ความกังวลของธุรกิจท่องเที่ยวไทย กับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ลดลง
20 พ.ย. 65 01:06 น. /
ดู 10,405 ครั้ง /
2 ความเห็น /
0 ชอบจัง
/
แชร์

ตัวเลขนักท่องเที่ยวเข้าไทย ....ยังห่างไกลจากความหวังของธุรกิจท่องเที่ยว
จากที่ได้ใกล้ชิดแนบสนิทกับกลุ่ม ธุรกิจท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นทัวร์ พนักงานสายการบิน โรงแรมทั้งเล็กและใหญ่ และร้านค้า ร้านของฝากทั้งในสนามบินและแหล่งท่องเที่ยว นั้น ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เดินทางเข้าไทยนั้นยังห่างกันไกลราวฟ้ากับดิน ถ้าเทียบกับก่อนเหตุการณ์โรคโควิด 19
โดยจำนวนนักท่องเที่ยวสะสมในช่วงเดือนมกราคม ธันวาคม พ.ศ. 2562 มีจำนวนนักท่องเที่ยว ชาวต่างชาติสะสมเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทยจำนวน 39.79 ล้านคน ที่ยกตัวเลขปี 2019 นั้นเพราะ ปลายปี 2019 นั้นโควิด 19 ตัวร้ายก็ได้เล่นงานเราไปแล้ว
แล้วเรามาดูตัวเลข ปี 2565 กัน นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาเที่ยวไทย สะสมตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-30 ตุลาคม 2565 มีนักท่องเที่ยวแล้วกว่า 7.56 ล้านคน เทียบกันแบบนี้ คงจะเห็นภาพง่ายขึ้นระหว่าง 39.79 ล้านคนกับ 7.56 ล้านคน นั้นช่างแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แล้วจะให้ธุรกิจท่องเที่ยวนั้นยิ้มได้อย่างที่ข่าวนำเสนอได้จริงหรือ?
ทั้งนี้จากภาพข่าวที่กระจายออกไปนั้น อาจจะต้องมีดูกันอีกทีหละว่า การเกิดการแออัดในสนามบินนั้น อาจเกิดจากหลายปัจจัย อาทิ การกระจุกตัวของเที่ยวบินในช่วง ชั่วโมงเร่งด่วนหรือไม่ หากเป็นแบบนั้น ไม่ใช่เรื่องดีแน่เพราะสะท้อนให้เห็นถึงการจัดการต่างๆ ที่เราต้องรับมือกับชาวต่างชาติที่เดินทางมาท่องเที่ยวไทย
โดย ณ ปัจจุบัน จากข้อมูลของททท. คาดว่าในปี 2566 จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเยือนประเทศไทยเป็นจำนวน 18 ล้านคน ซึ่งจะสร้างรายได้ประมาณ 9.7 แสนล้านบาท ส่วนการประมาณการตลาดในประเทศ ททท.คาดว่าจะสร้างรายได้ 7.6 แสนล้านบาท รวมรายได้จากการท่องเที่ยวทั้งสิ้นประมาณ 1.73 ล้านล้านบาทตลอดทั้งปี
จากการคาดว่า....ในปี 2566 นั้นก็ยังมีตัวเลขที่ต่ำกว่า ก่อนเหตุการณ์โควิด 19 อยู่ดี สภาวะแบบนี้ไม่ได้ส่งผลดีแน่นอนต่อกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวเพราะปัจจัยหลายอย่างที่เกิดขึ้นตอนนี้ส่งผลโดยตรงต่อธุรกิจท่องเที่ยวอย่างมากมาย
จะขอยกตัวอย่าง ที่คิดออกง่ายๆ
นักท่องเที่ยวจีนยังปิดประเทศ แม่จะมีการเกริ่นออกมาถึงมาตรการการเปิดประเทศ แต่ก็ยังไม่เปิดเสียที
นักท่องเที่ยวจีนเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของธุรกิจท่องเที่ยวไทย เพราะ กล้าซื้อกล้าจ่าย และที่สำคัญยังขนของฝากกลับไปให้เพื่อนฝูงหรือญาติพี่น้องตามธรรมเนียมเอเชียบ้านเรา
นักท่องเที่ยวอินเดีย ที่ไทยมีความหวังในตอนนี้ก็ยังมีหน้า ท่องเที่ยวของพวกเขา เพราะฉะนั้นต้องระวังการขาดช่วงของนักท่องเที่ยวจากอินเดีย ซึ่งเป็นความหวังเล็กๆของเรา
สงคราม รัสเซีย ยูเครน เลี่ยงไม่ได้เลยกับปัญหานี้เพราะ รัสเซียถือเป็นนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าประเทศไทยเราในลำดับต้นๆ ทั้งนี้การเกิดปัญหาสงครามก่อให้เกิดการชะงักของนทท.กลุ่มนี้
กลุ่มประเทศยุโรป ใช้จ่ายลดลงเนื่องจาก การกังวลเรื่องสงคราม เพราะพูดได้เต็มปากเลยว่า สงคราม รัสเซีย ยูเครนนั้น ยุโรปกระทบเต็มๆ
การประหยัดเงินไม่ได้ทางท่องเที่ยวไกลๆนั้น มีผลต่อกลุ่มนี้มาก
ต้นทุนสูงขึ้น อย่างที่เราทราบ สงคราม รัสเซีย ยูเครน และผลกระทบหลังโควิด19 นั้น ส่งผลให้ต้นทุนต่างๆสูงขึ้นมาก
ประเทศรอบข้างเราทยอยเปิดท่องเที่ยวอย่างเต็มรูปแบบเช่นกัน อาทิ ประเทศ ญี่ปุ่น อย่าว่าแต่นักท่องเที่ยวจากประเทศอื่นเทไปญี่ปุ่นเลย นักท่องเที่ยวไทยก็ไปญี่ปุ่นจนล้นทะลัก
ธุรกิจท่องเที่ยวปิดไปเกือบ3 ปี รายได้ไม่มี เงินทุนที่มีจะต่อยอดอาจไม่เพียงพอ
การที่ข่าวออกมาสำหรับตัวเลขนักท่องเที่ยวที่ออกมานั้น มันน่าดีใจที่นักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น แต่เจาะตัวเลขกันจริงๆ ยังห่างไกลมากๆ สำหรับธุรกิจนี้ น่าเป็นห่วงและเอาใจช่วยและอยากให้นำเสนอในมุมของข้อเท็จจริงเพราะหากไม่ลงมาดูแลกันธุรกิจนี้ไปต่อไม่ได้แน่ๆ
ที่มาของข่าว
https://thejournalistclub.com/นายกฯ-ปลื้ม-ต่างชาติ-เที/
https://plus.thairath.co.th/topic/money/102360
https://www.parliament.go.th/ewtadmin/ewt/elaw_parcy/ewt_dl_link.php?nid=2538
https://www.thebangkokinsight.com/news/business/economics/981617/

โดยจำนวนนักท่องเที่ยวสะสมในช่วงเดือนมกราคม ธันวาคม พ.ศ. 2562 มีจำนวนนักท่องเที่ยว ชาวต่างชาติสะสมเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทยจำนวน 39.79 ล้านคน ที่ยกตัวเลขปี 2019 นั้นเพราะ ปลายปี 2019 นั้นโควิด 19 ตัวร้ายก็ได้เล่นงานเราไปแล้ว
แล้วเรามาดูตัวเลข ปี 2565 กัน นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาเที่ยวไทย สะสมตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-30 ตุลาคม 2565 มีนักท่องเที่ยวแล้วกว่า 7.56 ล้านคน เทียบกันแบบนี้ คงจะเห็นภาพง่ายขึ้นระหว่าง 39.79 ล้านคนกับ 7.56 ล้านคน นั้นช่างแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แล้วจะให้ธุรกิจท่องเที่ยวนั้นยิ้มได้อย่างที่ข่าวนำเสนอได้จริงหรือ?
ทั้งนี้จากภาพข่าวที่กระจายออกไปนั้น อาจจะต้องมีดูกันอีกทีหละว่า การเกิดการแออัดในสนามบินนั้น อาจเกิดจากหลายปัจจัย อาทิ การกระจุกตัวของเที่ยวบินในช่วง ชั่วโมงเร่งด่วนหรือไม่ หากเป็นแบบนั้น ไม่ใช่เรื่องดีแน่เพราะสะท้อนให้เห็นถึงการจัดการต่างๆ ที่เราต้องรับมือกับชาวต่างชาติที่เดินทางมาท่องเที่ยวไทย
โดย ณ ปัจจุบัน จากข้อมูลของททท. คาดว่าในปี 2566 จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเยือนประเทศไทยเป็นจำนวน 18 ล้านคน ซึ่งจะสร้างรายได้ประมาณ 9.7 แสนล้านบาท ส่วนการประมาณการตลาดในประเทศ ททท.คาดว่าจะสร้างรายได้ 7.6 แสนล้านบาท รวมรายได้จากการท่องเที่ยวทั้งสิ้นประมาณ 1.73 ล้านล้านบาทตลอดทั้งปี
จากการคาดว่า....ในปี 2566 นั้นก็ยังมีตัวเลขที่ต่ำกว่า ก่อนเหตุการณ์โควิด 19 อยู่ดี สภาวะแบบนี้ไม่ได้ส่งผลดีแน่นอนต่อกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวเพราะปัจจัยหลายอย่างที่เกิดขึ้นตอนนี้ส่งผลโดยตรงต่อธุรกิจท่องเที่ยวอย่างมากมาย
จะขอยกตัวอย่าง ที่คิดออกง่ายๆ
นักท่องเที่ยวจีนยังปิดประเทศ แม่จะมีการเกริ่นออกมาถึงมาตรการการเปิดประเทศ แต่ก็ยังไม่เปิดเสียที
นักท่องเที่ยวจีนเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของธุรกิจท่องเที่ยวไทย เพราะ กล้าซื้อกล้าจ่าย และที่สำคัญยังขนของฝากกลับไปให้เพื่อนฝูงหรือญาติพี่น้องตามธรรมเนียมเอเชียบ้านเรา
นักท่องเที่ยวอินเดีย ที่ไทยมีความหวังในตอนนี้ก็ยังมีหน้า ท่องเที่ยวของพวกเขา เพราะฉะนั้นต้องระวังการขาดช่วงของนักท่องเที่ยวจากอินเดีย ซึ่งเป็นความหวังเล็กๆของเรา
สงคราม รัสเซีย ยูเครน เลี่ยงไม่ได้เลยกับปัญหานี้เพราะ รัสเซียถือเป็นนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าประเทศไทยเราในลำดับต้นๆ ทั้งนี้การเกิดปัญหาสงครามก่อให้เกิดการชะงักของนทท.กลุ่มนี้
กลุ่มประเทศยุโรป ใช้จ่ายลดลงเนื่องจาก การกังวลเรื่องสงคราม เพราะพูดได้เต็มปากเลยว่า สงคราม รัสเซีย ยูเครนนั้น ยุโรปกระทบเต็มๆ
การประหยัดเงินไม่ได้ทางท่องเที่ยวไกลๆนั้น มีผลต่อกลุ่มนี้มาก
ต้นทุนสูงขึ้น อย่างที่เราทราบ สงคราม รัสเซีย ยูเครน และผลกระทบหลังโควิด19 นั้น ส่งผลให้ต้นทุนต่างๆสูงขึ้นมาก
ประเทศรอบข้างเราทยอยเปิดท่องเที่ยวอย่างเต็มรูปแบบเช่นกัน อาทิ ประเทศ ญี่ปุ่น อย่าว่าแต่นักท่องเที่ยวจากประเทศอื่นเทไปญี่ปุ่นเลย นักท่องเที่ยวไทยก็ไปญี่ปุ่นจนล้นทะลัก
ธุรกิจท่องเที่ยวปิดไปเกือบ3 ปี รายได้ไม่มี เงินทุนที่มีจะต่อยอดอาจไม่เพียงพอ
การที่ข่าวออกมาสำหรับตัวเลขนักท่องเที่ยวที่ออกมานั้น มันน่าดีใจที่นักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น แต่เจาะตัวเลขกันจริงๆ ยังห่างไกลมากๆ สำหรับธุรกิจนี้ น่าเป็นห่วงและเอาใจช่วยและอยากให้นำเสนอในมุมของข้อเท็จจริงเพราะหากไม่ลงมาดูแลกันธุรกิจนี้ไปต่อไม่ได้แน่ๆ
ที่มาของข่าว
https://thejournalistclub.com/นายกฯ-ปลื้ม-ต่างชาติ-เที/
https://plus.thairath.co.th/topic/money/102360
https://www.parliament.go.th/ewtadmin/ewt/elaw_parcy/ewt_dl_link.php?nid=2538
https://www.thebangkokinsight.com/news/business/economics/981617/
เลขไอพี : ไม่แสดง
| ตั้งกระทู้โดย Windows 10
อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)
ความคิดเห็น
จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google