มิว มาบอกเล่าเรื่องราวในชีวิตผ่านภาพในไอจี และเผยมุมมองความรักให้ได้ขบคิดตาม

ถึงช่วงนี้มิวเลี่ยนส์ที่ไทยจะแปลงร่างกลายเป็นเหมือนแฟนอินเตอร์กันเพราะหนุ่ม มิว ศุภศิษฏ์
เขาไปทำงานในต่างแดน แต่ว่าไม่นานมานี้ The Standard Pop เขาก็คว้าตัวคุณศุภศิษฏ์มานั่งคุย
สำรวจทุกเรื่องราวที่ผ่านมาตั้งแต่วัยเด็กจนถึงปัจจุบันผ่านภาพใน IG ที่ได้ฟังกี่ครั้งก็ต้องหลงรัก
ในตัวหนุ่มคนนี้ เริ่มจากการให้ดูหน้าไอจีของตัวเอง แบบที่นึกว่าเป็นของคนอื่น
มิวมองว่าเจ้าของไอจีนี้  ดูหลากหลาย หน้าตาดี แอบชอบได้ไหม 




รูปแรกงานขันโตก ที่คุณเขาอยู่ปี 3 ปี 4 แบบรุ่นพี่ให้ไปช่วยงาน




ทีนี้พิธีกรเลยถามว่าทำไมช่วงปี 2012 ลงรูปน้อยมาก คุณเขาบอก
จริงๆ ลงเยอะแต่ลบออก เพราะทำใจกับหน้าตัวเองไม่ได้
555555555 ชอบนะคะ เป็นคนตรงๆ ดี




รูปนี้แคปชั่น อยากเป็นก็อตซิลล่า มิวมิวเลยเล่าว่า ตอนเด็กฟันแหลมมาก
และเคยหัวเราะละเพื่อนโดนผลัก จนฟันไปเฉาะคิ้วเพื่อน จนแตกเย็บ 7-8 เข็ม
ตอนนั้นป.2 ป.3 เพื่อนคนนั้นลาออกเลย XD




มาถึงรูปกับน้องสาวที่แคปชั่นประมาณว่าทะเลาะกันทุกเรื่อง เลยโดนถามส่วนใหญ่ทะเลาะแบบไหน
มิวบอกว่า ทะเลาะกันทุกเรื่อง กระพริบตาก็ทะเลาะกันเเล้วว ถ้าเงียบหม่าม้าจะรู้สึกว่าสองคนนี้วางแผนอะไรไม่ดี ส่วนใหญ่ทะเลาะกันจะจบแบบ จบโดยที่ผมโดนจัดการ น้องสาวจะมีความ tricky ร้องไห้ง่ายเราก็จะโดนว่าทำน้องร้องไห้อีกแล้ว เคยแบบเล่นรถที่ต้องไถกับพื้นแล้วเป็นรถเหล็ก แต่น้องขว้างโดนหัวเรา
แล้วเราเจ็บเลยร้องโอ๊ย แต่น้องตกใจเลยร้องไห้ หม่าม้าเดินมาตี
55555555 วงวารพี่ชายเขานะคะ




ข้ามมาช่วงเวลาที่สำคัญกับ TharnType the Series ว่ารู้สึกยังไงกับตัวละคร ธาร
มิว: ตอนอ่านบทรู้สึก First Priority ของธารคือเรื่องความรัก คือสุดโต่งมากๆ  เวลารักใครรักมากจนสงสัยว่า ไอ้ตัวละครนี้มันรักไปได้ยังไง แบบถ้าเป็นเราจะไม่ชอบคนนี้แน่ๆ ก็ได้เห็นมุมมองของเขา
ซึ่งเป็นเราจะไม่ทำ แต่ก็เข้าใจเขามากขึ้นเพราะใช้เวลาอยู่กับธารเยอะ ยิ่งเข้าใจยิ่งไม่อยากทำตามทำให้เข้าใจ
อะไรหลายๆ อย่าง เหมือนความรักของเขามันมีความ Toxic อยู่ เหตุการณ์ที่ประทับใจเกี่ยวกับซีรีส์เรื่องนี้คือ วันไปแคสต์วันแรก ถ้าไม่ไปแคสต์วันนั้นก็ไม่ได้เล่นเรื่องนี้
แบบเขานัดแคสต์ 11 โมง ตื่น 10 โมง ประเด็นคือไม่ได้จะมาแคสต์ด้วย แต่มีพี่ที่เป็นแฟนคลับแนะนำให้มา
แคสต์เรื่องนี้ไหม เขาส่งผลที่ผ่านว่าได้นัดมาแคสต์ทางอีเมล แต่ไม่ได้เช็ก ก็ตื่น 10 โมงปกติแล้วไถทวิตเตอร์แฟนคลับบอกเดี๋ยวพี่มิวจะมาแคสต์ ก็ตั้งสติและเดี๋ยวจะไป พร้อมโทรหาทีมแคสต์ว่าขอไปเลทหน่อยนะ
แต่ถ้าวันนั้นไม่ได้ไปแคสต์ ก็คงพลาดโอกาสสำคัญไปและนึกไม่ออกว่าจะเป็นยังไงในตอนนี้




จนผ่านมาและได้มีแฟนคลับมากมาย มีได้เป่าเค้กวันเกิดให้มิวเลี่ยนส์ด้วย
และถือเป็น เมจิกโมเมนต์มาก ฉลองวันเกิดมิวเลียนส์อยู่ดีๆ โทรศัพท์ล่วงใส่เค้ก แบบไม่ได้ตั้งใจ ถ้าให้พูดถึงแฟนคลับ สำคัญคือแค่ทุกคน Support ไม่ว่าจะในรูปแบบไหนก็ตาม ผมดีใจในทุกรูปแบบ ผมรู้สึกว่าเขาให้เวลากับเราทั้งที่เราอาจจะเคยเจอกันไม่ได้เยอะ บางคนไม่เคยเจอกันเลย แต่เขารักเราแล้ว  และของที่แฟนๆ ให้มา ลำดับแรกได้มาก็ต้องคัดก่อนว่าอันไหนเราใช้ได้จริงๆ เพราะมันเก็บไม่พอในส่วนที่เหลือถ้าเราสามารถเอาไปให้คนที่เขาใช้ประโยชน์ได้จริงๆ เหมือนเรากับแฟนๆ ก็ได้มอบสิ่งดีดีให้คนอื่นเพิ่มเติม
อย่างพวกตุ๊กตา เสื้อผ้าบางอันที่ไม่ได้ใส่ หนังสือ ดอกไม้สดก็มีถวายวัด




ส่วนเหตุการณ์ที่เป็นที่สุดทำให้นึกถึงแฟนคลับอยู่เสมอคือ Big Mountain มันแบบไม่แน่ใจว่าจะได้เล่นหรือไม่ได้เล่นเหมือนจะโดนปิดงานตำรวจลง ผมขึ้นโชว์แบบไม่ได้ sound check เลยที่สำคัญแฟนคลับไปกันแต่เช้า
ก็เลยคิดว่าถ้าไม่ได้แสดงจะทำยังไง ก็คิดว่าเรามีทีมเครื่องดนตรีทุกอย่างครบหมดแล้ว โรงแรมรีสอร์ตก็มี
ถ้าไม่ได้แสดงก็จะไปจัดที่ที่โรงแรม จ้างรถสัญญาณมาไลฟ์สด ตอนได้ขึ้นโชว์ก็เห็นคนหน้าเวทีมีแค่ 3 แถว
ก็ใจแป้ว พอร้องได้ 3-4 เพลงก็คนเต็ม และทุกคนก็จอยไปกับเรา เป็นโมเมนต์ที่เมจิกมากๆ




และโปรเจ็กต์ใหญ่อย่าง The Ocean Eyes ก็ถ่ายเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ถ่ายทั้งหมด 45 คิว ในเวลาสองเดือน นิดๆ พอถ่ายจบก็โล่งใจ เป็นประสบการณ์ 2 เดือนที่รู้สึกแก่ขึ้นในวิธีการทำงาน ถ้าทำเรื่องต่อไปคงง่ายขึ้น กับนักแสดงในกองก็ดีใจมากๆ ที่ได้ทีมนี้มา แบบด้วยความละเอียดของทีมโกลบอลทำให้บางวันถ่ายได้ซีนน้อยมากๆ นักแสดงทีมนี้ก็ให้กำลังใจ และการเมเนจเวลาเป็นเรื่องสำคัญ ถ้าทีมงานนักแสดงคนในกองได้พักผ่อนกันเต็มที่ความครีเอตอะไรก็มา ส่วนความประทับกับทีมนักแสดง พี่แท่ง จำบทเก่งมาก แสดงเก่งมาก
มารีน่า วิธีการเล่นคล้ายผม อยากให้ดูเคมีนทีกับเกรซมากๆ / ต้นหลิว บทสมบุกสมบัน น้องเล่นเก่ง สดใส / ตุลย์ เก่ง ฉลาด แสดงเก่ง เข้าบทเป๊ะมาก เอาบทพูดที่เป็นภาษาเขียนมาเข้ากับคาแร็กเตอร์ได้อย่างเป็นธรรมชาติ




มีคุยในส่วนพาร์ทสถานการณ์การเมืองด้วยในเรื่องที่มิวเคย call out ส่งเสียงไป
เจ้าตัวรู้สึก หลายอย่างเริ่มดีขึ้น เสียงหลายคนคือไม่เสียเปล่า ที่ call out มารู้สึกคุ้มค่า
หนึ่งโพสต์ที่พิมพ์ไปคนได้รับสารเยอะมากๆ ตอนนี้ก็รู้สึกว่าระบบการแก้ปัญหาต่างๆ ในกรุงเทพ
มันเป็นไปในทิศทางที่ดีมากขึ้น แบบการที่มีคนที่สามารถเคลียร์คำถามในใจประชาชนได้ก็ทำให้ประชาชนมีสภาพจิตใจที่ดีขึ้น เรื่องที่อยากให้พัฒนาคือเรื่องการศึกษา เพราะโฟกัสเรื่องเกรดจนเกินไปทำให้หลายๆ คน
เสียโอกาสไม่ได้ค้นหาตัวเอง แค่แบบมีคลาสให้ทุกคนได้มาแชร์แลกเปลี่ยนเล่าเรื่องราวกัน บางทีมันอาจจะสะท้อนอะไร แต่ปัจจุบันมีแต่คนพูดเก่ง แต่ไม่มีใครฟังใครเลย ปัญหาซึมเศร้าเกิดจากตรงนี้แหละ ขอแค่คนรับฟัง




เรื่องร่าง พ.ร.บ. สมรสเท่าเทียมที่ผ่านวาระแรก ก็มองเห็นถึงความเป็นไปได้ ถึงแค่เป็น 1 ใน 10 process
แต่ถ้าช่วยกันผลักดันก็เกิดขึ้นได้แน่นอน ตอนที่ทวิตถามว่า ข้อเสียของสมรสเท่าเทียมคืออะไร ตอนนั้นคือสงสัย
สงสัยมานานแล้วมันทำอะไรใครเหรอ กฎหมายเรื่องการแต่งงานกันแค่ไม่ต้องเป็นผู้หญิงผู้ชาย แค่เป็นคนสองคนแต่งงานกันก็จบแล้ว




ในไอจีแน่นอนแคปชั่นมีช่วงนึงดูมุ่งไปกับเรื่องความรัก เลยโดนให้อ่านแคปชั่นจี้ๆ ของตัวเอง
อ่านเสร็จหัวเราะอร่อยเชียวพ่อคุณ XD

https://twitter.com/YYong34/status/1555108792123412480


ก่อนจะโดนถามถึงมุมมองความรัก สำหรับมิวคือ ความรักเป็นอะไรที่แปลก เพราะมุมมองมันเปลี่ยนตลอด
อย่างตอนพ่อแม่บอกว่ารักเราได้อยู่ด้วยกันเป็นครอบครัวมันคือความรักแหละ แต่ตอนเป็น Puppy Love
รู้สึกความรักเป็นไฟวูบวาบในจิตใจ แฮปปี้และทรมานไปด้วย ไปเรื่อยๆ เราก็อยากได้คนที่อยู่ด้วยแล้วสบายใจ
แบบไม่ต้องเปลี่ยนตัวเอง




ถ้าถามมิวตอนนี้ กับมิวเมื่อ 10 ปีก่อน ใครเป็นคนรักได้ดีกว่ากัน?
มิว: ตอนนี้สิ๊~ 
ขาดความรักแบบหนุ่มสาวได้ไหม?
มิว: มีช่วงที่ขาดไปเหมือนกันและมีช่วงที่กลับมาเหมือนกัน
เป็นคนอายุ 50 ปีที่ไม่มีคนรักได้ไหม ?
มิว: ปัจจุบันคิดว่าไม่ได้ แต่ตอนนั้นอาจจะได้ เราอาจจะต้องการความสงบ แต่ไม่ได้หรอก การทำงานชดเชยเรื่องความรักได้ไหมก็แล้วแต่คน ความรักมันคือเรื่องของความรู้สึก มันก็ต้องใช้ความรู้สึก เวลาเป็นเรื่องความรักอย่าใช้เหตุผลนักเลย




ก่อนช่วงท้ายพิธีกร ให้จินตนาการภาพที่อยากให้เกิดขึ้นในอนาคตที่จะมีความหมายมากๆ กับชีวิตมิว
อยากให้มีอะไรบ้างและเขียนแคปชั่นว่าอะไร
มิว:ภาพที่เราได้ถือรางวัลออสการ์ สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม
แคปชั่น When the dream come true วันที่ฝันเป็นจริงแล้ว
ได้ลองถือแก้วให้เห็นภาพด้วยนะ✨




แต่ภาพจริงของคุณเขาคืออาจจะยืนเย้ๆ แบบเด๋อๆ แน่ๆ ยังไงก็เป็นกำลังใจขอให้ภาพนั้นเกิดขึ้นจริงน้าาา 



#มิวศุภศิษฏ์