เลือกธนาคารสำหรับโอนเงินไปต่างประเทศ ต้องพิจารณาอะไรบ้าง

การโอนเงินไปต่างประเทศแน่นอนว่าต้องมีค่าธรรมเนียมแน่นอน ซึ่งเราแนะนำให้ทำการโอนเงินไปต่างประเทศผ่านแอพธนาคาร  เพราะค่าธรรมเนียมจะถูกกว่าการไปโอนเงินที่สาขาธนาคาร โดยส่วนใหญ่จะต่างกัน 100 บาท รูปแบบค่าธรรมเนียนโอนเงินไปต่างประเทศ
1. Charge BEN คือ ผู้รับโอนถูกหักจากธนาคารปลายทาง
2. Charge OUR คือ ผู้โอนรับผิดชอบค่าธรรมเนียมทั้งหมด ทำให้ผู้รับโอนได้เงินเต็มจำนวน

ดังนั้นก่อนโอนเงินไปต่างประเทศจึงควรเปรียบเทียบให้ดี เพื่อเลือกธนาคารที่คุ้มที่สุดทั้งในแง่ค่าธรรมเนียมและอัตราแลกเปลี่ยน เราไปดูเรื่องค่าธรรมเนียมกันก่อนดีกว่า

โดยในวันนี้เรายกมาให้ดู 3 ธนาคาร คือ
1. ธนาคารกสิกรไทย
โดดเด่นด้วยการรองรับวัตถุประสงค์การโอนเงินถึง 16 วัตถุประสงค์ ครอบคลุมตั้งแต่การศึกษาไปจนถึงเรื่องธุรกิจ รวมถึงในช่วงนี้ยังมาพร้อมกับค่าธรรมเนียม 250 บาทต่อรายการเมื่อ โอนเงินผ่านเน็ต โดยใช้แอปของธนาคาร (ยกเว้นเงินสกุลเยนซึ่งค่าธรรมเนียมจะอยู่ที่ 1,288 บาท) อย่างไรก็ตามค่าธรรมเนียมจะปรับขึ้นเป็น 450 บาทสำหรับสกุลเงินทั่วไปและ 1,500 บาทต่อรายการสำหรับเงินเยนในปี 2565

2. ธนาคารกรุงเทพ
มาพร้อมกับความคุ้มค่าสำหรับพ่อแม่ผู้ปกครองที่ต้องการโอนเพื่อการศึกษา ด้วยค่าธรรมเนียมแบบ Charge BEN เพียง 300 บาทต่อรายการและค่าธรรมเนียมแบบ Charge OUR สุดประหยัดเริ่มต้นที่ 1050 บาทต่อรายการ สำหรับการโอนเงินสกุลอื่น ๆ ที่ไม่ใช่เงินเยนและดอลลาร์ฮ่องกง

3. ธนาคารกรุงไทย
มาพร้อมกับรูปแบบการโอนที่มีให้เลือกหลากหลาย ซึ่งแบบที่ครอบคลุมจำนวนประเทศมากที่สุดคือระบบโอนเงินไปต่างประเทศแบบ SWIFT code ของธนาคารกรุงไทย ครอบคลุมการโอนไปยัง 150 ประเทศ ค่าธรรมเนียมแบบ Charge BEN 300 บาทต่อรายการและ Charge OUR อยู่ที่ 1,100-1,500 บาทขึ้นอยู่กับสกุลเงิน

จากข้อมูลดังกล่าวจะพบว่าค่าธรรมเนียมการโอนเงินไปต่างประเทศแบบ SWIFT code ของแต่ละธนาคารต่างกันไม่มาก สิ่งสำคัญที่ควรเปรียบเทียบนอกเหนือจากค่าธรรมเนียมจึงเป็นเรื่องของอัตราแลกเปลี่ยนและระยะเวลาที่ผู้รับโอนจะได้รับเงิน ซึ่งหากเป็นธนาคารกรุงไทย ผู้รับโอนจะได้รับเงินภายใน 5 นาทีหรืออย่างช้าที่สุดคือ 2 วันทำการ (ขึ้นอยู่กับประเทศและสกุลเงิน)

ที่มา
https://krungthai.com/th/content/personal/cash-management/payment-transfer/krungthai-warp