นนท.เข้าไทยแล้วแต่ร้านค้ายังยอดตก
13 ก.ย. 65 16:27 น. /
ดู 1,221 ครั้ง /
0 ความเห็น /
0 ชอบจัง
/
แชร์
'สนามบิน' ถือเป็นด่านแรกในการต้อนรับนักท่องเที่ยว ทำให้ AOT ส่งสัญญาณชีพดีขึ้นหลังโคม่าหนักจากพิษโควิด ดูได้จากที่ช่วงนี้นักท่องเที่ยวทั้งไทยทั้งต่างประเทศแน่นสนามบินกันเลยทีเดียว จากที่รัฐบาลประกาศเปิดการท่องเที่ยวอย่างเต็มรูปแบบตั้งแต่ 1 กรกฎาคม ที่ผ่านมา
แม้โควิดที่ผ่านมาจะทำให้ AOT (ทอท.) ต้องป่วยหนักจนผลประกอบการดิ่งเหว กับการแบกภาระต้นทุน และไม่มีเงินเข้า แต่ก็พยายามช่วยกันประคับประคอง ออกมาตรการเยียวยา ทั้งพนักงานและ ผู้ประกอบการร้านค้าภายในสนามบิน ทั้งร้านเช่าขายของ ร้านขายอาหาร หรือผู้ที่ประมูลสัมปทานดิวตี้ฟรี เพื่อให้ธุรกิจในสนามบินยังพอดำเนินงานต่อไปได้ ก่อนที่จะกลายเป็น 'สนามบินร้าง' เพราะร้านต่างๆ
การกลับมาเปิดประเทศในครั้งนี้ ร้านค้าดูเหมือนว่าจะประสบปัญหา "คนเดินผ่าน" อัตราการใช้สอยลดลงทำให้เศรษฐกิจท่องเที่ยวฟื้นช้ากว่าที่คาด
การที่จะประคองธุรกิจท่องเที่ยวทั้งเล็กใหญ่เหล่านี้ หนีไม่พ้น โครงการหรือนโยบายจากภาครัฐ เพราะหากไม่มีนโยบายมารองรับ คงได้เห็นภาพตัวอย่าง อย่างเช่น เกาหลีตอนนี้ก็ยังไม่มีดิวตี้ฟรีในสนามบินเพราะไม่ได้รับการเยียวยาและไปต่อไม่ไหว ญี่ปุ่นขนาดช่วยเยียวยาไปบ้างแล้วก็ยังร่อแร่ คนตกงานเศรษฐกิจตกต่ำ หรือกระทั่งผลกระทบจากการขาดคนที่สนามบินฮีทโทรว์ของอังกฤษและสนามบินในยุโรปก็สืบเนื่องหลายสาเหตุทั้งปัญหาปลดคนแล้วรับสมัครกลับมาไม่ทันเพราะทางยุโรปนั้นเลย์ออฟคนไปถึงเกือบ 59% รวมถึงสายการบินชื่อดังสัญชาติเยอรมัน ที่พนักงานรวมตัวกันเรียกร้องค่าตอบแทนที่สูงขึ้น แต่ไม่ได้คำนึงว่า ตลอดระยะเวลาที่ปิดประเทศนั้น สายการบินแบกรับหนี้กันเท่าไหร่
ถ้ามองภาพรวมแม้มาตรการรัฐบาลจะช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวให้ดีขึ้นก็จริง แต่บางมาตรการกลับยังช่วยได้
ไม่เต็มที่เท่าไหร่ อย่าลืมว่าการเปิดประเทศก็เหมือนกับคนป่วยหนักที่เพิ่งฟื้นจากโคม่า ไม่มีทางที่ฟื้นปุ๊บจะลุกขึ้นวิ่งได้เลย อย่างน้อยก็ต้องมีเวลาให้ผู้ประกอบการรายใหญ่ รายกลาง รายย่อยได้ฟื้นฟูกิจการเพื่อกลับมาฟื้นตัวขึ้นเร็วๆ ซึ่งก็คือมาตรการช่วยกระตุ้นเยียวยาให้ถึงทุกกลุ่มในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว จะเป็นการช่วยบรรเทาค่าใช้จ่าย, ลดดอกเบี้ย, ยืดระยะเวลา, ให้เงินกู้ฟื้นฟูกิจการระยะสั้น-ยาว หรือจะร่วมทุน เป็นตัวกลางประสาน หรืออะไรก็ได้ให้เร็วและช่วยมากขึ้นอีกไหนๆ ลุงก็บอกว่าลงเรือลำเดียวกันอยู่แล้วนี่ ทุกคน ทุกธุรกิจ ทุกระดับจะได้อยู่รอด!!
การกลับมาเปิดประเทศในครั้งนี้ ร้านค้าดูเหมือนว่าจะประสบปัญหา "คนเดินผ่าน" อัตราการใช้สอยลดลงทำให้เศรษฐกิจท่องเที่ยวฟื้นช้ากว่าที่คาด
การที่จะประคองธุรกิจท่องเที่ยวทั้งเล็กใหญ่เหล่านี้ หนีไม่พ้น โครงการหรือนโยบายจากภาครัฐ เพราะหากไม่มีนโยบายมารองรับ คงได้เห็นภาพตัวอย่าง อย่างเช่น เกาหลีตอนนี้ก็ยังไม่มีดิวตี้ฟรีในสนามบินเพราะไม่ได้รับการเยียวยาและไปต่อไม่ไหว ญี่ปุ่นขนาดช่วยเยียวยาไปบ้างแล้วก็ยังร่อแร่ คนตกงานเศรษฐกิจตกต่ำ หรือกระทั่งผลกระทบจากการขาดคนที่สนามบินฮีทโทรว์ของอังกฤษและสนามบินในยุโรปก็สืบเนื่องหลายสาเหตุทั้งปัญหาปลดคนแล้วรับสมัครกลับมาไม่ทันเพราะทางยุโรปนั้นเลย์ออฟคนไปถึงเกือบ 59% รวมถึงสายการบินชื่อดังสัญชาติเยอรมัน ที่พนักงานรวมตัวกันเรียกร้องค่าตอบแทนที่สูงขึ้น แต่ไม่ได้คำนึงว่า ตลอดระยะเวลาที่ปิดประเทศนั้น สายการบินแบกรับหนี้กันเท่าไหร่
ถ้ามองภาพรวมแม้มาตรการรัฐบาลจะช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวให้ดีขึ้นก็จริง แต่บางมาตรการกลับยังช่วยได้
ไม่เต็มที่เท่าไหร่ อย่าลืมว่าการเปิดประเทศก็เหมือนกับคนป่วยหนักที่เพิ่งฟื้นจากโคม่า ไม่มีทางที่ฟื้นปุ๊บจะลุกขึ้นวิ่งได้เลย อย่างน้อยก็ต้องมีเวลาให้ผู้ประกอบการรายใหญ่ รายกลาง รายย่อยได้ฟื้นฟูกิจการเพื่อกลับมาฟื้นตัวขึ้นเร็วๆ ซึ่งก็คือมาตรการช่วยกระตุ้นเยียวยาให้ถึงทุกกลุ่มในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว จะเป็นการช่วยบรรเทาค่าใช้จ่าย, ลดดอกเบี้ย, ยืดระยะเวลา, ให้เงินกู้ฟื้นฟูกิจการระยะสั้น-ยาว หรือจะร่วมทุน เป็นตัวกลางประสาน หรืออะไรก็ได้ให้เร็วและช่วยมากขึ้นอีกไหนๆ ลุงก็บอกว่าลงเรือลำเดียวกันอยู่แล้วนี่ ทุกคน ทุกธุรกิจ ทุกระดับจะได้อยู่รอด!!
แก้ไขล่าสุด 13 ก.ย. 65 16:27 |
เลขไอพี : ไม่แสดง
| ตั้งกระทู้โดย MacOS
อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)
ความคิดเห็น
ยังไม่มีความคิดเห็น
จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google