ผลกระทบโควิด-19ยังส่งผลต่อธุรกิจสายการบิน-โรงแรม นานอีก2-3ปี
29 พ.ค. 65 21:48 น. /
ดู 1,302 ครั้ง /
1 ความเห็น /
0 ชอบจัง
/
แชร์
ในงานสัมมนา "ประชาชาติธุรกิจ" ก้าวสู่ปีที่ 46 "New Chapter เศรษฐกิจไทย"
เศรษฐกิจไทยตอนนี้หลังจากดกระเสืกกระสนอยู่ในอุโมงค์จากผลกระทบโควิด-19 มากว่า 2 ปี และกำลังจะออกจากอุโมงค์ ดัชนีวัดต่าง ๆ สะท้อนว่ากำลังจะผ่านพ้นปัญหาไปได้ แต่ก็กำลังเข้าสู่เฟสใหม่ที่เต็มไปด้วยความท้าทายในการประคองให้อยู่รอด
นายยุทธชัย จรณะจิตต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท อิตัลไทย จำกัด และผู้บริหารกลุ่มบริษัท ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป จำกัด ภายใต้แบรนด์อมารี, โอโซ, ซามา, ซามา ฮับ และผู้ถือหุ้นโรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ กล่าวว่า แม้ว่าประเทศไทยผ่อนคลายมาตรการเข้าประเทศแล้ว แต่จำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ายังมีจำนวนไม่เพียงพอกับซัพพลายที่มีอยู่ในปัจจุบัน
โดยโรงแรมที่เปิดให้บริการ อัตราการเข้าพักเฉลี่ยยังไม่มากนัก และปัญหาสำคัญคือยังไม่สามารถปรับราคาให้ไปอยู่ในจุดที่ควรจะเป็นได้ โรงแรมส่วนใหญ่ยังทำราคาขายได้เพียงแค่ 50% ของราคาที่เคยขายในปี 2562 ก่อนโควิด
"โรงแรมที่เปิดให้บริการได้ในขณะนี้ส่วนใหญ่เป็นเซ็กเมนต์ระดับบนเป็นหลัก วอลุ่มที่เข้ามายังลงไม่ถึงโรงแรมระดับต่ำกว่า 4 ดาว ถ้าพูดตามตรง ผมว่าธุรกิจโรงแรมยังต้องวิ่งสู้ฟัดกันต่อไปอีกไม่ต่ำกว่า 2-3 ปี เพื่อที่จะทำให้กลับมาแข็งแรง" นายยุทธชัยกล่าว
เช่นเดียวกับ นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (AOT) หรือ ทอท. กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่า ธุรกิจการบินและอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทยและทั่วโลกยังคาดการณ์ยาก เพราะทุกส่วนที่เกี่ยวข้องและผู้ใช้บริการของ ทอท. ยังไม่มีความชัดเจนทั้งในฝั่งของซัพพลายและฝั่งของดีมานด์
โดยในส่วนของซัพพลายนั้น ไม่สามารถประเมินได้ว่าหลังโควิดคลี่คลายจะเหลือกี่สายการบินให้บริการ และแต่ละสายการบินจะฟื้นกลับมาอย่างไร ใช้เครื่องบินกี่ลำ ต้องจอดต่ออีกกี่ลำ คาดว่ากรณีที่สถานการณ์ดีที่สุด สายการบินปรับตัวได้เร็ว เที่ยวบินและผู้โดยสารฟื้นตัวได้เร็ว คาดว่าปริมาณการจราจรทางอากาศจะกลับมาอยู่ในระดับปกติเช่นเดียวกับก่อนโควิด ในช่วงต้นปีงบประมาณ 2567 หรือในอีก 2-3 ปีข้างหน้า
#ผลกระทบโควิด-19
#ธุรกิจโรงแรม
#สายการบิน
#ฟื้นฟูเศรษฐกิจไทย
นายยุทธชัย จรณะจิตต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท อิตัลไทย จำกัด และผู้บริหารกลุ่มบริษัท ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป จำกัด ภายใต้แบรนด์อมารี, โอโซ, ซามา, ซามา ฮับ และผู้ถือหุ้นโรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ กล่าวว่า แม้ว่าประเทศไทยผ่อนคลายมาตรการเข้าประเทศแล้ว แต่จำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ายังมีจำนวนไม่เพียงพอกับซัพพลายที่มีอยู่ในปัจจุบัน
โดยโรงแรมที่เปิดให้บริการ อัตราการเข้าพักเฉลี่ยยังไม่มากนัก และปัญหาสำคัญคือยังไม่สามารถปรับราคาให้ไปอยู่ในจุดที่ควรจะเป็นได้ โรงแรมส่วนใหญ่ยังทำราคาขายได้เพียงแค่ 50% ของราคาที่เคยขายในปี 2562 ก่อนโควิด
"โรงแรมที่เปิดให้บริการได้ในขณะนี้ส่วนใหญ่เป็นเซ็กเมนต์ระดับบนเป็นหลัก วอลุ่มที่เข้ามายังลงไม่ถึงโรงแรมระดับต่ำกว่า 4 ดาว ถ้าพูดตามตรง ผมว่าธุรกิจโรงแรมยังต้องวิ่งสู้ฟัดกันต่อไปอีกไม่ต่ำกว่า 2-3 ปี เพื่อที่จะทำให้กลับมาแข็งแรง" นายยุทธชัยกล่าว
เช่นเดียวกับ นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (AOT) หรือ ทอท. กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่า ธุรกิจการบินและอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทยและทั่วโลกยังคาดการณ์ยาก เพราะทุกส่วนที่เกี่ยวข้องและผู้ใช้บริการของ ทอท. ยังไม่มีความชัดเจนทั้งในฝั่งของซัพพลายและฝั่งของดีมานด์
โดยในส่วนของซัพพลายนั้น ไม่สามารถประเมินได้ว่าหลังโควิดคลี่คลายจะเหลือกี่สายการบินให้บริการ และแต่ละสายการบินจะฟื้นกลับมาอย่างไร ใช้เครื่องบินกี่ลำ ต้องจอดต่ออีกกี่ลำ คาดว่ากรณีที่สถานการณ์ดีที่สุด สายการบินปรับตัวได้เร็ว เที่ยวบินและผู้โดยสารฟื้นตัวได้เร็ว คาดว่าปริมาณการจราจรทางอากาศจะกลับมาอยู่ในระดับปกติเช่นเดียวกับก่อนโควิด ในช่วงต้นปีงบประมาณ 2567 หรือในอีก 2-3 ปีข้างหน้า
#ผลกระทบโควิด-19
#ธุรกิจโรงแรม
#สายการบิน
#ฟื้นฟูเศรษฐกิจไทย
เลขไอพี : ไม่แสดง
| ตั้งกระทู้โดย Windows 10
อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)
ความคิดเห็น
จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google