การท่องเที่ยวไทยฟื้นช้า รัฐหวัง จีน เปิดประเทศอีกครั้ง

ททท.ตั้งเป้าหมายรายได้การท่องเที่ยว จากทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ ในปี 2566 อยู่ที่ประมาณ 1.25-2.38 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็นการฟื้นตัวร้อยละ 80 เมื่อเทียบกับรายได้รวมก่อนเกิดวิกฤติโควิด-19 เมื่อปี 2562 อยู่ที่ 3 ล้านล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ถ้ารัฐบาลจีนอนุญาตให้ชาวจีนออกเที่ยวนอกประเทศได้ ประเทศไทยจะมีโอกาสได้นักท่องเที่ยวต่างชาติมากถึง 30 ล้านคน ส่วนค่าใช้จ่ายเฉลี่ยของนักท่องเที่ยวต่างชาติ มีการคาดการณ์เฉลี่ยต่อคนต่อทริปอยู่ที่ประมาณ 50,000-54,000 บาท ซึ่งลดลงจากไตรมาส 1 ของปี 2565 ที่มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 77,000 บาท/คน/ทริป ส่งผลต่อกำลังซื้อและการเดินทางของนักท่องเที่ยวในการประหยัดค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ประกอบกับสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่าง รัสเซีย-ยูเครน ยังมีการยืดเยื้อมายาวนาน ส่งผลกระทบต่อราคาพลังงานและคาดการณ์ว่าในปี 2566 จะทำให้มีเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นอีก จากคำพูดดังกล่าวขั้นต้นเห็นได้ชัดเจนเลยว่าพฤติกรรมนักท่องเที่ยวเปลี่ยนไปมาก ขนาดเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบแล้วยังต้องรอความหวังจากรัฐบาลจีนในการเปิดประเทศ เพื่อให้ได้อัตราการจับจ่ายใช้สอยต่อหัวกลับมาดีตามเดิม
จะเห็นได้ว่าพอเปิดประเทศแล้วก็เหมือนจะดีแต่ต้นทุนของธุรกิจกลับสูงขึ้น หลังจากสถานการณ์โควิดทำให้เศรษฐกิจของไทยตกต่ำ สินค้าหลายอย่างขึ้นราคา ต้นทุนจึงต้องเพิ่มขึ้นตามมา เช่น ค่าจ้างพนักงาน ค่าทำความสะอาดห้องพัก ค่าอาหาร ค่าน้ำ-ไฟ ค่าเช่าสถานที่เป็นต้น ธุรกิจนี้จึงต้องปรับราคาให้สูงขึ้นเพื่อให้ธุรกิจสามารถไปต่อได้
จะแบกรับกันต่อไปได้นานแค่ไหน รัฐบาลต้องไม่ลืมที่พิจารณาปัจจัยเหล่านี้ร่วมด้วยหลังเปิดประเทศแล้วคงต้องมีนโยบายต่างๆมารองรับกันอย่างต่อเนื่อง