สมัครทำบัตรเครดิต ต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง ทำอย่างไรให้สมัครผ่าน

26 ม.ค. 66 21:53 น. / ดู 1,441 ครั้ง / 1 ความเห็น / 0 ชอบจัง / แชร์

อยากจะสมัครบัตรเครดิต แต่ไม่มีประสบการณ์ จะต้องเตรียมตัวอย่างไร ทำบัตรเครดิต ใช้อะไรบ้าง ต้องเตรียมเอกสารอะไรเพื่อจะสมัครบัตรเครดิต หรือหลายคนมักจะสงสัยกันว่าอยากทำบัตรเครดิตแต่ไม่มีสลิปเงินเดือนจะสมัครทำบัตรเครดิตได้หรือไม่ ในบทความนี้จะมาแนะนำการสมัครทำบัตรเครดิตที่จะช่วยให้คุณสามารถสมัครผ่านได้ง่าย ๆ ได้บัตรเครดิตไปใช้แบบสบาย ๆ
บัตรเครดิต ตัวช่วยอำนวยความสะดวกในปัจจุบัน

บัตรเครดิต คือ ผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ทางสถาบันการเงินหรือธนาคารได้ออกมาให้กับลูกค้าที่มีความน่าเชื่อถือทางการเงิน โดยลูกค้าจะสามารถนำบัตรเครดิตนี้ไปใช้ชำระค่าสินค้าและบริการได้แทนเงินสด และหลังจากนั้นค่อยชำระเงินคืนสถาบันการเงินหรือธนาคารที่ออกบัตรเครดิตให้ในภายหลัง โดยรูปแบบการชำระเงินลูกค้าสามารถชำระได้ทั้งแบบเต็มจำนวนและการชำระแบบผ่อนจ่าย

โดยประโยชน์ของบัตรเครดิตนั้นจะช่วยให้ผู้ที่ต้องการใช้เงินชำระค่าใช้จ่ายต่าง ๆ แต่ในขณะนั้นยังมีเงินสดไม่พอสามารถใช้บัตรเครดิตชำระค่าใช้จ่ายเพื่อให้ได้สินค้าหรือบริการได้ หรือในบางครั้งอาจมีเงินสดพอแต่จะชำระสินค้าราคาสูง การจะพกเงินสดก้อนใหญ่ก็คงจะไม่สะดวกนัก การใช้บัตรเครดิตจะช่วยให้การใช้จ่ายของคุณมีความคล่องตัวมากขึ้น

ยิ่งไปกว่านั้นในปัจจุบันมักจะมีโปรโมชันสำหรับบัตรเครดิต เช่น เมื่อใช้บัตรเครดิตชำระสินค้าก็สามารถแบ่งผ่อนชำระได้โดยไม่มีดอกเบี้ย คุณสามารถนำเงินที่เหลือไปใช้ประโยชน์อื่น ๆ ได้อีก หรือโปรโมชันใช้บัตรเครดิตชำระมีส่วนลดพิเศษ ได้เครดิตเงินคืน หรือสะสมแต้มเพื่อให้ได้ของสมนาคุณ เรียกได้ว่าช่วยให้คุณได้รับความคุ้มค่ากว่าการชำระเงินสดแบบเดิม ๆ

นอกจากนี้บัตรเครดิตยังเป็นตัวแสดงถึงนิสัยทางการเงินของคุณได้เป็นอย่างดี หากในอนาคตมีแผนที่จะผ่อนบ้านผ่อนรถ การมีบัตรเครดิตจะช่วยให้ทางสถาบันการเงินหรือธนาคารพิจารณาอนุมัติได้ง่ายกว่า เพราะทางธนาคารจะสามารถดูประวัติทางการเงินของคุณได้จากการชำระบัตรเครดิตได้เลย

เงื่อนไขการสมัครทำบัตรเครดิต


อยากทำบัตรเครดิต แต่ไม่ใช่ว่าทุกคนจะสามารถทำบัตรเครดิตได้ เพราะทางสถาบันการเงินและธนาคารเองก็มีความเสี่ยงที่จะไม่ได้รับเงินคืืนจากลูกค้า ดังนั้นเพื่อลดปัจจัยเสี่ยงทางสถาบันการเงินหรือธนาคารก็จะมีเงื่อนไขและกำหนดคุณสมบัติผู้ที่สามารถสมัครบัตรเครดิตได้ ดังนั้นก่อนจะคิดว่าอยากทำบัตรเครดิตมาดูกันก่อนว่าคุณอยู่ในเงื่อนไขที่สามารถสมัครบัตรเครดิตได้หรือไม่ ดังนี้

- อายุของผู้สมัครบัตรเครดิต ส่วนมากมักตั้งเกณฑ์อยู่ที่อายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ขึ้นไปไม่เกิน 70 ปีบริบูรณ์ เพราะช่วงอายุเหล่านี้เป็นช่วงที่สามารถทำงานหาเงินได้อยู่
- รายได้ขั้นต่ำของผู้สมัครบัตรเครดิตจะอยู่ที่ 15,000 บาทต่อเดือนขึ้นไป และต้องเป็นรายได้ประจำ
- อายุงานของผู้ที่สมัครบัตรเครดิตจะต้องผ่านช่วงโปรฯ (ช่วงทดลองงาน) ไปแล้ว

เงื่อนไขเหล่านี้เป็นเพียงคุณสมบัติเริ่มต้นเท่านั้น นอกจากนี้จะมีเงื่อนไขคุณสมบัติอื่น ๆ ที่ทางธนาคารหรือสถาบันการเงินจะใช้พิจารณาอนุมัติบัตรเครดิตด้วย เช่น มีประวัติผิดวันชำระหนี้หรือไม่ เป็นพนักงานประจำหรือเป็นฟรีแลนซ์ หรือมีกิจการเป็นของตนเอง เพราะปัจจัยเหล่านี้ส่งผลต่อความน่าเชื่อถือในการชำระหนี้ให้กับสถาบันการเงินหรือธนาคารในอนาคต

เอกสารสำหรับใช้สมัครทำบัตรเครดิต

พูดถึงเงื่อนไขและคุณสมบัติเบื้องต้นในการทำบัตรเครดิตไปแล้ว หากคุณอยู่ในเงื่อนไขที่สามารถทำบัตรเครดิตได้ ต่อมาเรามาดูถึงทำบัตรเครดิตใช้อะไรบ้าง เอกสารสมัครบัตรเครดิตมีอะไรบ้าง การยื่นเอกสารที่ถูกต้องและครบถ้วนให้กับธนาคารจะช่วยให้ประหยัดเวลาในการพิจารณาอนุมัติบัตรเครดิตได้มากขึ้น เอกสารที่ใช้ทำบัตรเครดิตใช้อะไรบ้างไปดูกันเลย

1. สำเนาบัตรประชาชน

สำเนาบัตรประชาชนสำคัญกับการทำธุรกรรมทุกอย่าง เพราะใช้ในการยืนยันตัวตนของผู้ที่ต้องการทำบัตรเครดิต

2. สำเนาสลิปเงินเดือนย้อนหลัง

สิ่งที่ทางสถาบันการเงินหรือทางธนาคารจะพิจารณาความมั่นคงทางการเงินของผู้ที่ต้องการทำบัตรเครดิตได้คือการที่ผู้ที่ต้องการทำบัตรเครดิตมีรายได้ประจำอย่างสม่ำเสมอ และสิ่งที่เป็นตัวบอกได้ว่าผู้ที่ต้องการทำบัตรเครดิตมีรายได้ประจำคือสำเนาสลิปเงินเดือนนั่นเอง โดยผู้ที่ต้องการสมัครบัตรเครดิตจะต้องยื่นสำเนาสลิปเงินเดือนย้อนหลัง 3 เดือนให้กับธนาคารไว้พิจารณา

3. รายการเดินบัญชีย้อนหลัง (Statement)

นอกจากสำเนาสลิปเงินเดือนย้อนหลังจะเป็นตัวยืนยันความมั่นคงทางการเงินให้กับผู้ที่ต้องการทำบัตรเครดิตได้แล้วยังมีรายการเดินบัญชีย้อนหลังหรือสเตทเมนต์ด้วย โดยเฉพาะผู้ที่ไม่ได้ทำงานประจำ เป็นฟรีแลนซ์ แม่ค้า หรือผู้ที่มีกิจการเป็นของตนเองที่ไม่มีสลิปเงินเดือนก็สามารถยื่นสำเนารายการเดินบัญชีย้อนหลัง 6 เดือนให้ทางธนาคารพิจารณาแทนสำเนาสลิปเงินเดือนได้เช่นกัน

4. สำเนาหน้าบัญชีธนาคารตนเอง

สำเนาหน้าบัญชีธนาคารตนเองมีไว้สำหรับเพื่อยืนยันว่ารายการเดินบัญชีย้อนหลังที่ยื่นให้กับธนาคารเป็นของใคร บัญชีไหน อีกทั้งยังใช้ในกรณีที่เมื่อบัตรเครดิตอนุมัติแล้วและอยากจะชำระค่าบัตรเครดิตแบบตัดเงินจากบัญชีธนาคารก็จะสามารถทำได้เลย
ทำอย่างไรให้สมัครทำบัตรเครดิตผ่าน


ถึงแม้ว่าปัจจุบันจะมีหลายสถาบันการเงินหลายธนาคารที่ต่างก็หาลูกค้ามาสมัครทำบัตรเครดิต แต่ไม่ใช่ว่าแค่สมัครก็ผ่านได้ ผู้ที่จะสมัครบัตรเครดิตจำเป็นต้องมีคุณสมบัติเงื่อนไขที่ทางธนาคารกำหนด ดังนั้นจะมีวิธีสมัครบัตรเครดิตอย่างไรให้ผ่านง่าย มาดูได้ในหัวข้อนี้เลย

1. สำรวจตนเอง

ก่อนจะไปยื่นสมัครบัตรเครดิตลองหันมาสำรวจตนเองก่อนว่ามีคุณสมบัติตรงตามที่ธนาคารกำหนดหรือไม่ เพราะถ้าเงื่อนไขไม่ตรง คุณสมบัติไม่ครบ ยังไงทางเจ้าหน้าที่ประเมินก็ปัดตกเอกสารสมัครบัตรเครดิตของคุณอยู่ดี เราไปดูกันว่าสิ่งที่ต้องดูเบื้องต้นก่อนสมัครบัตรเครดิตนั้นมีอะไรบ้าง

- รายได้ของผู้สมัครบัตรเครดิต : ทุกธนาคารหรือสถาบันการเงินจะกำหนดขั้นต่ำของรายได้ของผู้สมัครบัตรเครดิต โดยขั้นต่ำจะอยู่ที่ 15,000 บาทต่อเดือน และเป็นเงินเดือนประจำด้วย
- อายุการทำงานของผู้สมัครบัตรเครดิต : ผู้ที่จะสมัครบัตรเครดิตจะต้องมีอายุงานมากกว่า 3-4 เดือนและผ่านช่วงทดลองงานมาแล้ว แต่ส่วนมากมักจะต้องมีอายุงานมากกว่า 6 เดือนขึ้นไป

2. เช็คประวัติเครดิตบูโร

เครดิตบูโรนั้นสำคัญมากในการทำธุรกรรมทางการเงิน รวมถึงการสมัครบัตรเครดิต เพราะเครดิตบูโรนั้นจะเป็นตัวข้อมูลทางการเงินของผู้ที่ทำบัตรเครดิตทั้งหมด ไม่ว่าจะมีหนี้สินค้างอยู่เท่าไหร่ ประวัติการชำระเงินดีไหม มีบัตรเครดิตอยู่กี่ใบ ข้อมูลเหล่านี้ทางธนาคารจะนำไปพิจารณา ประเมินความเสี่ยงในการอนุมัติบัตรเครดิตให้กับผู้สมัครบัตรเครดิตต่อไป

หากลองเช็คประวัติเครดิตบูโรตัวเองแล้วพบว่าติด Blacklist เครดิตบูโรอยู่และยื่นสมัครบัตรเครดิตไปผลมักจะสมัครบัตรเครดิตไม่ผ่าน เพราะทางธนาคารเองจะถือว่าคุณไม่มีความสามารถในการชำระหนี้

แต่หากยังไงก็อยากสมัครบัตรเครดิตให้ผ่านคุณจะต้องไปแก้สถานะเครดิตบูโรตนเองก่อนด้วยการชำระหนี้สินคงค้างทัั้งหมดก่อน และแจ้งไปยังบริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติว่าได้ชำระหนี้หมดแล้ว หลังจากนั้นเครดิตบูโรของคุณก็จะปลดสถานะ Blacklist ภายใน 30 วัน

3. เช็คเงื่อนไขบัตรเครดิตที่สนใจให้ดี

ก่อนจะสมัครบัตรเครดิตลองดูเงื่อนไขบัตรเครดิตที่ต้องการสมัครให้ดีก่อน เพราะบัตรเครดิตมีหลายแบบ มีเงื่อนไขในการใช้งานแตกต่างกัน เช่น

- ค่าธรรมเนียม : บัตรเครดิตนั้นมีค่าธรรมเนียมแรกเข้า ค่าธรรมเนียมรายปีหรือไม่
- อัตราดอกเบี้ย : บัตรเครดิตแต่ละแบบนั้นมีอัตราดอกเบี้ยไม่เท่ากัน เราต้องพิจารณาให้ดีว่าอัตราดอกเบี้ยนั้นเหมาะสมหรือไม่
- การชำระเงิน : บัตรเครดิตแต่ละที่อาจมีวันชำระเงินต่างกัน หากเป็นไปได้ควรเลือกบัตรเครดิตที่มีวันครบชำระเงินหลังเงินเดือนออกจะช่วยให้เราสามารถจัดการค่าใช้จ่ายได้ง่ายกว่า

4. เลือกบัตรเครดิตที่เหมาะสมกับตนเอง

บัตรเครดิตมีหลายรูปแบบหลายธนาคาร แต่ละแบบแต่ละที่ก็มีสิทธิประโยชน์ที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นบัตรเครดิตสำหรับนักช็อป ได้เครดิตเงินคืนหรือได้คะแนนสะสมไว้แลกของสมนาคุณ บัตรเครดิตสำหรับช็อปในห้างสรรพสินค้าที่ร่วมรายการได้รับส่วนลดเพิ่มเติม บัตรเครดิตสำหรับนักท่องเที่ยวได้สิทธิพิเศษสำหรับการเดินทางต่างประเทศ เป็นต้น ดังนั้นคุณควรเลือกบัตรเครดิตที่เหมาะสมต่อไลฟ์สไตล์ตนเองมากที่สุด

5. กรอกและเตรียมเอกสารสำหรับสมัครบัตรเครดิตให้พร้อม

เมื่อตัดสินใจและเลือกสมัครบัตรเครดิตจากธนาคารที่ใช่แล้วให้ทำการศึกษาเงื่อนไขของบัตรใบนั้น ๆ ว่าจะต้องยื่นเอกสารสมัครบัตรเครดิตอะไรบ้าง แต่โดยส่วนมากก็จะใช้ตามที่กล่าวไปในหัวข้อข้างต้น เมื่อเตรียมพร้อมทุกอย่างแล้วก็สามารถยื่นสมัครกับธนาคารได้เลย

ข้อดี-ข้อเสียของการทำบัตรเครดิต


อยากทำบัตรเครดิต? ลองดูข้อดีข้อเสียของการทำบัตรเครดิตดูก่อนดีไหม เพราะบัตรเครดิตก็เป็นดาบ
สองคม ถึงแม้จะมีประโยชน์มากแต่ก็สามารถทำให้เราเกิดปัญหาทางการเงินได้ง่ายเช่นกัน

ข้อดีของการทำบัตรเครดิต

- ช่วยให้การใช้จ่ายสะดวก รวดเร็วขึ้น ไม่ต้องพกเงินสดจำนวนมากติดตัว
- สามารถหักค่าใช้จ่ายตามรอบบิลได้เลย ไม่ต้องกังวลว่าจะลืมชำระ เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ เป็นต้น
- ได้สิทธิพิเศษเพิ่มเติม คุ้มกว่าการชำระเงินสด เช่น ได้รับส่วนลดเพิ่ม ได้เครดิตเงินคืน ได้แต้มสะสม เป็นต้น
- ใช้เป็นตัวสร้างเครดิตทางการเงินที่ดี หากมีแพลนจะกู้เงินซื้อบ้าน ซื้อรถ การมีบัตรเครดิตจะช่วยให้ผลอนุมัติกู้ทำได้ง่ายกว่า

ข้อเสียของการทำบัตรเครดิต

- หากใช้งานไม่ระวัง บัตรเครดิตก็สามารถทำให้คุณมีหนี้สินเพิ่มขึ้นได้ เพราะคุณจะลืมตัวและรูดบัตรแบบไม่คิด สุดท้ายหาเงินชำระคืนได้ไม่ทัน
- การชำระเงินด้วยบัตรเครดิตมักจะมีดอกเบี้ย ทำให้คุณต้องจ่ายค่าสินค้าและบริการที่แพงกว่าเดิม

ทำบัตรเครดิต KTC สมัครง่าย อนุมัติไว พร้อมโปรโมชันมากมาย

อยากทำบัตรเครดิตใช้อะไรบ้าง? เรามาดูสิทธิพิเศษของบัตรเครดิต KTC แต่ละแบบ พร้อมทั้งเงื่อนไขคุณสมบัติการสมัครบัตรเครดิตแบบนั้น ๆ กันได้ในหัวข้อนี้

1. บัตรเครดิต KTC JCB ULTIMATE


บัตรเครดิต KTC JCB ULTIMATE บัตรเครดิตสำหรับนักท่องเที่ยว นักช็อปที่มักใช้จ่ายจากเครื่องที่มีสัญลักษณ์ JCB มีสิทธิพิเศษ เช่น

- ใช้จ่ายในสกุลเงินต่างประเทศรับคะแนน X2
- เข้าใช้บริการห้องรับรองพิเศษ Royal Orchid Lounge Services 2 ครั้ง/ปี
- Airport Lounge บริการห้องรับรองในสนามบินญี่ปุ่น จีน ไต้หวัน เกาหลี  สิงคโปร์  มาเลเซีย เวียดนาม เยอรมนี สหราชอาณาจักร และฮาวา
- JCB Plaza Lounge บริการห้องรับรองใน 9 ประเทศ และบริการเลขาส่วนตัวผ่าน JCB Plaza ท่ัวโลก
รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 400 บาทเมื่อเติมน้ำมันครั้งแรกภายใน 30 วันนับจากวันอนุมัติบัตรเครดิต ตามเงื่อนไจที่กำหนด

ค่าธรรมเนียมและดอกเบี้ย

- ไม่มีค่าธรรมเนียมรายปี
- ดอกเบี้ย 0% สูงสุด 10 เดือน
- เปลี่ยนยอดชำระรายการซื้อสินค้า/บริการของเดือนถัดไปเป็นยอดผ่อนชำระได้ ด้วยอัตราดอกเบี้ย 0.74% สูงสุด 10 เดือน ง่ายๆ ผ่านแอป KTC Mobile หรือโทร KTC PHONE 02 123 5000 กด 4

คุณสมบัติ

- อายุ 20 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป
- รายได้ 50,000 บาทขึ้นไป / เดือน
- รายได้ 50,000 บาทขึ้นไป / เดือน (สำหรับชาวต่างชาติ)

2. บัตรเครดิต KTC VISA PLATINUM


บัตรเครดิต KTC VISA PLATINUM ช่วยให้การใช้จ่ายในชีวิตประจำวันของคุณคล่องตัวขึ้น โดยมีสิทธิพิเศษดังนี้

- บริการผู้ช่วยส่วนตัว (KTC PERSONAL ASSISTANT) ตลอด 24 ชั่วโมง
- ประกันอุบัติเหตุและประกันเดินทาง
- รับคะแนนง่าย ๆ ทุก 25 บาทที่ใช้จ่ายผ่านบัตรได้รับ 1 คะแนน สามารถสะสมคะแนนเพื่อแลกรับสินค้า / บริการ ณ ร้านค้าที่ร่วมรายการ คะแนนสะสมไม่มีวันหมดอายุ

ค่าธรรมเนียมและดอกเบี้ย

- ไม่มีค่าธรรมเนียมรายปี
- ดอกเบี้ย 0% สูงสุด 10 เดือน
-เปลี่ยนยอดชำระรายการซื้อสินค้า/บริการของเดือนถัดไปเป็นยอดผ่อนชำระได้ ด้วยอัตราดอกเบี้ย 0.74% สูงสุด 10 เดือน ง่ายๆ ผ่านแอป KTC Mobile หรือโทร KTC PHONE 02 123 5000 กด 4

คุณสมบัติ

- อายุ 20 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป
- รายได้ 15,000 บาทขึ้นไป / เดือน
- รายได้ 50,000 บาทขึ้นไป / เดือน (สำหรับชาวต่างชาติ)

3. บัตรเครดิต KTC WORLD REWARDS MASTERCARD


บัตรเครดิต KTC WORLD REWARDS MASTERCARD บัตรเครดิตสำหรับนักเดินทางโดยเฉพาะ มีสิทธิพิเศษ เช่น

- ใช้จ่ายในสกุลเงินต่างประเทศรับคะแนน X2
- เข้าใช้บริการห้องรับรองพิเศษ Royal Orchid Lounge Services 2 ครั้ง/ปี
- บริการผู้ช่วยส่วนตัว (KTC PERSONAL ASSISTANT)

ค่าธรรมเนียมและดอกเบี้ย

- ไม่มีค่าธรรมเนียมรายปี
- ดอกเบี้ย 0% สูงสุด 10 เดือน
หรือผ่อนชำระดอกเบี้ยพิเศษ 0.69% เมื่อทำรายการผ่าน KTC PHONE สำหรับรายการใช้จ่ายที่ฮ่องกง สิงคโปร์ มาเลเซีย และอินโดนีเซีย
- เปลี่ยนยอดชำระรายการซื้อสินค้า/บริการของเดือนถัดไปเป็นยอดผ่อนชำระได้ ด้วยอัตราดอกเบี้ย 0.74% สูงสุด 10 เดือน ง่ายๆ ผ่านแอป KTC Mobile หรือโทร KTC PHONE 02 123 5000 กด 4

คุณสมบัติ

- อายุ 20 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป
- รายได้ 50,000 บาทขึ้นไป / เดือน
- รายได้ 50,000 บาทขึ้นไป / เดือน (สำหรับชาวต่างชาติ)

4. บัตรเครดิต KTC UNIONPAY DIAMOND


บัตรเครดิต KTC UNIONPAY DIAMOND ให้สิทธิพิเศษมากมายทั้งการใช้บริการในไทยและต่างประเทศ เช่น

- ใช้จ่ายในสกุลเงินต่างประเทศรับคะแนน X2
- เข้าใช้บริการห้องรับรองพิเศษ Royal Orchid Lounge Services 2 ครั้ง/ปี
- U Collection รับส่วนลด และสิทธิพิเศษจากร้านค้า ร้านอาหาร โรงแรม ท่องเที่ยว ระดับพรีเมี่ยมทั้งใน และต่างประเทศ
- e-Coupon ส่วนลดและสิทธิพิเศษต่างๆ ผ่าน U Plan Platform จากร้านค้าชั้นนำที่ร่วมรายการในประเทศไทย และต่างประเทศ ผ่าน UnionPay International WeChat Official Account และหน้าร้านค้าที่เข้าร่วมรายการ
- บริการผู้ช่วยส่วนตัว (KTC PERSONAL ASSISTANT)
- บริการข้อมูลเพื่อการเดินทางและท่องเที่ยว พร้อมรับส่วนลดประกันท่องเที่ยว 20%

ค่าธรรมเนียมและดอกเบี้ย

- ไม่มีค่าธรรมเนียมรายปี
- ดอกเบี้ย 0% สูงสุด 10 เดือน
- เปลี่ยนยอดชำระรายการซื้อสินค้า/บริการของเดือนถัดไปเป็นยอดผ่อนชำระได้ ด้วยอัตราดอกเบี้ย 0.74% สูงสุด 10 เดือน ง่ายๆ ผ่านแอป KTC Mobile หรือโทร KTC PHONE 02 123 5000 กด 4

คุณสมบัติ

- อายุ 20 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป
- รายได้ 50,000 บาทขึ้นไป / เดือน
- รายได้ 50,000 บาทขึ้นไป / เดือน (สำหรับชาวต่างชาติ)

ไม่มีสลิปเงินเดือน ทำบัตรเครดิตได้ไหม?

อยากทําบัตรเครดิตแต่ไม่มีสลิปเงินเดือน สมัครบัตรเครดิตได้หรือไม่? คำตอบคือ ได้ โดยสามารถยื่นเอกสารแสดงรายได้อย่างอื่นนอกจากสลิปเงินเดือนได้ เช่น รายการเดินบัญชีย้อนหลัง 6 เดือน หรือในบางคนที่เป็นพนักงานประจำแต่ไม่ได้รับสลิปเงินเดือนก็สามารถยื่นเอกสารอื่นได้ เช่น หนังสือรับรองเงินเดือนจากบริษัทที่จ่ายเงินเดือนให้ หรือหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย (ทวิ 50) เป็นต้น

สำหรับการทำบัครเครดิตกับ KTC กรณีไม่มีสลิปเงินเดือนก็สมัครบัตรเครดิต KTC ได้โดยมีรายได้รวมเริ่มต้น 15,000 บาทต่อเดือนขึ้นไปก็สามารถสมัครบัครเครดิตได้แล้ว

เอกสารที่ต้องใช้สำหรับทำบัตรเครดิตกรณีไม่มีสลิปเงินเดือน

ไม่มีสลิปเงินเดือนแต่อยากทำบัตรเครดิตใช้อะไรบ้าง ?

- รายการเดินบัญชีย้อนหลัง 6 เดือน โดยเป็นรายการเดินบัญชีที่ใช้ทำธุรกิจหรือรายการเดินบัญชีส่วนตัวก็ได้
- หนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย (ทวิ 50) แสดงรายได้ปีล่าสุด
- หนังสือรับรองเงินเดือนจากบริษัทที่จ่ายเงินเดือนให้
- สำเนาการจดทะเบียนพาณิชย์ หรือสำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล (กรณีเจ้าของกิจการ)

ข้อสรุป

บัตรเครดิตมีประโยชน์แก่ผู้ใช้งานมากมายทั้งในเรื่องของสิทธิประโยชน์เพิ่มเติม ช่วยเพิ่มสภาพคล่องทางการเงิน หรือช่วยเป็นเครดิตที่ดีให้กับผู้ใช้งาน แต่อย่างไรก็ตามหากไม่ระวังในการใช้จ่ายอาจเป็นผลเสียต่อผู้ใช้งาน กลายเป็นมีหนี้สินมากกว่าเดิมได้

สำหรับผู้ที่อยากสมัครบัตรเดรดิตแต่ไม่ทราบว่าทำบัตรเครดิตใช้อะไรบ้าง ส่วนมากทุกสถาบันการเงินมักจะให้ยื่นเอกสารที่คล้าย ๆ กันเช่นสำเนาบัตรประชาชน สำเนาสลิปเงินเดือน/สำเนาสเตทเมนต์ หรือหนังสือรับรองรายได้อื่น ๆ เท่านั้น นอกเหนือจากนี้จะเป็นเรื่องคุณสมบัติของผู้สมัครบัตรเครดิตเพิ่มเติมตามที่ทางธนาคารกำหนด
แก้ไขล่าสุด 26 ม.ค. 66 21:56 | เลขไอพี : ไม่แสดง | ตั้งกระทู้โดย Windows 10

อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)

ความคิดเห็น

#1 | sz463257 | 27 ม.ค. 66 00:18 น.

สุดยอดด  

ไอพี: ไม่แสดง | โดย Windows 10

แสดงความคิดเห็น

จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google