีที่สุด เราจะพบว่าชื่อของคุณอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา จะนำมาเสมอ

    เลสเตอร์ ซิตี้ อยู่กันเหมือนครอบครัว ทางสโมสรพร้อมรับฟังแฟนบอลเสมอ ที่สำคัญ พวกเขาได้แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจ และจริงใจในการทำงาน ไม่ใช่การเข้ามากอบโกยผลประโยชน์

    นี่คือแนวทางที่ถูกวางไว้ตั้งแต่รุ่นพ่อ

    อย่างที่คุณอัยยวัฒน์ กล่าวไว้ตอนรับรางวัลเกียรติยศต่อหน้าอนุสาวรีย์บิดาผู้เป็นที่รัก

  "คุณพ่อมีความรักและความเชื่อมั่นในชาวเมืองเลสเตอร์ ท่านทุ่มเททั้งหัวใจให้กับเมืองเลสเตอร์เพราะท่านเห็นถึงความเข้มแข็งของเมืองนี้ที่ทุกคนพร้อมจะก้าวไปด้วยกันและช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ทำให้ผมภูมิใจ นั่นคือสิ่งที่ผมยังคงก้าวไปพร้อมกับทุกคน เพื่อช่วยกันเติมเต็มวิสัยทัศน์เหล่านั้นในนามของคุณพ่อ ผมจะทำอย่างเต็มที่เพื่อทุกคนในเมืองเลสเตอร์ให้คู่ควรกับรางวัลอันทรงเกียรตินี้ที่มอบให้กับผมและคุณพ่อของผม"

#Leicester
#เลสเตอร์
#จิ้งจอกสีน้ำเงิน
#อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา
#คิงเพาเวอร์
#วิชัย ศรีวัฒนประภา
#เสี่ยวิชัย
#จิ้งจอกสยาม
#"คุณต๊อบ"อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา

ที่มา  https://www.siamsport.co.th/football/kingpower/view/280908