เปิดประเทศต้อนรับจีนช่วงนี้ดีหรือไม่
9 ม.ค. 66 07:17 น. /
ดู 1,227 ครั้ง /
1 ความเห็น /
0 ชอบจัง
/
แชร์
ต้องขอออกตัวก่อนเลยว่าเราผู้อยู่ในธุรกิจท่องเที่ยวโดยตรงนั้นที่ผ่านมาได้รับผลกระทบแบบเต็มร้อยไปกับการปิดประเทศเพราะโควิด กิจการที่เปิดให้บริการเรียกได้ว่าปิดนานเกือบ 3 ปี ถึงแม้ว่าประเทศไทยจะมีการเปิดประเทศแต่ก็ยังต้องมีการกักตัว 14 วัน ทำให้ธุรกิจที่ทำอยู่นั้นบอกเลยว่ารายรับเป็นศูนย์ พอไทยได้เปิดประเทศอย่างเสรีอีกครั้ง
ตั้งแต่ ก.ค.65 ที่ผ่านมา ทำให้ธุรกิจท่องเที่ยวหวังว่ายอดนักท่องเที่ยวจะเข้าประเทศมาแบบพุ่งกระฉูด แต่กลับไม่ได้เป็นอย่างที่คิดมากเพราะนักท่องเที่ยวยังเข้ามาประเทศไทยเพียง 11 ล้านคน ซึ่งถ้าเทียบกับเมื่อก่อนเรามีนักท่องเที่ยวถึง 40 ล้านคน แล้วก็บวกกับธุรกิจเกี่ยวกับท่องเที่ยว ร้านอาหาร ร้านค้า รร.เล็กๆ ที่ปิดไปนานๆ ต้องใช้สายป่านและงบอีกอื้อเลยที่จะเอามาปรับปรุงเปิดใหม่เพื่อเตรียมรับ นทท.
แล้วอะไรที่กลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวหวังเป็นที่สุดล่ะ?
ก็กลุ่ม นักท่องเที่ยวจีน ไงเพราะที่ผ่านมาพิสูจน์มาแล้วว่า ยอดนักท่องเที่ยวไม่พุ่งแบบที่เราหวัง แถมพ่วงมากับยอดค่าใช้จ่ายต่อหัวต่ำมากๆ ก็เพราะตัวแประสำคัญอย่างคนจีนรุ่นใหม่สายเปย์ ที่กล้าช๊อป กล้าใช้ ทั้งของแบรนด์เนม พฤติกรรมซื้อของฝากเหมาล็อตกลับประเทศ นักท่องเที่ยวจีนนี่ที่สุด สามารถกระจายรายได้ในทุกกลุ่มของธุรกิจท่องเที่ยวเลยจริงๆ และนี่คือสิ่งที่เราก็ต้องยอมรับว่า นักท่องเที่ยวจีนคือแหล่งรายได้ที่ธุรกิจท่องเที่ยวไทยต้องการ
แต่พอจีนประกาศเปิดประเทศยกเลิกการตรวจโควิดและกักตัวใดๆ แล้วในวันที่ 8 ม.ค.66 เข้าจริงๆ และยังเป็นช่วงนี้ที่จีนระบาดพีคสุดจนคุมไม่อยู่ ขาดแคลนทั้งยาและการรักษา (เข้าใจเลือกช่วงเวลาเปิดประเทศซะด้วย) ผู้ประกอบการไทยอย่างเราเลยต้องเข้าสู่สถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ออกอาการหลอนๆ อีกครั้ง ว่าจะมากระตุ้นเศรษฐกิจเราแน่นะวิ! ไม่ใช่ปล่อยมาเพื่อกระจายเชื้อและมากว้านหายา หาอุปกรณ์แพทย์ ทำให้เราต้องเปิดที่กักตัวกันอีกรอบ
เลยไม่รู้จะดีใจหรือเสียใจดี เพราะจากข่าวตอนนี้ยอดติดเชื้อโควิด-19ในจีนนั้นพุ่งสูงขึ้นต่อวันเป็นหลักแสนในแต่ละมณฑล และหน่วยงานสาธารณสุขจีนประกาศหยุดเผยแพร่จำนวนผู้ติดเชื้อโควิดรายวันแล้ว ท่ามกลางข้อครหาว่า ตัวเลขที่ทางการเผยแพร่ออกมาต่ำกว่าความเป็นจริงมาก พร้อมประเมินว่าชาวจีนเกือบ 37 ล้านคนอาจพบติดเชื้อโควิด-19 ภายในวันเดียว นับเป็นสถิติการติดเชื้อมากที่สุดในโลกอีกด้วย
ญี่ปุ่นและอินเดีย ออกมาตราการเข้มสั่งตรวจโควิดนักท่องเที่ยวจีน!
ความเคลื่อนไหวของญี่ปุ่นและอินเดีย หลังจากรัฐบาลปักกิ่ง ประกาศยกเลิกกักตัวนักท่องเที่ยวตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค. 66 ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่เปิดท่องเที่ยวอย่างเสรีเหมือนกับเรา และได้รับความนิยมเพราะเป็นอีกจุดมุ่งหมายของเหล่านักท่องเที่ยว โดยญี่ปุ่นเองก็ออกมาประกาศตั้งรับนักท่องเที่ยวชาวจีนอย่างมีข้อแม้ทันที ว่านักท่องเที่ยวที่มาจากจีน จะต้องตรวจโควิด-19 เมื่อเดินทางถึงญี่ปุ่นและกักตัวเพื่อตรวจโควิดภายใน 7 วันจนกว่าจะมีผลเป็นลบจึงออกเที่ยวได้ โดยให้เหตุผลว่า "จีนมีการแพร่ระบาดโควิด-19 อย่างรวดเร็ว และสร้างความกังวลต่อญี่ปุ่น" ส่วนในอินเดียก็ต้องตรวจหาเชื้อให้เป็นลบก่อนเข้าประเทศ
สหรัฐฯและอิตาลีเป็น 2 ประเทศต่อมาที่ต้องใช้มาตรการแสดงผล Nagative Covid Test เพื่อป้องกันคนจีนที่จะทะลักเข้ามาในต้นปีนี้ ส่วนสหภาพยุโรปก็กำลังพิจารณาเงื่อนไขกันอยู่เพราะอิตาลีขอร้องให้ "ปกป้องกระชาชนก่อน" ทำไมอิตาลีถึงเครียดกับการเปิดประเทศของจีนครั้งนี้หรอ? ก็เพราะว่าล่าสุด อิตาลีได้ทดลองเปิดไฟลท์ Post-Christmas ถึงสองเที่ยวบินที่ตรงมาจากจีน ทั้ง 2 เที่ยวบินนี้มีผู้ติดเชื้อมาแล้วเกิน 50% โดยตรวจพบที่จุดตรวจคนเข้าเมืองมิลาน อิตาลีเลยต้องออกประกาศเพราะพวกเขาเคยมีประสบการณ์เลวร้ายที่สุดจากการเมิยเฉยไม่สนใจอะไรปล่อยคนตายกลางถนนไปแล้วในรอบแรก กรี๊ดไหมล่ะทีนี้
รอลุ้นรัฐบาลไทยจะมีมาตรการอย่างไรสำหรับนักท่องเที่ยวจีน?
ยังเงียบมากๆ สำหรับความเคลื่อนไหวจากหน่วยงานของไทยเกี่ยวกับมาตรการการเดินทางเข้าประเทศของนักท่องเที่ยวจีน ตอนนี้นี้ยังไม่มีนโยบายใดๆที่เป็นมาตรการชัดเจน ต้องรอดูกันว่ามาตรการจะออกมาเมื่อไหร่ เพราะเจ้าของกิจการแบบเราเอาจริงๆ ก็หวั่นๆเพราะยอดติดเชื้อน่ากลัวมากๆ ปากท้องก็สำคัญ สุขภาพก็สำคัญ งานนี้ไม่รู้จะซ้ายหรือขวาดี ตอนนี้นานาประเทศต้องหันกลับมาถามตัวเองแล้วว่าการเปิดประเทศเพื่อตอนรับนักท่องเที่ยวจากจีนนั้น จะส่งผลกระทบอย่างไรให้กับประเทศ ถ้าไม่มีมาตราการที่มีมาตราฐานที่ชัดเจนปัญหาที่ตามมาหนีจะไม่พ้น
- จำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น
- การปิดๆเปิดๆกิจการต่างๆจะกลับมาอีกหรือไม่ และจะส่งผลทำให้เศรษฐกิจชะงักอีกไหม
- บุคลากรทางการแพทย์ ต้องรับมืออย่างหนัก อีกครั้งหรือไม่
คงต้องลุ้นอีกครั้งสำหรับกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวว่าสิ่งที่เราหวังกันมาตลอดจะเป็นดาบสองคมหรือไม่งานนี้ ผลกระทบด้วยปัจจัยเชิงพื้นที่และเศรษฐกิจเป็นอุปสรรค ซึ่งการเปิดรับนักท่องเที่ยวจีน อาจทำให้เกิดผู้ติดเชื้อที่มากขึ้น แต่หากไม่เปิดรับ ความเสียหายทางเศรษฐกิจก็จะตามมาด้วยเช่นกัน ฝากรัฐบาลอย่ามัวแต่ห่วงสร้างภาพแค่ทำยอดตัวเลขอย่างเดียว ห่วงประชาชนด้วย รายได้ก็ต้องมีแต่มาตรกันป้องกันก็ต้องรัดกุมมากๆ ไม่เอาแล้วนะ #เราจะตายกันหมด นะ
ที่มาข้อมูล : https://www.finnomena.com/the-opportunity/news-update-26-12-2022/
https://news.sky.com/story/covid-pa.........lifted-12775498
https://www.bangkokbiznews.com/world/1045114
#เปิดประเทศ
#นักท่องที่ยวจีน
#ยกเลิกมาตรการตรวจโควิด
#เศรษฐกิจไทย
แล้วอะไรที่กลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวหวังเป็นที่สุดล่ะ?
ก็กลุ่ม นักท่องเที่ยวจีน ไงเพราะที่ผ่านมาพิสูจน์มาแล้วว่า ยอดนักท่องเที่ยวไม่พุ่งแบบที่เราหวัง แถมพ่วงมากับยอดค่าใช้จ่ายต่อหัวต่ำมากๆ ก็เพราะตัวแประสำคัญอย่างคนจีนรุ่นใหม่สายเปย์ ที่กล้าช๊อป กล้าใช้ ทั้งของแบรนด์เนม พฤติกรรมซื้อของฝากเหมาล็อตกลับประเทศ นักท่องเที่ยวจีนนี่ที่สุด สามารถกระจายรายได้ในทุกกลุ่มของธุรกิจท่องเที่ยวเลยจริงๆ และนี่คือสิ่งที่เราก็ต้องยอมรับว่า นักท่องเที่ยวจีนคือแหล่งรายได้ที่ธุรกิจท่องเที่ยวไทยต้องการ
แต่พอจีนประกาศเปิดประเทศยกเลิกการตรวจโควิดและกักตัวใดๆ แล้วในวันที่ 8 ม.ค.66 เข้าจริงๆ และยังเป็นช่วงนี้ที่จีนระบาดพีคสุดจนคุมไม่อยู่ ขาดแคลนทั้งยาและการรักษา (เข้าใจเลือกช่วงเวลาเปิดประเทศซะด้วย) ผู้ประกอบการไทยอย่างเราเลยต้องเข้าสู่สถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ออกอาการหลอนๆ อีกครั้ง ว่าจะมากระตุ้นเศรษฐกิจเราแน่นะวิ! ไม่ใช่ปล่อยมาเพื่อกระจายเชื้อและมากว้านหายา หาอุปกรณ์แพทย์ ทำให้เราต้องเปิดที่กักตัวกันอีกรอบ
เลยไม่รู้จะดีใจหรือเสียใจดี เพราะจากข่าวตอนนี้ยอดติดเชื้อโควิด-19ในจีนนั้นพุ่งสูงขึ้นต่อวันเป็นหลักแสนในแต่ละมณฑล และหน่วยงานสาธารณสุขจีนประกาศหยุดเผยแพร่จำนวนผู้ติดเชื้อโควิดรายวันแล้ว ท่ามกลางข้อครหาว่า ตัวเลขที่ทางการเผยแพร่ออกมาต่ำกว่าความเป็นจริงมาก พร้อมประเมินว่าชาวจีนเกือบ 37 ล้านคนอาจพบติดเชื้อโควิด-19 ภายในวันเดียว นับเป็นสถิติการติดเชื้อมากที่สุดในโลกอีกด้วย
ญี่ปุ่นและอินเดีย ออกมาตราการเข้มสั่งตรวจโควิดนักท่องเที่ยวจีน!
ความเคลื่อนไหวของญี่ปุ่นและอินเดีย หลังจากรัฐบาลปักกิ่ง ประกาศยกเลิกกักตัวนักท่องเที่ยวตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค. 66 ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่เปิดท่องเที่ยวอย่างเสรีเหมือนกับเรา และได้รับความนิยมเพราะเป็นอีกจุดมุ่งหมายของเหล่านักท่องเที่ยว โดยญี่ปุ่นเองก็ออกมาประกาศตั้งรับนักท่องเที่ยวชาวจีนอย่างมีข้อแม้ทันที ว่านักท่องเที่ยวที่มาจากจีน จะต้องตรวจโควิด-19 เมื่อเดินทางถึงญี่ปุ่นและกักตัวเพื่อตรวจโควิดภายใน 7 วันจนกว่าจะมีผลเป็นลบจึงออกเที่ยวได้ โดยให้เหตุผลว่า "จีนมีการแพร่ระบาดโควิด-19 อย่างรวดเร็ว และสร้างความกังวลต่อญี่ปุ่น" ส่วนในอินเดียก็ต้องตรวจหาเชื้อให้เป็นลบก่อนเข้าประเทศ
สหรัฐฯและอิตาลีเป็น 2 ประเทศต่อมาที่ต้องใช้มาตรการแสดงผล Nagative Covid Test เพื่อป้องกันคนจีนที่จะทะลักเข้ามาในต้นปีนี้ ส่วนสหภาพยุโรปก็กำลังพิจารณาเงื่อนไขกันอยู่เพราะอิตาลีขอร้องให้ "ปกป้องกระชาชนก่อน" ทำไมอิตาลีถึงเครียดกับการเปิดประเทศของจีนครั้งนี้หรอ? ก็เพราะว่าล่าสุด อิตาลีได้ทดลองเปิดไฟลท์ Post-Christmas ถึงสองเที่ยวบินที่ตรงมาจากจีน ทั้ง 2 เที่ยวบินนี้มีผู้ติดเชื้อมาแล้วเกิน 50% โดยตรวจพบที่จุดตรวจคนเข้าเมืองมิลาน อิตาลีเลยต้องออกประกาศเพราะพวกเขาเคยมีประสบการณ์เลวร้ายที่สุดจากการเมิยเฉยไม่สนใจอะไรปล่อยคนตายกลางถนนไปแล้วในรอบแรก กรี๊ดไหมล่ะทีนี้
รอลุ้นรัฐบาลไทยจะมีมาตรการอย่างไรสำหรับนักท่องเที่ยวจีน?
ยังเงียบมากๆ สำหรับความเคลื่อนไหวจากหน่วยงานของไทยเกี่ยวกับมาตรการการเดินทางเข้าประเทศของนักท่องเที่ยวจีน ตอนนี้นี้ยังไม่มีนโยบายใดๆที่เป็นมาตรการชัดเจน ต้องรอดูกันว่ามาตรการจะออกมาเมื่อไหร่ เพราะเจ้าของกิจการแบบเราเอาจริงๆ ก็หวั่นๆเพราะยอดติดเชื้อน่ากลัวมากๆ ปากท้องก็สำคัญ สุขภาพก็สำคัญ งานนี้ไม่รู้จะซ้ายหรือขวาดี ตอนนี้นานาประเทศต้องหันกลับมาถามตัวเองแล้วว่าการเปิดประเทศเพื่อตอนรับนักท่องเที่ยวจากจีนนั้น จะส่งผลกระทบอย่างไรให้กับประเทศ ถ้าไม่มีมาตราการที่มีมาตราฐานที่ชัดเจนปัญหาที่ตามมาหนีจะไม่พ้น
- จำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น
- การปิดๆเปิดๆกิจการต่างๆจะกลับมาอีกหรือไม่ และจะส่งผลทำให้เศรษฐกิจชะงักอีกไหม
- บุคลากรทางการแพทย์ ต้องรับมืออย่างหนัก อีกครั้งหรือไม่
คงต้องลุ้นอีกครั้งสำหรับกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวว่าสิ่งที่เราหวังกันมาตลอดจะเป็นดาบสองคมหรือไม่งานนี้ ผลกระทบด้วยปัจจัยเชิงพื้นที่และเศรษฐกิจเป็นอุปสรรค ซึ่งการเปิดรับนักท่องเที่ยวจีน อาจทำให้เกิดผู้ติดเชื้อที่มากขึ้น แต่หากไม่เปิดรับ ความเสียหายทางเศรษฐกิจก็จะตามมาด้วยเช่นกัน ฝากรัฐบาลอย่ามัวแต่ห่วงสร้างภาพแค่ทำยอดตัวเลขอย่างเดียว ห่วงประชาชนด้วย รายได้ก็ต้องมีแต่มาตรกันป้องกันก็ต้องรัดกุมมากๆ ไม่เอาแล้วนะ #เราจะตายกันหมด นะ
ที่มาข้อมูล : https://www.finnomena.com/the-opportunity/news-update-26-12-2022/
https://news.sky.com/story/covid-pa.........lifted-12775498
https://www.bangkokbiznews.com/world/1045114
#เปิดประเทศ
#นักท่องที่ยวจีน
#ยกเลิกมาตรการตรวจโควิด
#เศรษฐกิจไทย
เลขไอพี : ไม่แสดง
| ตั้งกระทู้โดย Windows 10
อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)
ความคิดเห็น
จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google