รู้หรือไม่ว่าเมื่อไหร่เราถึงควรไปตรวจ 'มะเร็งปากมดลูก'?

มะเร็งปากมดลูก นั้นถือเป็นโรคทางนรีเวชยอดฮิตที่สาวไทยหลายคนเป็นเลยก็ว่าได้ ซึ่งโดยส่วนมากผู้ป่วยเป็นมักเป็นผู้ที่มีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุยังน้อย หรือผู้ที่มีคู่นอนหลายคน ซึ่งปัจจัยเหล่านี้นั้นมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ HPV ที่ก่อให้เกิดมะเร็งปากมดลูกเป็นอย่างมากจึงไม่ควรนิ่งนอนใจค่ะ แล้วอย่างนี้เราควรไปตรวจเมื่อไหร่ดีล่ะ มาดูกันเลยค่ะ 1. อายุ 21-29 ปี USPSTF แนะนำให้ตรวจครั้งแรกเมื่ออายุ 21 ปี ตามด้วยตรวจ Pap test ทุกๆ 3 ปี ถึงแม้ว่าคุณจะมีเพศสัมพันธ์ก่อนอายุ 21 ปี คุณก็ไม่จำเป็นต้องตรวจ Pap test
    อายุ 30-65 ปีขึ้นไป หากคุณอยู่ในกลุ่มอายุนี้ USPSTF แนะนำให้ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกด้วยวิธีใดวิธีหนึ่งต่อไปนี้:
        - ตรวจ HPV ทุก 5 ปี
        - HPV/Pap cotest ทุกๆ 5 ปี
        - Pap test ทุก 3 ปี
    อายุมากกว่า 65 ปี ควรปรึกษาแพทย์ว่าควรเข้ารับการตรวจหรือไม่ หากเคยตรวจเป็นประจำและมีผลเป็นปกติ อาจไม่จำเป็นต้องตรวจอีกต่อไป แต่หากตรวจพบความผิดปกติ ก็ยังมีความจำเป็นที่ต้องไปตรวจต่อแม้จะมีอายุ 65 ปีขึ้นไปแล้วค่ะ (อ้างอิงจาก สถาบันมะเร็งแห่งชาติ)

2. ผู้ที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกในขณะที่อายุยังน้อยมาก หรือหลังจากที่มีประจำเดือนได้ไม่นาน

3. คนที่มีคู่รักที่เคยมีความสัมพันธ์กับผู้อื่นนอกจากเรา หรือมีประวัติเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

4. ผู้ที่มีคู่นอนหลายคน

5. ผู้ที่มีเชื้อ HIV

6. สูบบุหรี่ หรือใช้ยาเส้นเป็นประจำ

7. ผู้ที่เคยตรวจคัดกรองแล้วพบความผิดปกติ ควรไปตรวจซ้ำทุกปี หรือสองปีเพื่อให้แน่ใจว่าเนื้อเยื่อผิดปกตินั้นหยุดการเจริญเติบโตอย่างแน่นอน

การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกที่ดีนั้นควรตรวจตั้งแต่เนิ่นๆจะเป็นการช่วยลดความเสี่ยงได้ดีกว่า การไปตรวจเมื่อมีอาการค่ะ ทางที่ดีหากคุณต้องตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเข้ารับบริการด้วยนะคะ

อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก :
https://www.intouchmedicare.com/ตรวจภายในและตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก

#มะเร็งปากมดลูก #ตรวจนรีเวช #ผู้หญิง